ธอส.เตรียมกรอบวงเงินกว่า 108,000 ล้าน หนุนคนไทยมีบ้าน

กรุงเทพฯ 24 ม.ค. – ธอส. เตรียมกรอบวงเงินกว่า 108,000 ล้านบาท สนับสนุนคนไทยมีบ้านเป็นของตนเอง จัดทำสินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยต่ำ เริ่มต้น 0% นาน 1 ปี


ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงการคลัง สนับสนุนคนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมากขึ้นอย่างมั่นคงและยั่งยืน เตรียมกรอบวงเงิน 108,500 ล้านบาท จัดทำสินเชื่อที่อยู่อาศัยอัตราดอกเบี้ยต่ำ ครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่ม นำโดย (1) โครงการบ้าน ธอส.-กบข. เพื่อที่อยู่อาศัยข้าราชการ ครั้งที่ 16 : อัตราดอกเบี้ยปีแรก 0% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี เท่ากับ 2.60% (2) โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อบุคลากรภาครัฐ ปี 2568 : อัตราดอกเบี้ยปีแรก 2.50% ต่อปี อัตราดอกเบี้ย อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี เท่ากับ 3.17%

(3) โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปี 2568 : อัตราดอกเบี้ยคงที่ ปีที่ 1-3 เท่ากับ 2.90% ต่อปี (4) โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อคนพิการ ปี 2568 : อัตราดอกเบี้ยคงที่ ปีที่ 1-3 เท่ากับ 2.25% ต่อปี (5) โครงการบ้าน ธอส. เพื่อคุณ ปี 2568 : อัตราดอกเบี้ยปีแรก 3.50% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี เท่ากับ 4.10% และ (6) โครงการสินเชื่อบ้าน S-em (Self employee) : อัตราดอกเบี้ยคงที่ ปีที่ 1-5 เท่ากับ 3.75% ต่อปี ผู้ที่สนใจสามารถยื่นขอสินเชื่อได้แล้ว ณ สาขาธนาคารทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป


นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” โดยตลอดระยะเวลากว่า 71 ปี ได้ทำให้คนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมาแล้วมากกว่า 4.6 ล้านครอบครัว และในปี 2568 ธอส. ยังคงเดินหน้าดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงการคลัง ในการสนับสนุนให้คนไทยทุกกลุ่มมีบ้านเป็นของตนเองเพิ่มมากขึ้น โดยเตรียมกรอบวงเงินรวม 108,500 ล้านบาท จัดทำสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ ประกอบด้วย

1.โครงการบ้าน ธอส.-กบข. เพื่อที่อยู่อาศัยข้าราชการ ครั้งที่ 16 : กรอบวงเงิน 1,000 ล้านบาท สำหรับข้าราชการที่ยังรับราชการอยู่และเป็นสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ที่ต้องการกู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ขยาย ซ่อมแซม ซื้อที่ดินเปล่าที่เป็นทรัพย์ NPA ของธนาคาร ไถ่ถอนจากสถาบันการเงินอื่น (รีไฟแนนซ์) ชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ชำระหนี้พร้อมรีไฟแนนซ์ และซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย อัตราดอกเบี้ยปีแรก 0% ต่อปี, ปีที่ 2 เท่ากับ 3.25% ต่อปี, ปีที่ 3 เท่ากับ 4.55% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 2.60%, ปีที่ 4-5 เท่ากับ MRR-2.00% ต่อปี และปีที่ 6 จนถึงตลอดอายุสัญญา เท่ากับ MRR-1.25% ต่อปี ยกเว้นกรณีกู้ชำระหนี้/ซื้ออุปกรณ์ฯ เท่ากับ MRR (อัตราดอกเบี้ย MRR ของ ธอส. ปัจจุบันเท่ากับ 6.545% ต่อปี) กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียงเดือนละ 4,400 บาท

