ตลท.คาดอีก 1-2 สัปดาห์ เห็นคาดความชัดเจน LTF 2

กรุงเทพฯ 14 ก.พ. – ตลท.เผยคาดเห็นความชัดเจน LTF 2 ตามนโยบายคลังที่จะตั้งกองใหม่เพื่อลดการขาย LTF1 ที่หมดอายุ ด้าน บลจ.วรรณ มองหุ้นไทยที่ลดต่ำเป็นจุดที่น่าลงทุน พร้อมเผยหุ้นสหรัฐยังมีทิศทางไปต่อจากนโยบาย “ทรัมป์”


นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวในงาน INVESMENT FORUM 2025 33 years ONE AM ว่า ได้ปรึกษาหารือกับกระทรวงการคลังเพื่อออกผลิตภัณฑ์ที่จะกระตุ้นตลาดทุนไทย ซึ่งปีที่ผ่านมามีกองทุน ThaiESG เม็ดเงินไหลเข้าราว 3-4 หมื่นล้านบาท แต่ส่วนใหญ่ลงทุนในกองทุนที่ลงทุนพันธบัตรค่อนข้างมาก ซึ่งจากการปรึกษาหารือจะผลักดันให้มีทางเลือกที่เป็น “LTF 2” ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ที่เน้นการสนับสนุนด้าน ESG และลงทุนในหุ้น ซึ่งตอนนี้กระทรวงการคลังกำลังพิจารณาและหวังว่าใน 1-2 สัปดาห์นี้จะเห็นความชัดเจนมากขึ้นในระยะสั้น ประเด็นการสร้างความเชื่อมั่น Trust and Confidence เป็นเรื่องที่ ตลท. ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ร่วมกันทำงานกันค่อนข้างหนัก เนื่องจากช่วงที่ผ่านมามีเหตุการณ์ที่กระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนค่อนข้างมาก ต้องใช้เวลาในการดึงความเชื่อมั่นกลับมา

นอกจากนี้ ตลท.เร่งการทำความรวดเร็วในแผยแพร่ข้อมูลต่างๆ โดยดำเนินการที่คำนึงถึงการทำให้ทุกคนเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและเท่าเทียม ล่าสุดที่มีการประกาศออกไป คือการให้โบรกเกอร์ทุกรายมีสิทธิเข้าไปวาง Server หรือระบบ ในตลาดหลักทรัพย์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อให้ลูกค้าของโบรกสามารถเช้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว


สำหรับ Bond Connect เป็นแผนที่ ตลท.กำลังพัฒนาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว โดยมีความตั้งใจจะสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้นักลงทุนโดยรวมเข้าถึงพันธบัตรรัฐบาล ซื้อขายได้สะดวก คล่องขึ้น โดยอาจเป็นในรูปแบบ tokenization หรือรูปแบบอื่น อยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบที่เหมาะสม โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 3 ปีนี้

นายอัสสเดช กล่าวว่า นโยบายภาษีของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ นั้นมีผลต่อหุ้นทั่วโลก หากดูย้อนหลัง ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ทรัมป์ 1.0 จนถึงวันนี้ มีการเคลื่อนย้ายเงินทุนของจีนมายังเอเชียประมาณ 1.2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ แต่ไทยดึงดูดได้เพียง 10% มองว่ายังมีโอกาสในการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนเพิ่มเติม

สำหรับตลาดหุ้นไทยนั้นเป็นตลาดที่มีสภาพคล่องสูงที่สุดประเทศหนึ่ง แต่ช่วงระยะสั้น ๆ ที่ผ่านมา ผลการดำเนินงานไม่ได้ดี นอกจากนี้ในอดีต 10 ปีย้อนหลัง บริษัทจดทะเบียนในไทยมีการเติบโตเฉลี่ยเพียง 3% จึงต้องมีการร่วมมือกับในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมทั้งนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ เพื่อผลักดันและจูงใจให้บริษัทจดทะเบียนทำแผนเพื่อเพิ่มศักยภาพของตนเอง


นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วรรณ มองตลาดหุ้นไทยที่ลดลงจนราคาต่ำกว่ามูลค่า 10 ปีที่ผ่านมา เป็นจุดที่น่าลงทุน ทั้งนี้รอดูนโยบายภาครัฐเข้ามาสนับสนุน คาดดัชนีหุ้นไทยปีนี้แตะ 1,530 จุด โดยจะมีแรงขับเคลื่อนจากนโยบายของภาครัฐ อาทิ การลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ ภาคการท่องเที่ยว หากเกิดขึ้นได้ไว และกระตุ้นปัจจัยพื้นฐานได้จริง หนุนผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนให้ปรับตัวดีขึ้นได้ ดัชนีจะปรับตัวขึ้น

