สหพันธ์ขนส่งทางบกฯ จี้รัฐเร่งแก้วิกฤตจราจรแหลมฉบัง ส่วยแซงคิวคันละ 1,000 บาท

กรงเทพฯ 26 ก.พ. – สหพันธ์การขนส่งทางบกฯ จี้รัฐเร่งแก้วิกฤตจราจรท่าเรือแหลมฉบัง-ส่วยแซงคิวคันละ 1,000 บาท เกิดมานานกว่า 14 ปี เสียหายแล้วกว่า 3.45 หมื่นล้านบาท ขีดเส้นภายใน 3 เดือน หากยังไม่เห็นความชัดเจน เตรียมยกระดับการเรียกร้อง


นายทองอยู่ คงขันธ์ ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย และเครือข่าย ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนให้รัฐบาลได้ทราบถึงวิกฤติปัญหาการจราจรติดขัดและอื่นๆ ต่อรัฐบาลตั้งแต่สมัยนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร พ.ศ.2554 เป็นต้นมา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และล่าสุด นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร เมื่อเดือน พ.ย.2567  รวมถึงรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม  กรรมาธิการการคมนาคม วุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎร การท่าเรือแห่งประเทศไทย ท่าเรือแหลมฉบัง องค์กรเอกชนโดยตรง ประชุมทั้งระดับปฏิบัติการ บริหาร และระดับรัฐบาลมายาวนานกว่า 10 ปีขึ้นไป ทุกระดับขั้น แต่ปัญหาดังกล่าวยังไม่เคยได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังอย่างเป็นรูปธรรม และนับวันวิกฤติปัญหาการจราจรติดขัดในท่าเรือแหลมฉบังส่งผลรุนแรงขึ้น กระทบต่อผู้ใช้บริการนำเข้า ส่งออก และผู้ประกอบการขนส่ง รวมถึงอุตสาหกรรมการขนส่ง การผลิตสินค้า และการท่องเที่ยว และชุมชนโดยรอบพื้นที่

สำหรับปัญหาหลักที่เกิดขึ้น ได้แก่ 1. ปัญหา ด้านชีวอนามัยและสุขภาพของพนักงานขับรถ เนื่องร่างกายไม่ได้พักผ่อนขึ้น-ลง รับส่งตู้สินค้า มีปัญหาความเครียด หลับใน อ่อนเพลีย พักผ่อนไม่เพียงพอ สภาพร่างกายไม่พร้อมในการทำงาน ต้องกินนอนในรถ อาจจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ โดยเฉพาะการปฏิบัติที่ไม่สอดคล้องกับ พรบ.ขนส่งทางบก พ.ศ. 2522  กฎหมาย พรบ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอื่นๆ นอกจากนี้ ขณะติดเครื่องเปิดแอร์ จอดรอขึ้นลง รับตู้สินค้าเพิ่ม ทำให้เกิด ฝุ่นพิษ PM 2.5 เพิ่มขึ้น ในเขตท่าเรืออุตสาหกรรมชุมชนทั่วจังหวัดชลบุรี


2.ความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมที่เกี่ยวข้อง โดยท่าเรือแหลมฉบัง มีรถจอดและรอตัด รอขึ้น-ลงรับ-ส่งตู้สินค้า และอื่นๆ เปลี่ยนรถหมุนเวียนเข้า ออกท่าเรือแหลมฉบัง ประมาณ 14,000 คัน/วัน รถติดขัดรอ / จอดรอตลอด 24 ชั่วโมง 8-10 ชั่วโมง/วัน อัตราเฉลี่ยติดเครื่องยนต์รอคอย = 8 ชั่วโมง/วัน/คัน หรือราว 26 วัน/เดือน  สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงพันล้านบาท/ปี  ทำโดยปัญหานี้เกิดมานานถึง 14 ปี คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย กว่า 34,594,456,000 บาท

