รัฐสภา 11 ก.พ. – อนุ กมธ.พลังงานทดแทน สว. แนะ 4 กระทรวงหลัก จับมือ ผลักดัน ร่าง พ.ร.บ. ปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม ดูแลชาวสวน
นายสรชาติ วิชย สุวรรณพรหม ประธานคณะอนุกรรมาธิการ พิจารณาศึกษาด้านพลังงานทดแทน วุฒิสภา เชิญตัวแทนหน่วยงาน กระทรวงเกษตรฯ ชี้แจง กรณีการยกร่าง พ.ร.บ.ปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม ขณะที่พรรครวมไทยสร้างชาติ ดูแลกระทรวงพลังงาน และกระทรวงอุตสาหกรรม ต้องการนำเสนอร่างกฎหมายโดยพรรคการเมือง เพื่อลดขั้นตอน และเร่งรัดผลักดันให้ผ่านสภาโดยเร็ว ที่ประชุม กมธ.พิจารณาศึกษาด้านพลังงานทดแทน เสนอแนะให้เชิญผู้แทนจากกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชย์ 4 กระทรวงที่เกี่ยวข้อง ร่วมผลักดัน ร่าง พ.ร.บ. ปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม เพื่อร่วมกันดูแลอย่างครบวงจร
หลังจากกฤษฎีกาได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม หวั่นว่าจะมีปัญหาเหมือนกับพืชเศรษฐกิจหลายชนิด เช่น อ้อย ยางพารา มีกฎหมายควบคุมดูแลแล้ว ต้องตั้งสำนักงานขึ้นมากำกับดูแล รับการจัดสรรงบ แต่ยังมีปัญหาเหมือนเดิม การบังคับให้เกษตรกร ต้องขึ้นทะเบียน หวั่นเป็น พ.ร.บ.พิเศษไปบังคับใช้ทุกคน หลายฝ่ายแนะกำหนดวิธีการคำนวณราคาขายปาล์มน้ำมันให้ชัดเจน มีมาตรฐาน เช่นเดียวกับมาเลเซีย เพื่อดูผลชาวสวน โรงสกัด โรงกลั่น ให้ชัดเจน
ที่ประชุม กมธ.แนะให้กำหนดธีมการยกร่าง พ.ร.บ.ให้ชัดเจน ใช้งบเบื้องต้นช่วยเหลือชาวสวนปาล์มอย่างไร มีการกำหนดส่วนแบ่งรายได้ให้เกษตรกรอย่างไร แผนการลดต้นทุนการผลิตให้เกษษตร การหาช่องทางพัฒนาพันธุืปาล์มน้ำมัน เพื่อเปอร์เซ็นน้ำมันให้มีสัดส่วนเพิ่ม จากเดิมทลายปาล์มน้ำมัน 100 กิโลกรัม สกัดเป็นน้ำมันได้เพียง 18 กิโลกรัม หรือร้อยละ 19 เพิ่มเป็น ร้อยละ 22 ในปี 70-75 การเพิ่มผลผลิตต่อไร่ภายในปี 70 จำนวน 3.4 ตันต่อไร่ และภายในปี 73 จำนวน 3.5 ตันต่อไร่ เมื่อรัฐบาลยอมรับมาตรฐานยูโร 5 ต้องใช้ไบโอดีเซลผสมเพียงน้ำมันดีเซล B7 เท่านั้น ทำให้รับซื้อน้ำมันปาล์มลดลง
ที่ประชุม กมธ.พิจารณาศึกษาด้านพลังงานทดแทน วุฒิสภา มองว่า การปลูกปาล์มน้ำมัน มีหลายหน่วยงานร่วมดูแล จึงทำให้ทุกกระทรวงต้องการกำกับดูแลกฎหมายด้วยตนเอง โดยกระทรวงเกษตรฯ ดูแลต้นน้ำ ในการปลูกปาล์มน้ำมัน จนถึงโรงสกัด กระทรวงอุตสาหกรรม ดูแลโรงกลั่น กระทรวงพลังงาน ดูแลน้ำมันปาล์ม เพื่อผสมไบโอดีเซล กระทรวงพาณิชย์ดูแลด้านการตลาด การส่งออก ราคาน้ำมันปาล์ม ยอมรับ ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวหารือเพื่อตั้งไข่นาน 10 ปีมาแล้ว แต่ยังไม่สำเร็จ จึงเสนอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันยกร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้อย่างจริงจัง ในการดูแลทุกห่วงโซ่ปาล์มน้ำมัน
ที่ประชุม กมธ.พิจารณาศึกษาด้านพลังงานทดแทน วุฒิสภา เชิญตัวแทนจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษพลังงาน ได้รับจัดสรรงบปี 68 วงเงิน 3,500 ล้านบาท จัดสรรช่วยเหลือในด้านพลังงานทดแทน เพื่อต้องการให้กลุ่มชาวบ้านได้รับงบประมาณสนับสนุนจากกองทุนฯ อย่างทั่วถึง เป็นธรรม เช่น การสร้างโรงตากแห้งจากแสงอาทิตย์ เพื่อใช้จากผลไม้อบแห้ง ที่ประชุมแนะว่าการจัดสรรเงินยุ่งอยากซับซ้อน กระจายไม่ทั่วถึง หน่วยงานกองทุนฯ แจ้งว่า สตง. และ ปปง.ต้องการให้กำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติม เพื่อป้องกันการทุจริต จึงต้องกำหนดเงื่อนไขให้รัดกุม และอยากให้จัดประชุมอนุมัติงบฯ ทุกเดือน เนื่องจากปัญหาบอร์ดชุดใหญ่ นัดประชุมยาก ติดภาระกิจ ชาวบ้านจึงได้รับอนุมัติงบล่าช้า. -515- สำนักข่าวไทย
