กรุงเทพฯ 4 ก.พ. – รมว.เกษตรฯ เผยไทยส่งออกสินค้าเกษตรจากลำดับที่ 15 ขยับขึ้นเป็นอันดับที่ 16 โดยปี 67 ส่งออกรวม 1.8 ล้านล้านบาทต่อปี เกินดุลถึง 1 ล้านล้านบาท ข้าวครองอันดับ 1 ตามด้วยเนื้อไก่ ทุเรียน และยางพารา ตามลำดับ เดินหน้าหนุนผลิตสินค้าเกษตรมูลค่าสูงและการผลิตสินค้าเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ Global Markets: เกษตรไทยผงาดตลาดโลก” โดยระบุว่า ปัจจุบันเวทีโลกให้ความสำคัญกับภาคการเกษตรของไทย องค์กรนานาชาติที่เกี่ยวกับเรื่องของอาหารและการเกษตรมาตั้งสำนักงานสาขาที่เรียกว่า สำนักงานภูมิภาคในประเทศไทยครบหมดแล้ว เนื่องจากเห็นว่า ไทยมีความพร้อมตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำของภาคการเกษตร
จากข้อมูลปี 2567 ไทยออกสินค้าเกษตรร่วม 1.8 ล้านล้านบาท และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี โดยเกินดุลถึง 1 ล้านล้านบาท ประเทศที่ไทยส่งสินค้าเกษตรออกไปคือ สาธารณรัฐประชาชนจีน ถัดมาเป็นสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ข้าวมีมูลค่าส่งออกเยอะที่สุด รองลงมาคือ เนื้อไก่ ทุเรียน ยางพารา โดยไทยเป็นผู้ส่งออกยางอันดับ 1 ของโลก โดยปี 2567 ราคายางพาราเพิ่มขึ้นร่วม 40 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นกว่า 100,000 ล้านบาท โดยไม่ต้องใช้ภาระงบประมาณ ไม่ต้องใช้ภาษี ถ้าดูในภาพรวมแล้ว การส่งออกสินค้าเกษตรของประเทศไทยอยู่ลำดับที่ 15 จากปีก่อนหน้านั้นอยู่ลำดับที่ 16 ปีนี้ขยับขึ้นมา ซึ่งเราก็หวังว่าเราจะขยับขึ้นไปเรื่อยๆ ทั้งในเชิงมูลค่าและปริมาณ ไม่ใช่แค่ปริมาณอย่างเดียว
กระทรวงเกษตรฯ มีนโยบายส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรมูลค่าสูง จึงสนับสนุนให้เกษตรกรในพื้นที่ที่เหมาะสมปลูกกาแฟหรือโกโก้ โดยกำลังทำงบประมาณเพื่อที่เราจะสนับสนุนให้มีรายได้ที่สูงขึ้น รวมไปถึงการทำเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นอกจากนนี้ยังมีนโยบายส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการส่งเสริมการปลูกข้าวคาร์บอนต่ำ ด้วยการใช้วิธีการทำนาแบบเปียกสลับแห้ง ซึ่งผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นทำให้เราสามารถลดการใช้น้ำในการเพาะปลูกได้กว่า 50% และสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซที่จะไปสร้างภาวะเรือนกระจกได้
สำหรับความท้าทายของภาคเกษตรไทยคือ การที่มีประชากรสูงวัยจำนวนมาก รวมถึงกลุ่มเกษตรกรด้วย แม้มีปัจจัยพร้อมในการสร้างความมั่นคงทางอาหารและส่งออกให้ชาวโลกได้ แต่หากไม่มีเกษตรกรรุ่นใหม่เข้ามาเพิ่ม ท้ายที่สุดจะไม่สามารถเดินต่อไปได้อย่างยั่งยืน กระทรวงเกษตรฯ จึงพยายามที่จะสนับสนุนให้ young smart farmer เข้ามาให้มากขึ้น
การปาฐกถาพิเศษดังกล่าว จัดขึ้นภายในงาน “Go Thailand 2025 Women Run the World : พลังหญิงเปลี่ยนโลก” เพื่อเป็นการแบ่งปันวิสัยทัศน์และมุมมองการขับเคลื่อนประเทศ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างแรงบันดาลใจและเรียนรู้จากผู้นำหญิงที่ประสบความสำเร็จ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายในอนาคต. -512 – สำนักข่าวไทย