ส่วนสินทรัพย์น่าลงทุนปีนี้แนะหุ้นสหรัฐเด่นสุด รับอานิสงส์นโยบาย ”ทรัมป์” พร้อมควรเพิ่มน้ำหนัก ทองคำ-สินทรัพย์ดิจิทัล-ตราสารหนี้โลก โดยหุ้นสหรัฐ คาดว่ายังไปได้ต่ออีก 1 ปี จากการกลับมาของ “ทรัมป์” หนุนให้สหรัฐแข็งแกร่งอีกครั้ง โดยหุ้นเทคโนโลยี ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ยังคงเป็นเมกะเทรนด์เติบโตระยะยาว และคาดธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจาก 4 ครั้ง อาจเหลือเพียง 1 ครั้ง เนื่องจากการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อล่าสุดยังอยู่ในระดับสูง เศรษฐกิจสหรัฐยังแข็งแกร่ง นอกจากนี้จากนโยบายทรัมป์ที่อาจทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้น มีโอกาสที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยได้อีกด้วย

สำหรับการดำเนินงานของ บลจ.วรรณ ในปี 68 นายพจน์ คาดรายได้เติบโตราว 7-10% ขณะที่สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) รักษาระดับทรงตัวราว 1.5-1.6 แสนล้านบาท โดยเตรียมออกกองทุน Elites from 11 Sector กระจายความเสี่ยงการลงทุนหุ้นใน 11 อุตสาหกรรมทั่วโลก และในแต่ละอุตสาหกรรมเลือกหุ้นที่ดีที่สุด 5 ตัว รวมทั้งหมด 55 ตัว โดยกองนี้ให้ผลตอบแทนมากกว่า 10% คาดว่าจะออกได้ช่วงไตรมาส1หรือ2 ในปีนี้ -511- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีต ผกก.ขับรถปาดหน้า-ชัก M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง

สงขลา 11 พ.ค. – การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี เดือด ลูกชาย สส.สงขลา ทำร้ายตำรวจคุมหน่วย ส่วน จ.นครศรีธรรมราช อดีตผู้กำกับขับรถปาดหน้าและชักปืน M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เดือด นายชวลิต เจริญพงษ์ อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง และปัจจุบันเป็นผู้สมัครรองนายกเทศมนตรีที่วัง เบอร์ 2 เข้าแจ้งความที่ สภ.กะปาง ว่าถูก พ.ต.อ.พิรุณ อดีต ผกก.ที่ปรึกษาผู้สมัครนายกเทศมนตรีอีกทีม ขับรถไล่ตามและใช้ปืน M16 ข่มขู่ โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารกับผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ที่วัง ได้เจ้อกับลูกน้องคนสนิทของ พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก เข้ามาพูดจาข่มขู่ พวกตนจึงหนีขึ้นรถเพื่อตัดปัญหา แต่ปรากฏว่าเมื่ออกจากร้านได้เพียง 10 เมตร พ.ต.อ.พิรุณ ได้ขับรถแวนเชฟโรเลตสีขาวปาดหน้า และลงจากรถพร้อมปืน M16 วิ่งมาที่รถของตน เห็นท่าไม่ดี จึงหักพวงมาลัยขับรถหนีและเข้ามาแจ้งความ ระหว่างนั้น พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

ผบ.ตร. สั่งกองวินัยเตรียมสอบ ปมมติแพทยสภาลงโทษหมอ

ผบ.ตร. รับทราบกรณีแพทยสภาลงโทษหมอ ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 สั่งกองวินัยเตรียมสอบ หากเป็นแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

ข่าวแนะนำ

ออกหมายจับ สจ.คนดังพร้อมพวก รุมทำร้าย ตร.คาหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 12 พ.ค.- ศาลจังหวัดสงขลาออกหมายจับ สจ.คนดัง พร้อมพวกรวม 7 คน หลังก่อเหตุรุมทำร้าย ‘ด.ต.’ คาหน่วยเลือกตั้ง จ.สงขลา ขณะที่ ผบ.ตร.สั่งเอาผิด พวกทำตัวเหนือกฎหมาย จากกรณีสมาชิกสภา อบจ.สงขลา บุตรชาย สส.สงขลา ก่อเหตุสั่งให้ลูกน้อง 6 คน รุมทำร้ายร่างกาย ด.ต.นิสาธิต สังกัด ตชด.43 ปฏิบัติหน้าที่เจ้าพนักงานรักษาความสงบเรียบร้อยหน่วยเลือกตั้ง บริเวณหน้าหน่วยเลือกตั้งที่ 7 หมู่ 2 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลาหลัง ส.อบจ.คนดังกล่าว เข้ามาใช้สิทธิที่หน่วย และให้ลูกน้องถ่ายรูป ซึ่งผิดกฎหมายเลือกตั้ง ด.ต.นิสาธิต จึงได้เข้าไปตักเตือน สร้างความไม่พอใจ ก่อนขับรถออกจากหน่วยเลือกตั้ง จากนั้นมีกลุ่มชายชกรรจ์ 5-7 คน เข้ามาที่หน่วยเลือกตั้ง และรุมทำร้าย ด.ต.นิสาธิต บาดเจ็บ ต่อหน้าต่อตาชาวบ้านที่มาใช้สิทธิเลือกตั้ง อ้างว่าลูกพี่ใหญ่ ไม่มีใครกล้าทำอะไร ล่าสุด ศาลจังหวัดสงขลาอนุมัติหมายจับผู้ก่อเหตุทั้งหมด 7 […]

