SCB FM มองเงินบาทอาจอ่อนต่อได้จากมาตรการภาษี-เฟดที่ลดดอกเบี้ยช้า

กรุงเทพฯ 7 ก.พ.- กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB Financial Markets: SCB FM) ชี้ “ทรัมป์” ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า ทำให้ตลาดการเงินผันผวนแรง มองเงินบาทอาจอ่อนค่าต่อจากมาตรการภาษี และเฟดที่ลดดอกเบี้ยช้า แนะเป็นโอกาสที่ลูกค้าส่งออก/นำเข้า อาจพิจารณาทำ FX option เพื่อได้อัตราแลกเปลี่ยนที่ดีขึ้น
 
กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB Financial Markets: SCB FM) เปิดเผยว่าเงินบาทเดือนที่ผ่านมาผันผวนสูงจากความไม่แน่นอนของมาตรการ Tariffs โดยพบว่าคำขู่และการประกาศขึ้นภาษีของทรัมป์ทำให้เงินบาทเปลี่ยนแปลงถึง 30-40 สตางค์ในช่วงข้ามคืน ในระยะต่อไป SCB FM มองว่าดัชนีเงินดอลลาร์อาจแข็งค่าต่อได้ จากเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะยังแข็งแกร่ง อีกทั้ง มองว่ามาตรการ Tariffs จะยังอยู่ต่อ เพราะทรัมป์น่าจะใช้เป็นเครื่องมือต่อรองการค้า/ธุรกิจกับต่างประเทศ ทำให้มีโอกาสที่เงินบาทจะอ่อนค่าขึ้นมากกว่ากลับมาแข็งค่า จึงทำให้บาทอาจยังอ่อนค่าในกรอบ 33.85-34.35ได้ ทั้งนี้ ความผันผวน (Implied volatility) ในตลาดเงินที่สูงขึ้นในช่วงนี้ เป็นโอกาสที่ลูกค้าส่งออก/นำเข้า อาจพิจารณาทำ FX option เพื่อจะได้อัตราแลกเปลี่ยนที่ดีขึ้น


นายแพททริก ปูเลีย รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานตลาดการเงิน และ Head of Private Banking Relationship Management ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในเดือนที่ผ่านมาเงินบาทผันผวนสูงจากความไม่แน่นอนของมาตรการขึ้นภาษีนำเข้า (Tariffs) โดยพบว่าคำขู่และการประกาศขึ้นภาษีของทรัมป์ทำให้เงินบาทเปลี่ยนแปลงถึง 30-40 สตางค์ในช่วงข้ามคืน โดยในช่วงแรกที่ ทรัมป์ มีท่าทีผ่อนปรนต่อนโยบาย Tariffs ทำให้ดัชนีเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเร็ว พร้อมเงินสกุลภูมิภาค รวมถึงเงินบาทปรับแข็งค่าขึ้นตามเงินหยวน อย่างไรก็ดี หลังจากทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าจากแคนาดา เม็กซิโก และจีน ทำให้ตลาดกลับมากังวลผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ ส่งผลให้เงินดอลลาร์แข็งค่าเร็ว เงินบาทอ่อนค่า ด้าน US Treasury yields ปรับสูงขึ้นจากแนวโน้มเงินเฟ้อ

ราคาทองคำที่ปรับสูงขึ้นและแนวโน้มเงินทุนเคลื่อนย้ายก็ส่งผลต่อเงินบาทเช่นกัน โดยความไม่แน่นอนที่สูงขึ้นทำให้นักลงทุนหันมาถือทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยเหมือนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งในเวลาที่ราคาทองคำสูงขึ้น จะหนุนให้บาทแข็งค่ากว่าสกุลอื่นในบางช่วง ด้านเงินทุนเคลื่อนย้ายสู่ตลาดการเงินไทย พบว่าในช่วงที่ทรัมป์มีท่าทีผ่อนปรนต่อนโยบาย Tariffs มีเงินทุนเคลื่อนย้ายไหลเข้าตลาดบอนด์ไทยติดต่อกันเกือบสัปดาห์ อย่างไรก็ดี ข่าวการมาของ DeepSeek ทำให้ตลาดการเงินโลกเกิดภาวะ Risk-off และเงินทุนไหลออกจากตลาดการเงินไทย โดยนักลงทุนหันไปถือสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และทองคำ ทำให้ราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับลดลง รวมถึงสกุลเงินภูมิภาคและเงินบาทอ่อนค่า หากสงครามการค้าไม่ทวีความรุนแรงตามที่คาดไว้ เงินทุนเคลื่อนย้ายก็มีแนวโน้มไหลออกน้อยลงในปีนี้


