ธ.ก.ส.จับมือ Bank สปป.ลาว ยกระดับการให้บริการทางการเงิน

กรุงเทพฯ 5 ก.พ. – ธ.ก.ส.จับมือ Agricultural Promotion Bank สปป.ลาว ยกระดับการให้บริการทางการเงินระหว่างประเทศ


ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารส่งเสริมกสิกรรมแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (Agricultural Promotion Bank : APB) ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมมือทางธุรกิจให้บริการทางการเงิน พร้อมเปิดตัวบริการโอนเงินระหว่างประเทศไทย-ลาว เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะชาว สปป.ลาว เดินทางเข้ามาทำงานในประเทศไทย ให้โอนเงินกลับประเทศได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และประหยัดค่าใช้จ่ายมากยิ่งขึ้น และคิดค่าธรรมเนียมต่ำ

โดยไม่ต้องเดินทางมาที่สาขา พร้อมต่อยอดความร่วมมือในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินดิจิทัลที่ครบวงจร ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าทั้งสองประเทศ ควบคู่กับการสนับสนุนการสร้างพื้นฐานระบบการเงินที่มั่นคงและมีประสิทธิภาพในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพื่อไปสู่อนาคตทางการเงินที่แข็งแกร่งระหว่างไทย-ลาว โดยมีท่านพงไซศักดิ์ อินถาลาด รองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม สปป.ลาว นางสาวมรกต ศรีสวัสดิ์ เอกอัครราชทูตไทย ณ เวียงจันทน์ ผู้บริหารระดับสูงจาก ธ.ก.ส. และ APB ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ โรงแรมดอนจัน พาเลซ นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว


นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่าง ธ.ก.ส. และ APB ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาธุรกิจของธนาคารในอาเซียน จึงมุ่งขับเคลื่อนการเงินยุคดิจิทัล ยกระดับคุณภาพชีวิต ด้วยการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน สปป.ลาว ที่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม สปป.ลาว ให้เข้ามาทำงานในประเทศไทย โอนเงินกลับประเทศได้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ผ่านบัญชีของธนาคาร APB ใน สปป.ลาว ได้ทันที โดยไม่ต้องเดินทางมาทำธุรกรรมที่สาขาทุกครั้งในอัตราค่าธรรมเนียมพิเศษ

นอกจากนี้ ธ.ก.ส. เตรียมเปิดบริการโอนเงินระหว่างประเทศผ่านแอปพลิเคชัน BAAC Mobile เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน สปป.ลาว สามารถโอนเงินกลับประเทศได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้นในเร็ว ๆ นี้ รวมถึงจะร่วมมือกันพัฒนาบุคลากรที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ธนาคารในด้านการเพิ่มขีดความสามารถบุคลากรและกระบวนการทำงานที่สำคัญ เพื่อให้การบริหารจัดการองค์กรมีประสิทธิภาพ รองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต และทั้งสองธนาคารยังพร้อมต่อยอดความร่วมมือในด้านธุรกิจ ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินดิจิทัลอื่น ๆ เช่น QR Cross Border Payment ผ่านแอปพลิเคชัน BAAC Mobile รวมถึงการให้บริการบัตรเดบิตแบบมีประกันภัย เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าทั้งสองประเทศต่อไป

นอกจากนี้ การร่วมมือในครั้งนี้ ยังถือเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมขยายความร่วมมือในระดับสากล ผ่านการเป็นสมาชิกของสมาคมสินเชื่อการเกษตรและชนบทแห่งภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก (Asia-Pacific Rural and Agricultural Credit Association : APRACA) เพื่อผนึกกำลังในการเสริมสร้างความเข้มแข็งระบบการเงินในภูมิภาคและสร้างการเติบโตให้กับธนาคารไปสู่การเป็นธนาคารดิจิทัลระดับสากลอย่างยั่งยืนไปพร้อมกัน.-515- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