“พ.ร.บ.ตั๋วร่วมฯ” คาดมีผลบังคับใช้กลางปีนี้

กรุงเทพ 31 ม.ค.- “มนพร” กางไทม์ไลน์ “พ.ร.บ.ตั๋วร่วมฯ” หลังสภาฯ เทเสียงเอกฉันท์ “รับหลักการ” วาระ 1 แล้ว คาดมีผลบังคับใช้กลางปีนี้ ส่วนกฎหมายลำดับรอง ประกาศได้ภายใน ก.ย. 68 แน่นอน หนุนนโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย พกบัตรโดยสารใบเดียวเดินทางครอบคลุมทุกระบบในราคาเป็นธรรม จูงใจประชาชนมาใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น ลดค่าใช้จ่าย-ลดปัญหามลภาวะ-เพิ่มความสะดวก


นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา ที่ประชุมได้มีมติเอกฉันท์รับหลักการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. …. เพื่อเป็นการสนับสนุนการให้บริการขนส่งสาธารณะ ทั้งรถไฟ รถไฟฟ้า รถเมล์ และเรือโดยสาร โดยให้ประชาชนผู้ใช้บริการมีต้นทุนในการเดินทางที่ลดลง และยังเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน ด้วยการใช้บัตรโดยสารใบเดียว สามารถเดินทางได้ทุกระบบของการบริการขนส่งสาธารณะ ซึ่งจะทำให้ประชาชนเปลี่ยนพฤติกรรมจากรถส่วนบุคคลมาเป็นขนส่งสาธารณะได้อยากสะดวก รวดเร็ว และมีราคาสมเหตุสมผล

สำหรับกรอบการดำเนินแผนการขับเคลื่อนร่าง พ.ร.บ. การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. …. หลังจากนี้นั้น จะเข้าสู่กระบวนการต่อด้านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร วาระที่ 2 และ 3 ก่อนที่มีการพิจารณาของวุฒิสภา โดยคาดว่าจะประกาศในราชกิจจานุเบกษา และมีผลบังคับใช้ในช่วงกลางปี 2568 พร้อมกับเตรียมร่างกฎหมายลำดับรอง รับฟังความเห็น และเสนอประกาศกฎหมายลำดับรองภายในเดือนกันยายน 2568 เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายครบทุกสี ทุกสาย ทุกเส้นทาง ผ่านการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมระบบตั๋วร่วมต่อไป


นางมนพร กล่าวต่อว่า พ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมฯ นั้น มีหลักการสำคัญ 5 ประการ คือ 1) การจัดทำมาตรฐานทางเทคโนโลยีของระบบตั๋วร่วมเพื่อให้เป็นมาตรฐานกลาง โดยมีสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งการจราจาร (สนข.) และใช้เป็นมาตรฐานกลางสำหรับตั๋วร่วมในอนาคต 2) กำหนดอัตราโดยสารร่วม โดยอำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในการออกกฎกระทรวง เพื่อกำหนดอัตราค่าโดยสารร่วม และเป็นการกำหนดให้หน่วยงานของรัฐจะต้องนำอัตราค่าโดยสารร่วมไปใช้บังคับในการทำสัญญาสัมปทานขนส่งสาธารณะในอนาคตด้วย 3) จัดตั้งกองทุนส่งเสริมระบบตั๋วร่วม เพื่อสนับสนุนในการดำเนินงาน การพัฒนา และการส่งเสริมเกี่ยวกับการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม รวมทั้งให้กู้ยืมแก่ภาคเอกชนที่ประกอบกิจการตั๋วร่วม ขณะที่ 4) ผู้ประกอบการที่จะมีสิทธิ์ขอรับการสนับสนุนจากกองทุนส่งเสริมระบบตั๋วร่วม จะต้องเป็นผู้ที่ได้รับใบอนุญาตตามกฎหมายฉบับนี้ และ 5) ในกรณีมีความจำเป็นให้ตราพระราชกฤษฎีกากำหนดให้มีการประกอบกิจการขนส่งสาธารณะใดเป็นกิจการที่ต้องใช้ระบบตั๋วร่วม และต้องได้ใบรับอนุญาตตามกฎหมายฉบับนี้ เพื่อรักษาการให้บริการระบบตั๋วร่วม หรือเพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดในการส่งเสริมระบบตั๋วร่วมเพื่อป้องกันการเสียหายต่อสาธารณะ นอกจากนี้ สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมฯ ประกอบด้วย 7 หมวด และบทเฉพาะกาล (54 มาตรา) โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อลดค่าใช้จ่าย และอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน พร้อมทั้งหันมาเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของรัฐบาล

นางมนพร กล่าวอีกว่า สำหรับการตราพระราชบัญญัตินี้ เนื่องจากเล็งเห็นว่า ปัจจุบันการขนส่งผู้โดยสารในระบบขนส่งสาธารณะมีผู้ให้บริการหลายราย โดยผู้ให้บริการแต่ละรายมีต้นทุนในการจัดทำและบริหารจัดการระบบการจัดเก็บค่าโดยสารหรือค่าธรรมเนียมของตนเอง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ต้นทุนในการให้บริการระบบขนส่งสาธารณะอยู่ในอัตราสูง และประชาชนผู้ใช้บริการต้องรับผิดชอบต้นทุนดังกล่าว ซึ่งนอกจากจะเป็นต้นทุน และภาระของประชาชนแล้ว ยังทำให้เกิดความไม่สะดวกในการใช้บริการขนส่งสาธารณะอีกด้วย

อีกทั้งยังเพื่ออำนวยความสะดวกและลดค่าใช้จ่ายแก่ประชาชนผู้ใช้บริการให้สามารถใช้บัตรโดยสารใบเดียวในการเดินทางได้ทุกระบบขนส่งสาธารณะ อันเป็นการสนับสนุนให้ประชาชนเปลี่ยนพฤติกรรมการเดินทางจากขนส่งส่วนบุคคล เป็นการเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามเป้าหมายของรัฐบาลได้อีกทางหนึ่ง รวมทั้งจะทำให้สามารถลดค่าโดยสารลงได้ ถือเป็นประโยชน์แก่ประชาชนผู้ใช้บริการ จึงควรกำหนดให้มีการบริหารจัดการร่วมกันในรูปแบบระบบตั๋วร่วม โดยการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมระบบตั๋วร่วมสนับสนุนการดำเนินงาน การพัฒนา และการส่งเสริมเกี่ยวกับการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม/สำนักข่าวไทย-513


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศเย็น-มีหมอกตอนเช้า

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบนยังมีอากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า

ทูตไทยขอบคุณอิสราเอลช่วยปล่อย 5 ตัวประกันชาวไทย

เอกอัครราชทูตไทยประจำอิสราเอล กล่าวขอบคุณรัฐบาลอิสราเอล ในการช่วยเหลือตัวประกันชาวไทย 5 คน กลับบ้าน หลังกลุ่มฮามาสปล่อยตัว พร้อมกับตัวประกันชาวอิสราเอล 3 คน

5 แรงงานไทยปลอดภัยดี พูดคุยปกติ หลังฮามาสปล่อยตัว

“พิพัฒน์” เผย 5 แรงงานไทยปลอดภัยดี พูดคุยปกติ หลังได้รับการปล่อยตัว มอบปลัดแรงงาน ดูแลสิทธิประโยชน์กองทุนฯ ต่างประเทศ และประกันสังคม

นายกฯ ยินดีหลังได้รับยืนยัน 5 คนไทยได้รับการปล่อยตัวจากกาซาแล้ว

“นายกฯ แพทองธาร” ยินดีหลังได้รับการยืนยัน 5 คนไทยได้รับการปล่อยตัวจากกาซาแล้ว สั่ง รมต.ต่างประเทศ เดินทางไปรับตัวกลับสู่อ้อมกอดประเทศไทย พร้อมขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องสำหรับการช่วยเหลือ หวังคนไทยที่เหลือจะได้รับการปล่อยตัวกลับบ้านอย่างปลอดภัย