เร่งเจรจาส่งออกโคไปจีน หลังเปิดตลาดมาเลเซียสำเร็จ

จีน 6 ก.พ. – “นฤมล” เผยข่าวดี ไทยเปิดตลาดส่งออกเนื้อโคไปมาเลเซียสำเร็จ ล่าสุดเยือนจีน เร่งเจรจาเปิดตลาดโคมีชีวิตและผลิตภัณฑ์ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อของไทย


ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กรมปศุสัตว์ได้รายงานต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพัฒนาโคเนื้อ – กระบือ และผลิตภัณฑ์แห่งชาติ (Beef Board) ว่า กรมสัตวแพทย์บริการแห่งสหพันธรัฐมาเลเซีย (DVS) ได้มีหนังสือแจ้งผลการเจรจาเปิดตลาดส่งออกเนื้อโคไปยังประเทศมาเลเซีย ว่าอนุญาตให้ส่งออกเนื้อโคจากไทยไปมาเลเซียได้แล้วตามข้อกำหนดที่ตกลง และขอให้สถานประกอบการนำส่งคำขอขึ้นทะเบียนไปยัง DVS เพื่อรอรับการตรวจรับรองต่อไป

กระทรวงเกษตรฯ เดินหน้านโยบายขับเคลื่อนการส่งออกโคเนื้อ-กระบือไปต่างประเทศ เพื่อกระตุ้นการค้าขายสินค้าปศุสัตว์ของประเทศ และทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น มีอาชีพที่มั่นคง โดยได้ผลักดันการส่งออกโคมีชีวิตและผลิตภัณฑ์จากไทยไปสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยในการเยือนจีนครั้งนี้ จะหารือกับสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (GACC) ตามที่ได้เจรจายกระดับเปิดตลาดมาอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาของ GACC


โคเนื้อและผลิตภัณฑ์เป็นอีกหนึ่งความคาดหวังที่กระทรวงเกษตรฯ จะผลักดันให้เป็นสินค้าส่งออกอันดับต้นๆ เพื่อเป้าหมายประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกโคเนื้อรายใหญ่ของโลก เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมระดับพรีเมียม จึงควรส่งเสริมการเลี้ยงโคให้กับเกษตรกร และสนับสนุนการแปรรูปพัฒนาคุณภาพ มาตรฐาน และรูปแบบ ซึ่งจะสร้างรายได้เพิ่มขึ้นให้กับกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อของไทย ดังนั้น จึงต้องพัฒนาศักยภาพการผลิตและการตลาดตลาดโคเนื้อ รวมถึงการลดต้นทุนการผลิตอาหารสัตว์ พัฒนาคุณภาพสินค้าให้ตรงความต้องการของตลาด พัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน และมีความปลอดภัย รวมถึงส่งเสริมให้แปรรูปสินค้าเกษตรเพื่อให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น

ศ.ดร.นฤมล ยังกล่าวถึงการแก้ไขปัญหาราคาโคเนื้อตกต่ำด้วยว่า กระทรวงเกษตรฯ ได้ผลักดันแนวทางการกำหนดราคาโคเนื้อให้มีเสถียรภาพ เริ่มจากการประกาศราคาแนะนำโคเนื้อมีชีวิตรายภาค โดยสมาคมโคเนื้อแห่งประเทศไทย การจัดทำโครงสร้างราคา การรณรงค์การบริโภคเนื้อโค พร้อมทั้งกำหนดมาตรการป้องกันการลักลอบนำเข้า เข้มงวดการตรวจสอบการลักลอบนำเข้าเนื้อโคผิดกฎหมาย โดยชุดเฉพาะกิจพญานาคราช รวมถึงเข้มงวดป้องกันการลักลอบใช้สารเร่งเนื้อแดง และเดินหน้าเจรจาเปิดตลาดโคเนื้อมีชีวิตเพื่อขยายตลาดส่งออกให้มากขึ้น

