ออก พ.ร.ก.จัดการโจรคอลเซ็นเตอร์และไซเบอร์

ทำเนียบฯ 28 ม.ค. – รัฐบาลติดดาบด้วย พ.ร.ก.จัดการโจรคอลเซ็นเตอร์และไซเบอร์ ให้อำนาจเด็ดขาดเจ้าหน้าที่ จับกุม เพิกถอน เพิ่มโทษ เจ้าของแอปฯ ธนาคาร เครือข่ายมือถือ ห้ามเพิกเฉย คาด ก.พ.นี้มีบังคับใช้


นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ ตามข้อเสนอกระทรวงดีอี แก้ไขพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หลังพบว่า ประชาชนยังได้รับความเสียหายเฉลี่ยต่อวัน 60 – 70 ล้านบาท (จากเดิมก่อนออกมาตรการ 100 – 120 ล้านบาทต่อวัน) จึงจำเป็นต้องมีมาตรการเร่งด่วนในการดำเนินการแก้ปัญหานี้

ยอมรับว่า พ.ร.ก. ฉบับเดิม 2566 ยังขาดอำนาจหน้าที่และการกำหนดโทษ หลาย ๆ ประเด็นโดยเฉพาะอำนาจการดำเนินการกับบัญชีม้าบนแพลตฟอร์ม P2P, อำนาจการคืนเงินให้กับประชาชน, และการรับผิดร่วมของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ทั้งนี้ พ.ร.ก. ฉบับนี้มีสาระสำคัญ ในการเสนอการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ก. ฉบับเดิม พ.ศ. 2566 ดังนี้
1. เพิ่มอำนาจการดำเนินการกับแพลตฟอร์ม P2P ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด
2. เพิ่มหน้าที่ให้ telco provider ต้องระงับซิมที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด
3. เพิ่มหน้าที่การส่งข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีม้าของธนาคารต่าง ๆ ไปยัง ปปง. เพื่อตรวจสอบและคืนเงินให้กับผู้เสียหายได้รวดเร็วมากขึ้น
4. เพิ่มบทลงโทษแพลตฟอร์ม P2P รวมถึงธนาคารที่ไม่ปฏิเสธการเปิดบัญชีของคนร้าย
5. เพิ่มบทลงโทษผู้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
6. เพิ่มบทลงโทษให้สถาบันทางการเงิน เครือข่ายมือถือ สื่อสังคมออนไลน์ มีส่วนรับผิดชอบกับความเสียหายที่เกิดขึ้น


นายจิรายุ กล่าวเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรีได้สอบถามถึงการประกาศใช้เป็น พ.ร.ก. ฉบับดังกล่าวสามารถจัดการกระบวนการหลอกลวงที่เป็นปัญหาสังคมอยู่ในขณะนี้ ได้อย่างไร เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา แจ้งว่า มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเป็นกรณีฉุกเฉิน ที่มีความจำเป็นรีบด่วนอันมิอาจจะหลีกเลี่ยงได้ และเพื่อประโยชน์ในอันที่จะรักษาความปลอดภัยสาธารณะและความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ ขณะที่ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดีอี รายงานในที่ประชุมว่ากฎหมายฉบับนี้ถือเป็นประโยชน์ต่อประชาชน และจะสามารถป้องกันและปราบปรามได้มากยิ่งขึ้น

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้อนุมัติในหลักการตามที่ ก.ดิจิทัลฯ เสนอและให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา และให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา รับร่าง พ.ร.ก. ไปพิจารณาปรับรูปแบบ โดยให้รับความเห็นหน่วยงานไปประกอบการพิจารณาสำหรับร่าง พ.ร.ก. ฉบับนี้หลัง ครม. เห็นชอบ และมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วจะมีผลบังคับใช้ทันที อาจใช้เวลาไม่เกิน 30 วัน คาดว่าประกาศบังคับใช้ได้ในเดือนกุมภาพันธ์ หรือเดือนหน้านี้

พ.ร.ก.ฉบับนี้ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรืออาชญากรรมไซเบอร์ในรูปแบบต่าง ๆ ประกอบกัน เนื่องจากกฎหมายนี้เป็นหนึ่งในมาตรการดำเนินการอีกทั้งยังมีมาตรการอื่นอีก เช่น การทำงานร่วมกับต่างประเทศในการทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่มีฐานที่ตั้งบริเวณชายแดน ถือเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้ในการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านดิจิทัลครั้งล่าสุดได้นำเสนอเรื่องนี้เป็นรายงานในที่ประชุม ซึ่งทุกประเทศก็เห็นพ้องในการยกระดับร่วมกันและถือว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ การหลอกลวงในโซเชียล เป็นภัยที่ทุกประเทศต้องตระหนัก จึงต้องทำงานร่วมกัน” นายจิรายุ กล่าว.-515- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อภิปรายนายก