ขณะที่ท่าเรือกรุงเทพ , ICD รถไฟลาดกระบัง มีจำนวนปริมาณรถบรรทุกวิ่งเข้า-ออก รอรับงาน รอขนส่งตู้ ขึ้น-ลง และนำสินค้าเข้ามาบรรจุขนถ่าย ลักษณะเหมือนกันกับท่าเรือแหลมฉบัง เกิดปัญหาจราจรลักษณะคล้ายคลึงกัน แตะระยะเวลารอคอยน้อยกว่า ประมาณ 3-6 ชั่วโมง / วัน  รวม  ระยะเวลา 14 ปี ที่ผ่านมา สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง 17,297,280,000 บาท

รวมการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยทั้ง 2 แห่ง รวมท่าเรือกรุงเทพ, ICD รถไฟลาดกระบัง ที่ 34,594,560,000 บาท ทั้งนี้ยังไม่รวมรถเพิ่มปริมาณจำนวนเที่ยวของการจ่ายงานรถขึ้นล่อง ที่นำสินค้ามาลงแล้ว ไม่รวมรถรับสินค้ากลับไม่ทันเป็น Single Trip / ทำเที่ยวไม่ขาดรายได้ขาดเบี้ยเลี้ยง มีผลต่อเศรษฐกิจ การขนส่งเที่ยวมีสินค้าไปแล้ว ไม่มีสินค้ากลับ โรงงานปิดรับสินค้าไม่ได้ ต้องวิ่งเที่ยวเปล่าไปบริษัท ทำให้ผู้ประกอบการขาดรายได้ วิ่งเที่ยวเปล่าเสียพลังงานน้ำมันฟรี เผาผลาญน้ำมันโดยไม่มีสินค้า ขากลับนับหมื่นล้านบาท/ปี  โดยข้อมูลล่าสุดปี 2567 พบว่าปัญหาจราจรติดขัด ทำให้เกิดการเผาผลาญน้ำมันเชื้อดีเซลรถบรรทุก และรถประเภทอื่นๆ  ทั่วประเทศ ปีละประมาณ 66,000 ล้านบาท / ปี


โดยปัญหาจราจรติดขัดนี้ทำให้เกิดปัญหาตามมาคือ “ส่วยแซงคิว” ที่ในอดีตเริ่มต้นตั้งแต่คันละ 200 -400 บาท จนปัจจุบันขยับขึ้นมาเป็น 1,000 บาทต่อคัน ประเมินว่ามีรายได้จากส่วนแซงคิวในหลักล้านบาทต่อวัน โดยเชื่อว่าต้องมีการทำการเป็นขบวนการ

ทางสมาพันธ์การขนส่งทางบก จึงขอเรียกร้อง ผู้บริหารระดับจังหวัด กลุ่มจังหวัด (EEC)  และรัฐบาลต้องบริหารจัดการ อย่างสมดุลและอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน มิให้ส่วนใดส่วนหนึ่งมีปัญหา โดย จะรวบรวมข้อมูลประเด็นปัญหานำเสนอต่อ นายกรัฐมนตรี อีกครั้งภายในสัปดาห์นี้ ต้องการเห็นการแก้ปัญหาที่เป็นรูปธรรม ภายใน 3 เดือน หากไม่มีความคืบหน้า เตรียมยกระดับการเรียกร้องดำเนินการตามโครงการ TRUCK POWER SEASON  IV  ร่วมกับพันธมิตรภาคีเครือข่ายภาคขนส่งและโลจิสติกส์กว่า 13 สมาคม จัดกิจกรรมประท้วงท่าเรือแหลมฉบังสะท้อนประเด็นต่างๆ ภายใต้โครงการ “9 ทัพ ขยับแหลมฉบัง อนาคตหรือบทเรียน”  เพื่อให้ภาครัฐและหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของภาคการขนส่งของผู้ประกอบการขนส่งแหลมฉบัง (ชลบุรี)  ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมนำเข้าและส่งออก จากทั่วประเทศ  โดยใช้พลังรวมพลคนรถบรรทุกจากทั่วประเทศ.-516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.สั่งเยียวยา ตรวจสอบเหตุ ฮ.ตำรวจตก