ล่าสุด ในที่ประชุม Beef Board ยังได้ร่วมกันพิจารณาในประเด็นที่สำคัญ โดยได้เห็นชอบการขอรับการสนับสนุนงบประมาณ (งบกลาง) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 สำหรับการจัดซื้อวัคซีนสำหรับโรคปากและเท้าเปื่อยเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันโรคให้ครอบคลุมประชากรโคเนื้อ กระบือ แพะและแกะ ควบคุมป้องกันโรคให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ลดความเสียหายของเกษตรกรจากโรคดังกล่าว ตลอดจนเพื่อให้อุบัติการณ์ของโรคลดลง จนไม่พบการระบาดและไม่พบสัตว์ป่วยตายภายในประเทศ สร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศคู่ค้า เพิ่มศักยภาพการส่งออกไปยังต่างประเทศให้มากขึ้น


สำหรับสถานการณ์การผลิตโคเนื้อ ปี 2567 มีโคเนื้อทั้งสิ้น 9.904 ล้านตัว เพิ่มขึ้นจาก 9.655 ล้านตัว ของปี 2566 หรือคิดเป็นร้อยละ 2.58 ด้านผลผลิตโคเนื้อ 1.180 ล้านตัว ลดลงจาก 1.297 ล้านตัว ของปี 2566 ร้อยละ 9.04 ด้านการตลาด ส่งออกโคมีชีวิตรวม 133,416 ตัว มูลค่า 3,242.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 87,144 ตัว ของปี 2566 ร้อยละ 53.10 โดยส่งออกไปประเทศเวียดนาม 43.64% มาเลเซีย 28.64% ลาว 27.34% และอื่นๆ 0.38% ขณะที่การส่งออกเนื้อโคและผลิตภัณฑ์ รวม 0.656 พันตัน มูลค่า 99.05 ล้านบาท ลดลงจาก 0.87 พันตัน ของปี 2566 ร้อยละ 24.60 โดยแบ่งเป็นเนื้อโคแปรรูปร้อยละ 99.8 และเนื้อโคสดแช่เย็นแข่แข็งร้อยละ 0.2 ซึ่งเนื้อโคแปรรูปจะส่งออกไปญี่ปุ่นทั้งหมด ส่วนเนื้อโคสดแช่เย็นแช่แข็งส่งออกไปเมียนมา ร้อยละ 49 ลาวร้อยละ 46 กัมพูชาร้อยละ 5

ในปี 2567 ไม่มีการนำเข้าโคเนื้อมีชีวิต แต่มีการนำเข้าเนื้อโคและผลิตภัณฑ์ 35 พันตัน เพิ่มขึ้นจาก 25.30 พันตัน ของปี 2566 ร้อยละ 38.34 ประเทศคู่ค้าที่สำคัญสำหรับเนื้อโคสดแช่เย็นแช่แข็ง ได้แก่ ออสเตรเลีย (60%) อาร์เจนตินา (14%) นิวซีแลนด์ (10%) บราซิล (10%) อื่นๆ (6%) ส่วนเนื้อโคแปรรูปนำเข้าจากออสเตรเลียทั้งหมด

ในส่วนของสถานการณ์การผลิตกระบือ ปี 2567 มีกระบือทั้งสิ้น 1,815,901 ตัว ปริมาณการผลิตกระบือเนื้อ 374,195 ตัว คิดเป็นเนื้อกระบือ 80,826 ตัน ปรับเพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 2.09 มีมูลค่านำเข้ากระบือรวมทั้งสิ้น 100.37 ล้านบาท โดยเป็นหนังกระบือฟอก หนังกระบือดิบ และเขากระบือ สำหรับมูลค่าการส่งออกรวมทั้งสิ้น 1,265.02 ล้านบาท ประเทศคู่ค้าส่งออกกระบือมีชีวิต ได้แก่ สปป.ลาว เวียดนาม มาเลเซีย เมียนมา สินค้าส่งออกสำคัญได้แก่ เศษหนังโค-กระบือตากแห้ง หนังกระบือดิบ เขากระบือ และกระบือมีชีวิต. -512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]