2.โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อบุคลากรภาครัฐ ปี 2568 : กรอบวงเงิน 40,000 ล้านบาท สำหรับข้าราชการ พนักงานราชการ พนักงานมหาวิทยาลัย พนักงานรัฐวิสาหกิจ พนักงาน/เจ้าหน้าที่ของรัฐ และลูกจ้างประจำที่เป็นผู้มีสิทธิขอกู้เงินตามคำนิยามในข้อตกลงโครงการสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยประเภทไม่มีเงินฝากของธนาคารที่ต้องการกู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง รีไฟแนนซ์ ต่อเติม ขยาย ซ่อมแซม ชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ชำระหนี้พร้อมรีไฟแนนซ์ และซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 เท่ากับ 2.50% ต่อปี, ปีที่ 2 เท่ากับ 3.25% ต่อปี, ปีที่ 3 เท่ากับ 3.75% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกเท่ากับ 3.17% ต่อปี ปีที่ 4-5 เท่ากับ MRR-2.25% ต่อปี และปีที่ 6 จนถึงตลอดอายุสัญญา เท่ากับ MRR-2.00% ต่อปี ยกเว้นกรณีกู้ชำระหนี้/ซื้ออุปกรณ์ฯ เท่ากับ MRR กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียง เดือนละ 3,300 บาท


3.โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปี 2568 : กรอบวงเงิน 2,000 ล้านบาท สำหรับลูกค้าทั่วไปที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ จังหวัดยะลา นราธิวาส และปัตตานี และมีความต้องการที่อยู่อาศัยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ จังหวัดยะลา นราธิวาส และปัตตานี โดยต้องการกู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ขยาย ซ่อมแซม และซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย อัตราดอกเบี้ยคงที่ ปีที่ 1-3 เท่ากับ 2.90% ต่อปี, ปีที่ 4-5 เท่ากับ MRR-2.25% ต่อปี, ปีที่ 6 จนถึงตลอดอายุสัญญา ลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี, ลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.75% ต่อปี, ซื้ออุปกรณ์ฯ เท่ากับ MRR กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียงเดือนละ 4,200 บาท พิเศษ!! ฟรีค่าประเมินราคาหลักประกัน 1,900-3,100 บาท

4.โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อคนพิการ ปี 2568 : กรอบวงเงิน 500 ล้านบาท สำหรับผู้พิการที่มีความบกพร่องทางการได้ยินหรือสื่อความหมายทางการเห็น หรือทางการเคลื่อนไหว หรือทางร่างกาย ที่มีบัตรประจำตัวคนพิการ และต้องมีความสามารถในการทำนิติกรรมสัญญา ที่ต้องการกู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง รีไฟแนนซ์ ต่อเติม ขยาย ซ่อมแซม และชำระหนี้พร้อมรีไฟแนนซ์ วงเงินให้กู้สูงสุดไม่เกิน 3 ล้านบาท ต่อรายต่อหลักประกัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ ปีที่ 1-3 เท่ากับ 2.25% ต่อปี, ปีที่ 4-10 เท่ากับ MRR-2.00% ต่อปี, ปีที่ 11 จนถึงตลอดอายุสัญญา เท่ากับ MRR-1.50% ต่อปี กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียงเดือนละ 3,800 บาท พิเศษ!! ฟรีค่าประเมินราคาหลักประกัน 1,900-2,800 บาท และค่าธรรมเนียมการจดจำนอง 1% ของวงเงินจำนอง

5.โครงการบ้าน ธอส. เพื่อคุณ ปี 2568 : กรอบวงเงิน 60,000 ล้านบาท สำหรับลูกค้าทั่วไปที่มีรายได้ (Gross) ไม่เกิน 35,000 บาทต่อเดือน และไม่มีประวัติการผ่อนชำระสินเชื่อที่อยู่อาศัยกับ ธอส. ที่ต้องการกู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง รีไฟแนนซ์ ต่อเติม ขยาย ซ่อมแซม และชำระหนี้พร้อมรีไฟแนนซ์ วงเงินให้กู้สูงสุดไม่เกิน 3 ล้านบาท ต่อรายต่อหลักประกัน อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 เท่ากับ 3.50% ต่อปี, ปีที่ 2 เท่ากับ 4.25% ต่อปี, ปีที่ 3 เท่ากับ 4.55% ต่อปี, อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 4.10%, ปีที่ 4-5 เท่ากับ MRR-2.00% ต่อปี, ปีที่ 6 จนถึงตลอดอายุสัญญา ลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี, ลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.75% ต่อปี, ชำระหนี้ เท่ากับ MRR กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียงเดือนละ 4,700 บาท