ประจวบคีรีขันธ์ 24 พ.ค. – ลำเลียงร่างตำรวจ 3 นาย เสียชีวิตจาก ฮ.ตก ส่งชันสูตร ด้าน ผบ.ตร.สั่งเยียวยาเต็มที่ ให้เร่งตรวจสอบหาสาเหตุโดยด่วน ช่วงบ่ายของวันนี้ เกิดเหตุ เฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติประสบอุบัติเหตุ ระเบิดกลางอากาศ จนมีตำรวจเสียชีวิต 3 นาย จุดเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ บ้านหนองกก ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า เฮลิคอปเตอร์ที่ประสบเหตุเป็นรุ่น เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเดินทางจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจะบินกลับที่หน่วย ตชด. จังหวัดกาญจนบุรี อุบัติเหตุในครั้งนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 นาย ประกอบด้วยนักบิน 2 คน คือ พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ, ร.ต.ท.ทรงพล บุญชัย และ ช่างเครื่อง 1 คน คือ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย สาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ […]

ฮ.ตำรวจตก จ.ประจวบฯ เสียชีวิต 3 นาย

ประจวบฯ 24 พ.ค. – คืบหน้าเหตุเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ จ.ประจวบฯ พบผู้เสียชีวิต 3 นาย เป็นนักบิน 2 ช่างเครื่อง 1 ความคืบหน้าเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ใกล้เคียงวัดหนองพังพวย ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากการตรวจสอบพบว่าเหตุเกิดเมื่อเวลา 13.10 น. มีผู้เสียชีวิต 3 นายคือ พันตำรวจตรีประเทือง ชูเลิศ นักบิน ร้อยตำรวจเอกทรงพล บุญชัย นักบิน และร้อยตำรวจโททินกฤต สุวรรณน้อย ช่างเครื่อง สำหรับภารกิจขึ้นบิน อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ขึ้นจากท่าแร้งไปต่างจังหวัด หรือเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ประจำการในพื้นที่แล้วปฏิบัติภารกิจ ล่าสุดมีภาพผู้เสียชีวิตบางส่วน และบางรายโดดร่มลงจากเฮลิคอปเตอร์ แต่รายละเอียดยังไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายโมงที่ผ่านมา และทุกอย่างยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้นบินจากค่ายอาภากรเกียรติวงศ์ จ.ชุมพร ปลายทางค่ายนเรศวร จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตทั้ง 3 นายและครอบครัว สั่งการเร่งด่วนให้ช่วยเหลือเยียวยา และตรวจสอบสาเหตุต่อไป.-สำนักข่าวไทย

สายลับไรเดอร์ ตามจับบัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์

เชียงใหม่ 24 พ.ค.-ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ ปลอมตัวเป็นไรเดอร์ สะกดรอยตามจับ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักท่องเที่ยวผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก เปิดให้จองที่พักทิพย์ตามแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในจังหวัด เสียหายมากถึงวันละ 300,000 บาท โดยมีเงินโอนเข้าบัญชีม้าไม่ต่ำกว่า 50 บัญชี แก๊งนี้ทำมาแล้วกว่า 6 เดือน ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ นำหมายจับศาลเชียงใหม่ ติดตามจับกุมนายบุญ (หนุ่มชาติพันธุ์) คาห้องเช่า ใกล้พรมแดน ในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับ ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และความผิดตามพรบ.คอมพิวเตอร์ คดีหลอกลวงทางออนไลน์ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง เครื่องนับเงินสด และเงินสดอีกจำนวน 20,000 บาท สมุดบัญชีธนาคาร บัตรกดเงินสด หลายรายการ ซุกซ่อนในตู้เสื้อผ้า นอกจากนี้ ยังขยายผลจับกุมผู้ต้องหา ที่เปิดบัญชีม้า ในการรับโอนเงินได้อีก 3 คน และอยู่ระหว่างขยายผลเพิ่มเติม โดยเฉพาะคนที่จัดหาบัญชีม้า และโทรศัพท์มือถือ สำหรับใช้ในการกระทำความผิดกับผู้ต้องหา ด้าน พันตำรวจโท อวิรุทธ์ สุขแย้ม […]