สำหรับในระยะต่อไป มองว่าเงินบาทอาจอ่อนค่าต่อได้ เนื่องจากดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐมีโอกาสแข็งค่าต่อจากเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะยังแข็งแกร่ง ทำให้ Fed จะยังไม่รีบลดดอกเบี้ย โดยการลดดอกเบี้ยครั้งแรกของ Fed อาจต้องรอถึงช่วงกลางปีนี้ อีกทั้งความเสี่ยงจากมาตรการ Tariffs น่าจะยังอยู่ ทำให้เงินบาทอาจยังอ่อนค่าในกรอบ 33.85-34.35 ได้

นายวชิรวัฒน์ บานชื่น นักกลยุทธ์ตลาดการเงินอาวุโส ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า เงินบาทที่ราว 34.00-34.50 บาท/ดอลล่าร์สหรัฐ เป็นระดับที่ผู้ส่งออกอาจพิจารณาขายได้ เนื่องจาก ในเวลาที่มีข่าวด้านลบ (เช่น ประกาศขึ้นภาษี) ตลาดมักมี Reaction ที่แรงกว่าในเวลาที่มีข่าวดี (เช่น เลื่อนวันขึ้นภาษีออกไป) จึงทำให้มีโอกาสที่บาทจะอ่อนค่าต่อได้ อีกทั้ง มองว่า Fed จะยังไม่รีบส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยในไตรมาสแรกนี้ เพราะเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ น่าจะยังแข็งแกร่งและเงินเฟ้อจะลดลงช้า

สำหรับผู้นำเข้ามองว่าเงินบาทที่ราว 33.10-33.60 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ เป็นระดับที่อาจพิจารณาซื้อได้ เนื่องจาก ที่ระดับนี้ตลาดได้ Price-out tariff premium ออกไปมากแล้ว สะท้อนจากช่วงที่ทรัมป์ให้ข่าวว่าอยากหลีกเลี่ยงการขึ้นภาษีนำเข้าจากจีน เงินบาทแข็งค่าที่ราว 33.60-33.70 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ


ทั้งนี้ นายวชิรวัฒน์ มองว่าความเสี่ยงจาก Tariffs จะยังอยู่ เพราะทรัมป์จะใช้เป็นเครื่องมือต่อรองการค้า/ธุรกิจกับต่างประเทศ ทำให้มีโอกาสที่เงินบาทจะอ่อนค่าขึ้นมากกว่า

ความผันผวน (Implied volatility) ในตลาดเงินที่สูงขึ้นในช่วงนี้ เป็นโอกาสที่ลูกค้าส่งออก/นำเข้า อาจพิจารณาทำ FX option เพื่อจะได้อัตราแลกเปลี่ยนที่ดี

พร้อมประเมิน กนง. อาจลดอัตราดอกเบี้ยนโนบายอีก 1 ครั้ง ในการประชุมเดือนมิถุนายน ตามสถานการณ์สินเชื่อที่ปรับแย่ลงต่อเนื่อง รวมทั้งความเสี่ยงเศรษฐกิจที่มากขึ้นจากต่างประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับที่ตลาดมองว่า กนง. จะลดดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนเช่นกัน โดยตลาดให้โอกาสเพียงราว 50% ที่ กนง. จะลดดอกเบี้ยในเดือนเมษายน นอกจากนี้ ตลาดให้โอกาสราว 80% ที่จะมีการลดครั้งที่ 2 ในปีนี้

