SCB FM มองเงินบาทอาจอ่อนต่อได้จากมาตรการภาษี-เฟดที่ลดดอกเบี้ยช้า

กรุงเทพฯ 7 ก.พ.- กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB Financial Markets: SCB FM) ชี้ “ทรัมป์” ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า ทำให้ตลาดการเงินผันผวนแรง มองเงินบาทอาจอ่อนค่าต่อจากมาตรการภาษี และเฟดที่ลดดอกเบี้ยช้า แนะเป็นโอกาสที่ลูกค้าส่งออก/นำเข้า อาจพิจารณาทำ FX option เพื่อได้อัตราแลกเปลี่ยนที่ดีขึ้น
 
กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB Financial Markets: SCB FM) เปิดเผยว่าเงินบาทเดือนที่ผ่านมาผันผวนสูงจากความไม่แน่นอนของมาตรการ Tariffs โดยพบว่าคำขู่และการประกาศขึ้นภาษีของทรัมป์ทำให้เงินบาทเปลี่ยนแปลงถึง 30-40 สตางค์ในช่วงข้ามคืน ในระยะต่อไป SCB FM มองว่าดัชนีเงินดอลลาร์อาจแข็งค่าต่อได้ จากเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะยังแข็งแกร่ง อีกทั้ง มองว่ามาตรการ Tariffs จะยังอยู่ต่อ เพราะทรัมป์น่าจะใช้เป็นเครื่องมือต่อรองการค้า/ธุรกิจกับต่างประเทศ ทำให้มีโอกาสที่เงินบาทจะอ่อนค่าขึ้นมากกว่ากลับมาแข็งค่า จึงทำให้บาทอาจยังอ่อนค่าในกรอบ 33.85-34.35ได้ ทั้งนี้ ความผันผวน (Implied volatility) ในตลาดเงินที่สูงขึ้นในช่วงนี้ เป็นโอกาสที่ลูกค้าส่งออก/นำเข้า อาจพิจารณาทำ FX option เพื่อจะได้อัตราแลกเปลี่ยนที่ดีขึ้น


นายแพททริก ปูเลีย รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานตลาดการเงิน และ Head of Private Banking Relationship Management ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในเดือนที่ผ่านมาเงินบาทผันผวนสูงจากความไม่แน่นอนของมาตรการขึ้นภาษีนำเข้า (Tariffs) โดยพบว่าคำขู่และการประกาศขึ้นภาษีของทรัมป์ทำให้เงินบาทเปลี่ยนแปลงถึง 30-40 สตางค์ในช่วงข้ามคืน โดยในช่วงแรกที่ ทรัมป์ มีท่าทีผ่อนปรนต่อนโยบาย Tariffs ทำให้ดัชนีเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเร็ว พร้อมเงินสกุลภูมิภาค รวมถึงเงินบาทปรับแข็งค่าขึ้นตามเงินหยวน อย่างไรก็ดี หลังจากทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าจากแคนาดา เม็กซิโก และจีน ทำให้ตลาดกลับมากังวลผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ ส่งผลให้เงินดอลลาร์แข็งค่าเร็ว เงินบาทอ่อนค่า ด้าน US Treasury yields ปรับสูงขึ้นจากแนวโน้มเงินเฟ้อ

ราคาทองคำที่ปรับสูงขึ้นและแนวโน้มเงินทุนเคลื่อนย้ายก็ส่งผลต่อเงินบาทเช่นกัน โดยความไม่แน่นอนที่สูงขึ้นทำให้นักลงทุนหันมาถือทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยเหมือนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งในเวลาที่ราคาทองคำสูงขึ้น จะหนุนให้บาทแข็งค่ากว่าสกุลอื่นในบางช่วง ด้านเงินทุนเคลื่อนย้ายสู่ตลาดการเงินไทย พบว่าในช่วงที่ทรัมป์มีท่าทีผ่อนปรนต่อนโยบาย Tariffs มีเงินทุนเคลื่อนย้ายไหลเข้าตลาดบอนด์ไทยติดต่อกันเกือบสัปดาห์ อย่างไรก็ดี ข่าวการมาของ DeepSeek ทำให้ตลาดการเงินโลกเกิดภาวะ Risk-off และเงินทุนไหลออกจากตลาดการเงินไทย โดยนักลงทุนหันไปถือสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และทองคำ ทำให้ราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับลดลง รวมถึงสกุลเงินภูมิภาคและเงินบาทอ่อนค่า หากสงครามการค้าไม่ทวีความรุนแรงตามที่คาดไว้ เงินทุนเคลื่อนย้ายก็มีแนวโน้มไหลออกน้อยลงในปีนี้