ทหารเมียนมา ต้านไม่ไหว ฐานเจดีย์ขาวเบอโด้ แตกแล้ว

ตาก 24 พ.ค.-ทหารเมียนมา ต้านไม่ไหว ฐานเจดีย์ขาวเบอโด้ แตกแล้ว ถึงแม้ว่าทหารเมียนมาจะใช้เครื่องบินมาทิ้งระเบิดตลอดทั้งวัน พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจราชมนู (ผบ.ฉก.ราชมนู) กองกำลังนเรศวร เปิดเผยถึงสถานการณ์สู้รบบริเวณแนวชายแดน ประเทศเมียนมา ที่ติดอยู่กับประเทศไทย การสู้รบอยู่บริเวณด้านตรงข้าม บ.ห้วยน้ำนัก ม.4 ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 1 กิโลเมตร โดยหลังจากทหารเมียนมา ใช้อากาศยาน แบบ Y-12 บินตรวจการณ์และทิ้งระเบิด จำนวนประมาณ 30 ลูก โจมตี กกล.KNLA บริเวณพื้นที่โดยรอบ ฐานเจดีย์ขาว บ.เบอโด้ อ.ซูการี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สหภาพเมียนมา เพื่อสนับสนุนการป้องกันฐานที่มั่น หลังจากถูก กกล.KNLA ปิดล้อมและโจมตี แต่ก็ไม่สามารถต้านทาน กกล.KNLA ได้ กระทั้งเวลา 19.00 น. กกล.KNLA สามารถเข้าควบคุมฐานเจดีย์ขาว ได้สำเร็จ สามารถตรวจยึดอาวุธและยุทโธปกรณ์ได้หลายรายการ […]

ข่าวแนะนำ

“วันหงส์แดงแห่งชาติ” ลิเวอร์พูลฉลองแชมป์สมัยที่ 20

25 พ.ค. – แฟนบอลลิเวอร์พูลในเมืองไทย จัดงาน “วันหงส์แดงแห่งชาติ” เฉลิมฉลองแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษ สมัยที่ 20 โดยมี ยอห์น อาร์เน่ รีเซ ตำนานนักเตะลิเวอร์พูล ร่วมขึ้นรถแห่ฉลอง.-สำนักข่าวไทย

งานวิ่งทิพย์ไร้ผู้จัด นักวิ่งกว่าพันคนโดนเท

กรุงเทพฯ 25 พ.ค. – นักวิ่งนับพันคนโดนเทในงานวิ่งทิพย์ “Run for destination” แห่แจ้งความวุ่น ขณะที่สาวชุดดำ หนึ่งในสตาฟฟ์ โผล่มาคนเดียว ประกาศคืนเงินคนละ 10 บาท เรื่องวุ่นๆ ของคนรักวิ่ง เช้านี้ (25 พ.ค.) นักวิ่งถึงกับมึนเมื่อโดนผู้จัดงานเท กลายเป็นงานวิ่งทิพย์ มีแค่ซุ้มประตู เต็นท์กิจกรรม และรถห้องน้ำ แต่ไม่มีผู้จัด หนึ่งในสตาฟฟ์โผล่มาคนเดียว บอกไม่ได้อ่านไลน์กลุ่ม จึงไม่ทราบผู้จัดและทีมงานถอนตัวไปก่อนหน้านี้แล้ว กลายเป็นวุ่นวายกันตั้งแต่ช่วงเช้า (25 พ.ค. 68) เมื่อนักวิ่งต่างแห่แชร์ในโลกโซเชียล งานวิ่ง Run For Destination 2025 เป็นงานวิ่งทิพย์ ตามกำหนดจัดขึ้นที่สวนหลวง ร.9 กรุงเทพฯ และทุกอย่างพร้อม นักวิ่งพร้อม แต่ไม่มีผู้จัดงาน โดนเทกันครั้งใหญ่ สำหรับงานวิ่ง Run For Destination 2025 มีกำหนดวิ่งในวันนี้ ที่สวนหลวง ร.9 […]

พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 2 นายตำรวจ ฮ.ตก

25 พ.ค. – พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 2 นายตำรวจเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ด้าน ผบ.ตร. สั่งเร่งสอบสวนหาสาเหตุ พร้อมช่วยเหลือเยียวยาและให้กำลังใจครอบครัว ความคืบหน้ากรณีเฮลิคอปเตอร์ รุ่นเบลล์ 212 หมายเลขประจำเครื่อง 2215 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสบอุบัติเหตุตกบริเวณพื้นที่บ้านหนองกก ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทำให้ 3 นายตำรวจ ประกอบด้วย พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ (ตำแหน่งนักบิน สบ 2) อายุ 33 ปี, ร.ต.อ.ทรงพล บุญชัย (ตำแหน่งนักบิน สบ 1) อายุ 34 ปี และ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย (ตำแหน่งช่างอากาศยาน สบ 1) อายุ 55 ปี เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (24 พ.ค.) ขณะเฮลิคอปเตอร์กำลังบินจาก […]

นายกฯ จ่อถกนอกรอบเมียนมา แก้น้ำท่วมเชียงราย

บน.6 25 พ.ค. – นายกฯ เตรียมถกนอกรอบเมียนมา แก้ปัญหาน้ำท่วมเชียงราย บอกสถานการณ์คลี่คลายเร็ว เพราะเตรียมพร้อมตั้งแต่ปีที่แล้ว นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนเดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 46 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย และสารปนเปื้อนในแม่น้ำกก ว่า เรื่องสารปนเปื้อนได้สั่งการแล้ว แต่ต้องดูรายละเอียดต่อ ซึ่งได้มีการคุยกันนอกรอบแล้ว และมีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูเรื่องนี้ด้วย ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมขณะนี้คลี่คลายลงแล้ว มีการจัดตั้งโรงครัวดูแลพี่น้องประชาชน และจากที่พื้นที่แจ้งมา ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต น้ำท่วมครั้งนี้คลี่คลายได้เร็ว เพราะเรามีบทเรียนจากปีที่แล้ว ซึ่งตนได้สั่งการตั้งแต่ปีที่แล้วว่า เป้าหมายของเราจะทำอย่างไรไม่ให้แย่ไปกว่าเดิม ไม่ให้น้ำท่วมหนักเหมือนเดิม อะไรที่เคยเกิดขึ้นแล้วต้องเบาลงทุกอย่าง นั่นคือสิ่งที่ตั้งใจ ไม่ว่าจะเกิดภัยพิบัติอะไรก็ตาม จะต้องเบาลง นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ฤดูฝนนี้เรามีการขุดลอกคูคลอง ซึ่งได้ทำไว้ตั้งแต่น้ำท่วมปีที่แล้ว จึงทำให้น้ำท่วมครั้งนี้ไม่หนัก ซึ่งถือว่าช่วยได้เยอะมาก ส่วนเส้นทางของน้ำที่เราตกลงกับเมียนมา ประมาณ 20 กว่ากิโลเมตร ในส่วนของเราเริ่มแล้ว แต่บังเอิญทางเมียนมามีปัญหาเรื่องแผ่นดินไหว เขาจึงเริ่มช้ากว่าเรา ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศและกองทัพคุยหมดแล้ว และเขาเตรียมความพร้อมที่จะเริ่มแล้ว การที่ตนไปประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน […]