กรุงเทพฯ 6 ก.พ. – แอสเซทไวส์ มอง “เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์” ช่วยสร้าง NEW S Curve ให้ประเทศไทย ดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ หนุนภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์คริปโต ชี้ต่างชาติมองภูเก็ตเป็นเมืองพิเศษ พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์ “Growing Success, Growing Happiness” มุ่งเติบโตอย่างยั่งยืน ปั้น 10 โครงการใหม่มูลค่า 22,000 ล้านบาท ขยายพอร์ตภูเก็ตรุกตลาดวิลล่าหรูครั้งแรก
นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจทั่วโลกในปี 2568 มีความท้าทายจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ แต่ยังคงมีปัจจัยบวกจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลงที่ช่วยกระตุ้นการผลิตการลงทุน ไปจนถึงเทรนด์รักสุขภาพและ Aging Society ทำให้ธุรกิจ Health & Wellness เติบโตขึ้น สำหรับประเทศไทยเองได้รับแรงสนับสนุนจากภาคการส่งออกที่ส่งสัญญาณดีขึ้น การเข้ามาลงทุน Data Center ของบริษัทระดับโลก ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงานทั้งคนในประเทศและ Expats ขณะที่ภาคการท่องเที่ยว จำนวนนักท่องเที่ยวยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งหมดนี้จะช่วยเพิ่มกำลังซื้อของคนในประเทศและกระตุ้นแรงซื้อจากชาวต่างชาติ โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มคอนโดมิเนียม
สำหรับนโยบาย “สถานบันเทิงครบวงจร” หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ของรัฐบาล มองว่าเป็นนโยบายสำคัญ ที่เป็น NEW S Curve ของประเทศได้ ทั้งนี้ประเทศไทยเป็น Hospitality มีโครงสร้างทั้งเรื่องโรงแรม ท่องเที่ยว อยู่แล้ว มีหลายอย่างที่พร้อม ดังนั้น การต่อยอดด้วยเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ สอดคล้องกับศักยภาพของไทย เป็นสิ่งที่ดี จะช่วยดึงดูดการท่องเที่ยวและการลงทุนเข้าประเทศ คิดว่าเป็นโปรเจกต์ ที่ทำให้ประเทศไทยก้าวไปอึกขึ้น เช่น สิงคโปร์ ที่มีการลงทุนที่สูง
ส่วนแนวทางของรัฐบาลในการทำแซนด์บ็อกซ์สำหรับการใช้เงินดิจิทัล และบิตคอยน์ในจังหวัดภูเก็ต นั้น มองว่าเป็นเรื่องดี เพราะภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยว มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก อาหารอร่อย และ PM2.5 อาจจะน้อยกว่าที่อื่นๆ ไทยอาจมองเป็น 1 จังหวัด แต่ทั่วโลกมองว่าเป็นเมืองพิเศษและเหมาะสมที่จะมาลงทุน จึงมองว่าเป็นโอกาสที่ดีที่รัฐบาลจะมีนโยบายต่างๆ ลงไปในพื้นที่ ซึ่งแอสเซทไวส์ มีการขยายโครงการวิลล่าในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ด้วย
ทั้งนี้ ในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 20 แอสเซทไวส์มุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและมั่นคง ผ่านแผนธุรกิจ “Growing Success, Growing Happiness” ควบคู่กับสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและมั่นคง จากปี 2567 ที่บริษัทสามารถทำยอดขายปี 2567 ได้ถึง 19,330 ล้านบาท สูงเกินกว่าเป้าที่ตั้งไว้ และเติบโตขึ้นกว่า 17% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
สำหรับปี 2568 วางแผนเปิดโครงการใหม่ 10 โครงการ มูลค่ารวม 22,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 8 โครงการ มูลค่ารวม 20,500 ล้านบาท และโครงการแนวราบ 2 โครงการ มูลค่ารวม 1,500 ล้านบาท เตรียมขยายแบรนด์ THE TITLE สู่โครงการ Luxury Villa เป็นครั้งแรกอีก 2 โครงการบนทำเลหาดในยางและเชิงทะเล โดยตลอทั้งปี 2569 ตั้งเป้าหมายยอดขายอยู่ที่ 19,500 ล้านบาท และเป้าหมายรายได้ 10,500 ล้านบาท เติบโต 20% จากปี 2567 ขณะเดียวกัน แอสเซทไวส์ยังมีโครงการสร้างเสร็จใหม่พร้อมโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2568 ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมทั้งหมด 7 โครงการ มูลค่ารวม 14,050 ล้านบาท และปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) สิ้นปี 2567 มูลค่ารวมกว่า 25,200 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนเป็นโครงการในกรุงเทพฯ ปริมณฑล จำนวน 12,600 ล้านบาท โครงการในทำเล EEC จำนวน 2,700 ล้านบาท และโครงการในภูเก็ตอีกกว่า 9,900 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้สร้างความแข็งแกร่งให้บริษัทอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2570
ทั้งนี้มองว่า จ.ภูเก็ต เป็นโอกาสทางธุรกิจ เพราะเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ซึ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มีทั้งจาก จีน รัสเซีย ยุโรป และประเทศอื่นๆ ซึ่งทางโครงการ ได้มีการออกแบบให้ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยว ที่มักจะเดินทาง พา เพื่อเลี่ยงอากาศหนาวในประเทศของตนเองมาพักที่ไทยเป็นระยะเวลานาน 3-4 เดือน.-516-สำนักข่าวไทย