สำหรับในระยะต่อไป มองว่าเงินบาทอาจอ่อนค่าต่อได้ เนื่องจากดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐมีโอกาสแข็งค่าต่อจากเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะยังแข็งแกร่ง ทำให้ Fed จะยังไม่รีบลดดอกเบี้ย โดยการลดดอกเบี้ยครั้งแรกของ Fed อาจต้องรอถึงช่วงกลางปีนี้ อีกทั้งความเสี่ยงจากมาตรการ Tariffs น่าจะยังอยู่ ทำให้เงินบาทอาจยังอ่อนค่าในกรอบ 33.85-34.35 ได้

นายวชิรวัฒน์ บานชื่น นักกลยุทธ์ตลาดการเงินอาวุโส ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า เงินบาทที่ราว 34.00-34.50 บาท/ดอลล่าร์สหรัฐ เป็นระดับที่ผู้ส่งออกอาจพิจารณาขายได้ เนื่องจาก ในเวลาที่มีข่าวด้านลบ (เช่น ประกาศขึ้นภาษี) ตลาดมักมี Reaction ที่แรงกว่าในเวลาที่มีข่าวดี (เช่น เลื่อนวันขึ้นภาษีออกไป) จึงทำให้มีโอกาสที่บาทจะอ่อนค่าต่อได้ อีกทั้ง มองว่า Fed จะยังไม่รีบส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยในไตรมาสแรกนี้ เพราะเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ น่าจะยังแข็งแกร่งและเงินเฟ้อจะลดลงช้า

สำหรับผู้นำเข้ามองว่าเงินบาทที่ราว 33.10-33.60 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ เป็นระดับที่อาจพิจารณาซื้อได้ เนื่องจาก ที่ระดับนี้ตลาดได้ Price-out tariff premium ออกไปมากแล้ว สะท้อนจากช่วงที่ทรัมป์ให้ข่าวว่าอยากหลีกเลี่ยงการขึ้นภาษีนำเข้าจากจีน เงินบาทแข็งค่าที่ราว 33.60-33.70 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ


ทั้งนี้ นายวชิรวัฒน์ มองว่าความเสี่ยงจาก Tariffs จะยังอยู่ เพราะทรัมป์จะใช้เป็นเครื่องมือต่อรองการค้า/ธุรกิจกับต่างประเทศ ทำให้มีโอกาสที่เงินบาทจะอ่อนค่าขึ้นมากกว่า

ความผันผวน (Implied volatility) ในตลาดเงินที่สูงขึ้นในช่วงนี้ เป็นโอกาสที่ลูกค้าส่งออก/นำเข้า อาจพิจารณาทำ FX option เพื่อจะได้อัตราแลกเปลี่ยนที่ดี

พร้อมประเมิน กนง. อาจลดอัตราดอกเบี้ยนโนบายอีก 1 ครั้ง ในการประชุมเดือนมิถุนายน ตามสถานการณ์สินเชื่อที่ปรับแย่ลงต่อเนื่อง รวมทั้งความเสี่ยงเศรษฐกิจที่มากขึ้นจากต่างประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับที่ตลาดมองว่า กนง. จะลดดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนเช่นกัน โดยตลาดให้โอกาสเพียงราว 50% ที่ กนง. จะลดดอกเบี้ยในเดือนเมษายน นอกจากนี้ ตลาดให้โอกาสราว 80% ที่จะมีการลดครั้งที่ 2 ในปีนี้