“บิ๊กป้อม” ซักฟอก 10 นาที นายกฯ แจงที่พูดมาไม่เป็นความจริง

“บิ๊กป้อม” ลุกอภิปรายครั้งแรก ซัดแรง “ประเทศไม่ใช่เวทีให้มือสมัครเล่นมาซ้อมมือ” ชี้ มีพฤติการณ์ไม่อาจไว้วางใจให้บริหารประเทศ เหตุเศรษฐกิจล้มเหลว-เสี่ยงเสียดินแดนปม MOU44-กาสิโนจะนำชาติไปสู่ความหายนะ ลั่น เคยใช้ใจบันดาลแรง บริหารประเทศสำเร็จหลายอย่าง แนะ นายกฯ เห็นประโยชน์ประเทศมากกว่าครอบครัว-พวกพ้อง ขณะที่ นายกฯ ลุกขึ้นแจงสภาครั้งแรกย้อนกลับ คำพูด “ประวิตร” ทุกอย่างที่พูดมาไม่เป็นความจริง

ลดราคาน้ำมัน

“พีระพันธุ์” ลดราคาน้ำมัน 1 บาท ช่วงสงกรานต์ ตรึง LPG -หาทางลดค่าไฟ

“พีระพันธุ์” ประธาน กบน.ใช้ช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ประกาศข่าวดี ผลงานเด่น ลดราคาน้ำมันเบนซิน-ดีเซล 1 บาท/ลิตร เป็นของขวัญให้ประชาชนช่วงสงกรานต์ ตรึงราคาแอลพีจี และเตรียมหาทางลดค่าไฟฟ้าลงอีก

สกัดจับรถตู้คอนเทนเนอร์ดัดแปลงขนยาเสพติดข้ามประเทศ

ตำรวจขยายผลสกัดจับยาบ้าลักลอบขนมาจากตู้คอนเทนเนอร์ดัดแปลง ข้ามชายแดนมาจากประเทศเพื่อนบ้านอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก พบพฤติกรรมผู้ต้องหาเปิดบริษัทซื้อรถบรรทุกขนตู้คอนเทนเนอร์ส่งน้ำข้ามชายแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน แต่กลับดัดแปลงรถตู้คอนเทนเนอร์นำยาเสพติดเข้าประเทศ

Noon Varanuch in China

“นุ่น วรนุช” ลุคสวยสะกด ร่วมรายการวาไรตี้จีน

ฉางซา 24 มี.ค. – “นุ่น วรนุช” ดารานักแสดงชื่อดังของไทย โชว์ความสามารถในรายการ “ไรด์ เดอะ วินด์” (Ride The Wind) หรือเฉิงเฟิง ปี 2025 ของช่องแมงโกทีวี (Mango TV) ในจีน ซึ่งเริ่มต้นออกอากาศตอนแรกเมื่อวันศุกร์ 21 มีนาคมที่ผ่านมา สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า นุ่น วรนุช นักแสดงหญิงชาวไทย เข้าร่วมบันทึกเทปรายการไรด์ เดอะ วินด์ หรือเฉิงเฟิง ปี 2025 โดยเธอได้ร้องเพลง “พิง” ของนนท์ ธนนท์ ฉบับภาษาไทย-ภาษาจีน บนเวทีริมทะเลที่อำเภอปกครองตนเองหลิงสุ่ย กลุ่มชาติพันธุ์หลี มณฑลไห่หนานทางตอนใต้ของจีนเมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2568 ไรด์ เดอะ วินด์ หรือเฉิงเฟิง เป็นรายการวาไรตี้โชว์ชื่อดังที่ออกอากาศมา 6 ซีซันแล้ว เปิดโอกาสให้ดารานักแสดงหญิงจากทั่วโลกมาทำการแสดงด้วยเป้าหมายส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างจีนกับนานาชาติ โดยซีซันก่อนหน้านี้มีนักแสดงหญิงชาวไทยอย่างใหม่ ดาวิกา […]

ข่าวแนะนำ

อุุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อนจัด-กทม.ฝนฟ้าคะนอง 10%

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไปและอากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ส่วนภาคใต้มีฝนน้อย กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 10% ของพื้นที่

“ผศ.พิมล” นั่งประธานโอลิมปิคไทยคนที่ 8

ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ได้รับเลือกตั้งให้เป็นประธานคณะคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยคนที่ 8 โดยนับเป็นพลเรือนคนแรกในรอบ 60 ปี ที่ไม่มีตำแหน่งทางทหาร

โจรชุดไรเดอร์บุกชิงทอง 30 บาท กลางห้างดังย่านบางแค

ล่าโจรแต่งชุดไรเดอร์บุกเดี่ยวชิงทอง ร้านทองห้างดัง ย่านบางแค กวาดทอง 30 บาท มูลค่าเกือบ 1.5 ล้านบาท ไล่กล้องวงจรปิดพบเดินเท้าออกมาจากซอยข้างห้าง ก่อนทิ้งเสื้อไรเดอร์หนี

นายกฯ แจงปมชั้น 14 รพ.ตำรวจ ยันไม่มีดีลปีศาจ

นายกฯ แจงปมชั้น 14 รพ.ตำรวจ ยันไม่มีดีลปีศาจ ต่อให้ก้าวไกลเป็นรัฐบาล “ทักษิณ” ก็กลับประเทศ ชี้ “ทักษิณ“ ได้รับความไม่ยุติธรรมตลอด 20 ปี บอกลาออกจากความเป็นลูกสาว-ความเป็นแม่ไม่ได้ ขอวิจารณ์การทำงานจะเป็นประโยชน์มากกว่า