เพลิงไหม้มาราธอน โหมโรงงานเฟอร์นิเจอร์ ยังคุมไม่ได้

12 พ.ค.- ยังไม่ดับ! ไฟไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ย่านลาดกระบัง ต้นเพลิงอยู่ที่ชั้นใต้ดิน ยังไม่สามารถลงไปได้ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ รุดลงพื้นที่ สั่งอพยพชาวบ้านใกล้เคียง เร่งช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ ยืนยันสถานการณ์จะคลี่คลายภายในวันนี้ เพลิงไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ซอยฉลองกรุง 55 แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ลุกโหมมาตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ ก่อนเจ้าหน้าที่ระดมรถดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ ตลอดทั้งคืน ยังมีไฟปะทุออกจากชั้นใต้ดินของโครงสร้างอาคาร     ล่าสุดเช้าวันนี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมทีมวิศวกรผู้ เชี่ยวชาญด้านอาคารโรงงานอุตสาหกรรม ตำรวจ และทีมกู้ภัย เร่งเข้าตรวจสอบความเสียหายรอบพื้นที่โรงงาน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เผยว่า มอบหมายให้ ดร.สุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา(ดร.จอร์น) ประธานสภากรุงเทพมหานคร และนายธราพงษ์ เพ็ชรคง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตลาดกระบัง ลงพื้นที่ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุยังจุดเกิดเหตุ ส่วนแนวทางปฏิบัติการ เตรียมใช้โฟมประกอบน้ำ ฉีดเข้าจุดที่ยังคงมีเพลิงปะทุคาดว่าจะควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในวงจำกัดได้ภายในช่วงเที่ยงวันนี้   ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระบุว่า ต้นเพลิงอยู่ที่ชั้นใต้ดิน แต่ยังไม่สามารถลงไปได้ เนื่องจากมีกลุ่มควันและความร้อนสูง จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ หน้ากากออกซิเจน […]

กทม.ประกาศยุติค้นหาผู้สูญหายใต้ซากตึก สตง.

กรุงเทพฯ 12 พ.ค. – กทม. ประกาศยุติการค้นหาผู้สูญหายใต้ซากตึก สตง. ด้านรองผู้ว่าฯ กทม. สั่งลดระดับกองปูนซากตึกข้างศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง จาก 9 เมตร เหลือ 6 เมตร ป้องกันอันตรายและง่ายต่อการค้นหาหากมีชิ้นส่วนที่เหลือติดค้างอยู่ เมื่อเวลา 10.30 น.ที่ผ่านมา (12 พ.ค. 68) ที่กองอำนวยกาารร่วม สน.บางซื่อ ห้างสรรพสินค้าเจเจมอลล์ ถ.กำแพงเพชร 2 แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประกาศยุติค้นหาผู้สูญหายจากเหตุอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่ม รศ.ทวิดา เปิดเผยว่า วันนี้การค้นหาผู้ติดค้างภายในซากอาคารดังกล่าวยุติทั้งหมดแล้ว และเวลา 17.00 น. วันนี้ ทีมสุนัข K9 จะเข้าสำรวจความชัดเจนบริเวณกองซากวัสดุอาคาร สตง. หลังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เพื่อให้เเน่ใจว่าจะไม่มีชิ้นส่วนมนุษย์หลงเหลืออยู่แล้ว ส่วนด้านเครื่องจักรในพื้นที่จะยังคงทำงานอยู่ เนื่องจากจะมีการขนซากเศษปูนที่อยู่ตรงโซน A ทั้งหมด ย้ายออกไปหลังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง โดยในเวลา […]

ไทยตอนบนยังเผชิญพายุฤดูร้อน ฝนตก-ลมแรง

กทม. 12 พ.ค.- กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนยังคงมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก ส่วนภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยา เผยประเทศไทยตอนบนยังคงมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และฝนตกหนักบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ มีข้อจำกัดในการระบายน้ำ ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ เนื่องจากการระบายน้ำอาจทำได้ไม่สะดวก และไม่ควรอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้ไม้ผล และเตรียมการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง รวมทั้งดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนปกคลุมประเทศเวียดนามและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทย และทะเลจีนใต้เข้าปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศร้อนบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ สำหรับภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากลมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย สภาวะอากาศที่มีผลต่อการสะสมฝุ่นละอองในระยะนี้: การสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันบริเวณประเทศไทยตอนบน อยู่ในเกณฑ์น้อยถึงปานกลาง โดยมีแนวโน้มลดลงหรือคงที่ เนื่องจากยังคงมีฝนตกหลายพื้นที่ในบริเวณดังกล่าว .-สำนักข่าวไทย