ด้านตลาดพันธบัตรรัฐบาลไทย พบว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยระยะยาว (Yield อายุ 10 ปี) ลดลงเร็วในสัปดาห์ก่อน เป็นผลจาก Demand ใน auction ที่สูง ในระยะต่อไปมองว่าYield อาจลดลงอีกเล็กน้อยตาม US treasury yields สำหรับพันธบัตรรัฐบาลไทยระยะสั้นถึงกลาง Asset Swap spread ยังค่อนข้างสูง เนื่องจากมีอุปสงค์เข้ามา receive THOR อยู่มากเช่นกัน จึงมองว่าลูกค้าอาจซื้อบอนด์เมื่อ Yields ปรับขึ้นเล็กน้อย (3Y yield ที่ 2.05%-2.10% หรือ 5Y yield ที่ 2.10%-2.15%) หรือ pay THOR ที่ maturity เดียวกันเพื่อ hedge และรับผลตอบแทนเป็น THOR + 15-20 bp.-516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

บุรีรัมย์สั่งอพยพชาวบ้านเพิ่ม 3 อำเภอ

บุรีรัมย์ 27 ก.ค.-บุรีรัมย์ ประกาศให้ชาวบ้านอพยพเพิ่มอีก 3 อำเภอ หลังพื้นที่ปะทะและรัศมีอาวุธขยายไปไกลขึ้น ทั้งวัด โรงเรียน ศูนย์พักพิงชั่วคราว และ รพ.อีก 2 แห่ง ต้องอพยพผู้ป่วยด่วน เหลือเพียงหน่วยรับผู้ป่วยฉุกเฉิน ช่วงเวลาบ่าย 2-3 โมง เมื่อวานนี้ ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ มีเสียงปืน เสียงระเบิดดังเป็นระยะ และมีกระสุนปืนใหญ่ ตกในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ จึงประกาศให้ชาวบ้านในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ อ.ละหานทราย อ.เฉลิมพระเกียรติ และ อ.โนนดินแดง อพยพไปอยู่ตามบ้านญาติ หรือศูนย์พักพิงที่ห่างไกลจากรัศมีวิถีกระสุนปืนใหญ่ และอาวุธหนัก บางครัวเรือนก็มีลูกหลานมารับออกไปแล้ว ส่วนชาวบ้านที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ทางเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ก็ได้จัดรถไปช่วยอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ด้วย ด้าน โรงพยาบาลในพื้นที่ 2 แห่ง คือ รพ.ละหานทราย และ รพ.เฉลิมพระเกียรติ ก็มีการอพยพผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลเช่นกัน รวมถึงให้แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ถอนกำลังออกจากพื้นที่ เหลือไว้แค่หน่วยที่จะรับผู้ป่วยฉุกเฉิน […]

Trump says he is seeking a ceasefire between Thailand, Cambodia

“ทรัมป์” โยงเรื่องการค้ากับหยุดยิงไทย-กัมพูชา

เอดินบะระ 27 ก.ค.-  ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ พูดคุยกับผู้นำของทางการไทยและกัมพูชา โดยโยงเรื่องการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐกับเรื่องหยุดยิงของทั้ง 2 ประเทศ ด้านนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ในระหว่างการเยือนสกอตแลนด์เมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีทรัมป์ได้โพสต์ในทรูธโซเชียลที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ไทยและกัมพูชา 3 โพสต์ติดต่อกัน โพสต์แรกระบุว่า ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรี มาเนตกัมพูชาและนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษานายกรัฐมนตรีของไทย เรื่องการหยุดยิงและยุติสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ สหรัฐซึ่งกำลังหารือทางการค้ากับทั้ง 2 ประเทศอยู่ในขณะนี้ไม่ต้องการทำข้อตกลงกับประเทศใดประเทศหนึ่งหากยังมีการสู้รบกันอยู่ กัมพูชาจะแสดงท่าทีเรื่องหยุดยิงหลังจากที่เขาได้คำตอบจากไทยในเรื่องนี้ นายทรัมป์ระบุด้วยว่า สถานการณ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาทำให้เขานึกถึงสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างปากีสถานกับอินเดียที่ได้รับการยับยั้งเป็นผลสำเร็จ หลังจากนั้นราว 1 ชั่วโมง ประธานาธิบดีทรัมได้โพสต์ข้อความใหม่ว่า ได้สนทนากับรักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย ฝ่ายไทยต้องการหยุดยิงและสันติภาพเช่นเดียวกับกัมพูชา และหลังจากนั้นไม่นานผู้นำสหรัฐโพสต์ข้อความที่ 3 ว่า เพิ่งเสร็จสิ้นการสนทนากับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและแจ้งเรื่องที่ได้หารือกับทางการไทย ทั้ง 2 ฝ่ายต้องการหยุดยิงและสันติภาพ และต้องการกลับมาเจรจาทางการค้ากับสหรัฐ โดยตกลงจะพบหารือและหาทางหยุดยิงโดยทันที ด้านนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมของมาเลเซีย เปิดเผยกับสื่อที่เมืองปุตราจายาเมื่อวานนี้ว่า จะเดินหน้าผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งยังคงมีการยิงปะทะกันอยู่ เขาได้ขอให้รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซียประสานงานกับรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยและกัมพูชา และหากเป็นไปได้ เขาจะเข้าไปประสานงานด้วยตัวเองเพื่อหยุดยั้งการสู้รบ รอยเตอร์รายงานว่า กัมพูชาสนับสนุนข้อเสนอของนายอันวาร์ ส่วนไทยระบุว่า เห็นชอบในหลักการ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ “กัมพูชา” เปิดฉากยิงทหารไทยแต่เช้าตรู่