ด้านตลาดพันธบัตรรัฐบาลไทย พบว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยระยะยาว (Yield อายุ 10 ปี) ลดลงเร็วในสัปดาห์ก่อน เป็นผลจาก Demand ใน auction ที่สูง ในระยะต่อไปมองว่าYield อาจลดลงอีกเล็กน้อยตาม US treasury yields สำหรับพันธบัตรรัฐบาลไทยระยะสั้นถึงกลาง Asset Swap spread ยังค่อนข้างสูง เนื่องจากมีอุปสงค์เข้ามา receive THOR อยู่มากเช่นกัน จึงมองว่าลูกค้าอาจซื้อบอนด์เมื่อ Yields ปรับขึ้นเล็กน้อย (3Y yield ที่ 2.05%-2.10% หรือ 5Y yield ที่ 2.10%-2.15%) หรือ pay THOR ที่ maturity เดียวกันเพื่อ hedge และรับผลตอบแทนเป็น THOR + 15-20 bp.-516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ว่าฯ สงขลา จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ทุกสัปดาห์

กทม. 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ทำหนังสือด่วน จัดคิวนายอำเภอ เวียนต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ สข 0017.3/17839 เรื่อง ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียน นายอำเภอเมืองสงขลา ด้วยจังหวัดสงขลาได้รับแจ้งว่า นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดเดินทางมาราชการในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจราชการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล และมีกำหนดเดินทางกลับไปปฏิบัติราชการ ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3103 เวลา 08.25-09.50 น. เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จังหวัดสงขลาจึงขอให้ท่านดำเนินการ ดังนี้ 1. เชิญนายอำเภอเมืองสงขลา ร่วมส่งนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ณ ห้องรับรอง ท่าอากาศยานหาดใหญ่ […]

ดราม่า “ไข่เจียวปู 4,000” ถึงหูพาณิชย์

กรุงเทพฯ​ 18 ส.ค.​-“จตุพร” สั่งกรมการค้าภายในตรวจสอบประเด็น​ดราม่า​ “ไข่​เจียวปู” ร้าน​ Michelin Guide สูงถึง​จานละ 4,000 บาท​ จาก​ที่​แจ้งราคาในเมนู​ 1,500​ บาท ย้ำ​ไม่ตรงปกไม่ได้ กรณี “พีชชี่” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง โพสต์เล่าประสบการณ์สั่งไข่เจียวปูร้านดังราคาเมนู 1,500 บาท แต่ถูกเก็บจริง 4,000 บาท กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ ล่าสุด นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จะมอบหมายให้กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้​ยังไม่ได้รับรายละเอียด​ แต่โดยหลักการแล้ว ราคาที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคต้องตรงกับราคาที่ระบุในเมนู หาก “ไม่ตรงปก” จะบั่นทอนความเชื่อมั่นทางการค้า “การค้าขายจะยั่งยืนได้ต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจ หากผู้บริโภครู้สึกว่า​ ราคาไม่ตรงกับที่เห็นในเมนู ย่อมเสียความรู้สึก” นายจตุพรกล่าว เรื่องนี้เริ่มจาก “พีชชี่” โพสต์ผ่าน X เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ระบุว่าไปทานไข่เจียวปู ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับการบรรจุใน Michelin Guide โดยเมนูระบุราคา 1,500 […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

เสียงเรียกแห่งความอร่อย…ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วโบราณเชียงใหม่

เชียงใหม่ 17 ส.ค. – โดดเด่นไม่เหมือนใคร “ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วสูตรโบราณ” ของอาแปะตี๋อ้วน ที่แต่งกายแบบล้านนาโบราณ เดินหาบขายตามตลาดและย่านชุมชนใน จ.เชียงใหม่ มานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยใช้การตีกังสดาล หรือระฆังวงเดือน เรียกลูกค้า สะดุดตาผู้พบเห็น หลายคนติดใจในรสชาติและราคาที่ย่อมเยา จนมีลูกค้ามากมาย .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“หลวงพ่ออลงกต” ยืนยันยังไม่ลาออกจากเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ

18 ส.ค. – ปมร้อน “หลวงพ่ออลงกต” ขอลาออกจากเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เปิดทางให้ตรวจสอบวัด ล่าสุด “หลวงพ่ออลงกต” ยืนยันยังไม่ลาออก ขอเวลาจัดการทุกเรื่อง คาด 1 เดือนชัดเจน วันนี้ (18 ส.ค.) มีกระแสข่าวว่า “พระราชวิสุทธิประชานาถ” หรือ “หลวงพ่ออลงกต” ประกาศลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อรับผิดชอบต่อสถานการณ์และเปิดทางให้กระบวนการตรวจสอบดำเนินไปอย่างโปร่งใส ขณะที่ นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยกับทีมข่าวสำนักข่าวไทยว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ กำลังติดตามข่าวดังกล่าว แต่ยังไม่ได้รับหนังสือขอลาออกอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะเกิดความชัดเจนในวันพรุ่งนี้ (19 ส.ค.) ส่วนเหตุผลที่หลวงพ่ออลงกตลาออก คาดว่าเปิดทางให้กระบวนการตรวจสอบเดินหน้าได้ พศ.แจ้งวัดหักลดหย่อนเงินบริจาคต้องผ่านระบบ e-Donation ผอ.พศ. ยังกล่าวถึงกรณีอธิบดีกรมสรรพากรทำหนังสือแจ้งมายังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา แจ้งว่ากำหนดให้การบริจาคให้แก่วัด มูลนิธิ สมาคม กองทุน และองค์การต่างๆ ซึ่งผู้บริจาคได้รับสิทธิหักลดหย่อนเงินบริจาค ต้องใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ของกรมสรรพากรเท่านั้น โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 […]

“ภูมิธรรม” ​เผยเจรจาเขตแดนไม่จบง่าย ลั่นไม่เคยพูดยุบ ศบ.ทก.

ทำเนียบ 18 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ​เผยเจรจาเขตแดนไม่จบง่าย​ ต้องรอผลประชุม​ RBC​-GBC มอบตำรวจภูธร​ภาค​ 3 รับเรื่องร้องทุกข์​ประชาชน-​ราชการ​ ส่งอัยการสั่งฟ้องแพ่ง​-อาญา​ “กัมพูชา” ส่วนฟ้อง “ฮุนเซน​” หรือ​ “ฮุน​ มาเนต​” ให้เป็นไปตามข้อกฎหมาย​ ไม่ตอบจัดการเครือข่ายนักการเมืองในไทย​ ชี้​หากทำก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องเปิดเผย​ ลั่น​ไม่เคยพูดสักคำ​ ยุบ ศบ.ทก. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ว่า ขณะนี้สถานการณ์บริเวณชายแดนไทยกัมพูชายังต้องเฝ้าระวัง จึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ส่วนเรื่องการเจรจาเขตแดนทั้งหลายยังไม่จบง่ายๆ และยังรอการประชุม ตามกรอบต่างๆ ซึ่งการประชุม RBC จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 25-27 สิงหาคมนี้ ขณะที่วันที่ 8-10 กันยายนจะเป็นการประชุม GBC ที่เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ทั้งนี้ได้สั่งการให้หน่วยราชการติดตามข่าวสาร และประสานงานกันอย่างมีเอกภาพ โดยเฉพาะในเรื่องข่าวสารที่สร้างความสับสนและความเข้าใจผิดให้กับพี่น้องประชาชน พร้อมยอมรับว่าขณะนี้มีกระบวนการไอโอ จึงขอช่วยกัน อย่าตกเป็นเหยื่อของเรื่องนี้ พร้อมย้ำว่ารัฐบาลยึดผลประโยชน์ประเทศชาติอธิปไตยของประเทศทรัพย์สินและชีวิตของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง จึงขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย ขณะเดียวกันที่ประชุม สมช.ยังมีการพิจารณาเรื่องการดำเนินคดีตามกฎหมาย กรณีกัมพูชาใช้กำลังทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ในการคุกคามอธิปไตยของไทย […]