6.โครงการสินเชื่อบ้าน S-em (Self employee) ปี 2568 : กรอบวงเงิน 5,000 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระหรือผู้ประกอบการรายย่อย อาทิ ค้าขาย ขับแท็กซี่ หรือรับจ้าง โดยไม่มีประวัติการผ่อนชำระสินเชื่อที่อยู่อาศัยกับ ธอส. ที่ต้องการกู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง รีไฟแนนซ์ และชำระหนี้พร้อมรีไฟแนนซ์ วงเงินให้กู้สูงสุดไม่เกิน 3 ล้านบาท ต่อรายต่อหลักประกัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ ปีที่ 1-5 เท่ากับ 3.75% ต่อปี, ปีที่ 6-10 เท่ากับ MRR-2.40% ต่อปี, ปีที่ 11-15 เท่ากับ MRR-2.00% ต่อปี และ ปีที่ 16 จนถึงตลอดอายุสัญญา เท่ากับ MRR-0.75% ต่อปี กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียงเดือนละ 4,400 บาท พิเศษ!! ฟรีค่าประเมินราคาหลักประกัน 1,900-2,800 บาท

“ธอส. คำนึงถึงการยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับคนไทยทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ ผู้พิการ หรือแม้แต่ผู้ที่ไม่มีรายได้ประจำ ให้สามารถเข้าถึงสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำได้มากขึ้น ทำให้ผู้ที่ยังขาดโอกาสได้มีบ้านเป็นของตนเอง โดยเฉพาะผู้พิการ ธอส. ได้มีการผ่อนปรนเงื่อนไขการพิจารณาสินเชื่อทำให้ผู้พิการมีโอกาสได้รับวงเงินสินเชื่อสูงขึ้น” นายกมลภพ กล่าว

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถยื่นขอสินเชื่อได้แล้ว ณ สาขาธนาคารทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ G H Bank Call Center โทร.0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th .-111-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก-เจ้าคุณประสิทธิ์ สึกแล้ว

พิษณุโลก 16 ก.ค. – พระชั้นผู้ใหญ่ที่พัวพันสีกากอล์ฟยังทยอยสึกเพิ่ม ล่าสุด “เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก” แอบสึกแล้วที่วัดสว่างอารมณ์ จ.ตาก หลังมีข่าวลือสะพัดมาตั้งแต่เช้า ขณะที่ “เจ้าคุณประสิทธิ์” ถอดใจสึกแล้ว พระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก เป็นพระชั้นผู้ใหญ่อีก 1 รูป ที่มีชื่อพัวพันกับสีกากอล์ฟ ซึ่งในช่วงเช้ามีข่าวลือว่าจะลาสิกาในวันนี้ ผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบตามวัดต่างๆ ในจังหวัดพิษณุโลก โดยเฉพาะที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร มีตำรวจนอกเครื่องแบบ และเจ้าหน้าที่ มาคอยเฝ้าดูแลตลอดเวลา กระทั่ง เวลา 12.00 น. เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ปรากฏตัวในชุดขาว คาดว่าไปลาสิกขาที่วัดสว่างอารมณ์ อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก สำหรับพระราชรัตนสุธี มีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์พุทธชินราช เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดพิษณุโลกที่ได้รับความเคารพอย่างสูงรูปหนึ่ง เพราะมีบทบาทสำคัญและมีคุณูปการขับเคลื่อนงานคณะสงฆ์ให้รุ่งเรือง นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกมายืนยันเช่นกันว่า ขณะนี้อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลกได้ทำการลาสิกขาแล้ว และวันนี้เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ก็มารายงานตัวกับเจ้าคณะใหญ่หนกลางด้วยเช่นเดียวกัน กรณีเอกสารสำนักพุทธจังหวัดสมุทรสาครหายออกไปจากวัด ซึ่งขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าเอกสารยังมีอยู่หรือไม่ และถ้าหากเอกสารหายไปจริงก็ถือว่าเป็นการผิดวินัย และเจ้าอาวาสบกพร่อง ต้องไปดูด้วยว่าสาเหตุที่หายเพราะอะไร เพราะเอกสารทางราชการมีการรับส่งเป็นระบบ […]