กทม. 27 ก.ค.-โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ กัมพูชาโจมตีทหารไทยแต่เช้าตรู่ หลัง “ทรัมป์” ขอให้หยุดยิง พบบ้านเรือนประชาชนเสียหายจากจรวดBM-21 เมื่อวันที่ 27 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณี โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หารือ นายกฯ กัมพูชา และนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯ หากไม่หยุดยิงจะไม่เจรจาเรื่องภาษีสหรัฐนั้น ว่า กัมพูชายังไม่หยุดยิง และยังตอบโต้มาอยู่ตั้งแต่เช้าตรู่ของวันนี้ มีจรวดตกนอกเขตปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ เมื่อเวลา 04.30 น. ทหารกัมพูชาได้เปิดฉากยิงทหารไทย ด้วยเครื่องยิงจรวดบีเอ็ม-21 แต่ด้วยเป้าหมายของทางกัมพูชาไม่ใช่พื้นที่ทางทหาร แต่เป็นบ้านเรือนประชาชน รวมถึงสถานพยาบาล และชุมชน โดยเมื่อ เวลา 06.30 น. กระสุนปืนใหญ่ (ไม่ทราบชนิด) ตกบริเวณพื้นที่ บ้านตาโสร์ ม.10 ต.บ้านพลวง อ.ปราสาท จ.สรินทร์ […]

“ภูมิธรรม” เผยเห็นชอบข้อเสนอ “ทรัมป์” แต่กัมพูชาต้องจริงใจหยุดยิง

กรุงเทพฯ 27 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เผยคุย “ทรัมป์” เห็นชอบข้อเสนอหยุดยิง แต่ต้องการเห็นความตั้งใจจริงของกัมพูชาและเร่งหารือทวิภาคี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านfacebook Phumtham Wechayachai เมื่อคืนวานนี้ (27 ก.ค.) ว่า ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที เพื่อยุติความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นบริเวณชายแดน ฝ่ายไทยได้แสดงความขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีจากสหรัฐฯ พร้อมยืนยันว่า “ในหลักการ ฝ่ายไทยเห็นชอบต่อการหยุดยิง” อย่างไรก็ดี ไทยยังต้องการเห็น “ความตั้งใจจริงของฝ่ายกัมพูชาในเรื่องดังกล่าว” ไทยจึงได้ขอให้สหรัฐฯ ช่วยถ่ายทอดจุดยืนนี้ไปยังกัมพูชา โดยเสนอให้มีการหารือแบบทวิภาคีโดยเร็วที่สุด และให้กัมพูชาแสดงความจริงจังและจริงใจ เพื่อกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนในการหยุดยิง ซึ่งจะนำไปสู่การยุติข้อพิพาทอย่างสันติและยั่งยืนในระยะยาว การเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามของนานาชาติในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งสองประเทศอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา สำหรับข้อความที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Phumtham Wechayachai ระบุว่า “เมื่อครู่ที่ผ่านมา ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที ผมได้กล่าวขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีของฝ่ายสหรัฐฯ และยืนยันว่า […]