ทบ.แจงบ้านหนองจานอยู่ในเขตไทย เดิมเป็นที่ลี้ภัยชาวเขมร

กองทัพบก 18 ส.ค.- ทบ. แจงพื้นที่บ้านหนองจาน อยู่ในเขตประเทศไทย เดิมเคยเป็นที่ช่วยเหลือชาวกัมพูชาลี้ภัยจากการสู้รบชั่วคราว ภายหลังพบมีการขยายชุมชน ละเมิด MOU43 แม้ฝ่ายไทยมีการประท้วงอย่างต่อเนื่อง จากกรณีที่มีชาวกัมพูชาได้ออกมาร้องเรียนเรื่องการวางรั้วลวดหนามของทหารไทยบริเวณบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว โดยกล่าวอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นดินแดนของตนนั้น พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่าแท้จริงแล้วพื้นที่ดังกล่าวเป็นอาณาเขตของประเทศไทย ซึ่งอยู่บริเวณบ.หนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว รอยต่อแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ระหว่างหลักเขตแดนที่ 46 และ 47 นอกจากนี้ยังพบว่าฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงในพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยการสนับสนุนให้ราษฎรมาสร้างถิ่นฐานอย่างถาวร ทั้งในบริเวณพื้นที่อ้างสิทธิ์ และนอกบริเวณพื้นที่อ้างสิทธิ์ในฝั่งประเทศไทย ซึ่งกองทัพบก โดยกองกำลังบูรพา ได้ดำเนินการประท้วงร้องเรียนฝ่ายกัมพูชาในเวทีต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งระดับหน่วยทหารในพื้นที่ และผ่านกระทรวงการต่างประเทศ ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน แต่ฝ่ายกัมพูชากลับนิ่งเฉย ไม่มีการชี้แจงในรายละเอียด หรือแก้ไขใดๆ จึงยืนยันได้ว่าฝ่ายไทยได้ใช้การแก้ปัญหาโดยสันติวิธีมาตลอด โฆษกกองทัพบก กล่าวต่อว่าสำหรับปัญหา ณ ปัจจุบัน ฝ่ายกัมพูชา มีเจตนาอันไม่บริสุทธิ์ พยายามจะใช้ประชาชนให้เป็นผู้ออกหน้าในการรุกล้ำพื้นที่อธิปไตยประเทศไทยในบริเวณดังกล่าว ทั้งนี้ อาจเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับฝ่ายทหารโดยตรง ทำให้เข้าใจได้ว่า […]

ผู้ว่าฯ สงขลา ยืนยันไม่ได้ออกคำสั่งรับ มท.3

สงขลา 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ยืนยันไม่ได้ออกคำสั่งให้นายอำเภอจัดเวรต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ส่วนมีใครคิดจะปลอมแปลงขึ้นมาก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ออกมากล่าวถึงเรื่องที่มีหนังสือคำสั่งทางราชการให้นายอำเภอของจังหวัดสงขลาทั้ง 16 อำเภอจัดเวรต้อนรับ-ส่ง และจัดห้อง VIP พร้อมอาหารว่าง ต้อนรับ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย นายเดชอิศม์ ขาวทอง ซึ่งรายละเอียดในหนังสือกล่าวว่าให้นายอำเภอเมืองสงขลาปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 คือในวันนี้ ว่าไม่เป็นความจริง ตนไม่ได้ออกหนังสือฉบับนี้ เพราะหนังสือที่ตนลงนามฉบับสุดท้ายในวันนั้นคืองานประชุม ส่วนความจริงตอนนี้มอบหมายให้รองผู้ว่าราชการที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว แต่ให้ข้อคิดว่าหนังสือที่จะขอใช้พื้นที่หน่วยงานจากท่าอากาศยาน ก็ต้องเป็นลายเซ็นของผู้ว่าราชการเท่านั้น ส่วนมีใครคิดจะปลอมแปลงหรือทางหนังสือปลอมขึ้นมาก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป แต่จะให้ได้ความจริงให้เร็วที่สุด เมื่อมีการสอบถามเรื่องความขัดแย้งของจังหวัดสงขลาราชการจังหวัดสงขลากล่าวว่าท่านไม่น่าจะมีความขัดแย้งกับใคร เพราะไม่เคยทำงานในพื้นที่มาก่อน เพิ่งมารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาในครั้งแรก ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ยังกล่าวอีกว่า วันและเวลาดังกล่าวที่มีการออกหนังสือ ตนก็ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ ไปธุระส่วนตัวงานแต่งงานของญาติที่จังหวัดนครศรีธรรมราช แต่จะให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหาความจริงเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดเพราะถือว่าเป็นการทำผิดอย่างมาก.-สำนักข่าวไทย