เปิดคำสารภาพ “สีกากอล์ฟ”

กทม. 16 ก.ค.-เปิดคำสารภาพ “สีกากอล์ฟ” ด้านอดีตพระมหาบุญเลิศ แฉถูกสีกากอล์ฟ กุเรื่องลวงไปบ้านพัก ซ้ำถูกเชิดเงิน 1 แสน เตรียมเข้าแจ้งความเอาผิดเพิ่ม พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีน.ส.วิลาวัลย์ หรือ สีกากอล์ฟ อายุ 35 ปี ว่า จากการสอบปากคำเมื่อวานที่ผ่านมา เจ้าตัวให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเป็นอย่างมาก พร้อมให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ซึ่งในวันพรุ่งนี้ทางพนักงานสอบสวน บก.ปปป. จะนำตัวส่งฝากขังยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อฝากขังเป็นผัดแรก ด้านพ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม (รอง ผบก.ป.) กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบปากคำ น.ส.วิลาวัลย์ ในส่วนของคดีข่มขืนใจและรีดเอาเงินทิดแหล่ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ ว่า เบื้องต้น สีกากอล์ฟ ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี รวมถึงให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ซึ่งจากการสอบปากคำเบื้องต้นเจ้าตัวยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยยอมรับในข้อเท็จจริงว่าเคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพระผู้ใหญ่รูปต่างๆ จริง ส่วนกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าข่มขู่รีดเอาเงิน และบังคับทิดแหล่ ให้ร่างหนังสือร้องเรียนเจ้าคุณอาชว์ อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีฯ เรื่องการมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาว เจ้าตัวอ้างว่าไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่าเป็นคนให้ทิดแหล่ร่างหนังสือดังกล่าวจริง เพียงแต่เป็นการไหว้วาน ไม่ได้เป็นการบังคับ […]

มทภ.2 เรียกร้องผู้นำเขมรขอโทษทหารไทยที่ถูกผลักอกล้ม

สุรินทร์ 16 ก.ค.-มทภ.2 สั่ง กกล.สุรนารี จัดระเบียบนักท่องเที่ยวปราสาทตาเมือนธม หารือ พล.ต.เนี๊ยะ ได้ข้อยุติ 3 ประการ เรียกร้องผู้นำกัมพูชาตำหนิหญิงเขมร และขอโทษทหารไทยที่ถูกผลักอกล้ม ลั่นไทยดำเนินคดีอดีตทหารพรานตามกฎหมายแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเกิดเหตุความวุ่นวาย ที่ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ จากกรณีที่ผู้หญิงชาวกัมพูชา เข้ามาด่าทอทหารไทย ในเขตพื้นที่ของไทยวานนี้(15 ก.ค.) ล่าสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้มีการจัดระเบียบนักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาเที่ยวปราสาทตาเหมือนธม เพื่อป้องกันเหตุการณ์ซ้ำรอย ป้องกันกลุ่มคนไม่หวังดี โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พ.อ.บุญเสริม บุญบำรุง รอง ผบ.กกล.สุรนารี ได้หารือร่วม พล.ต.เนี๊ยะ วงค์ ผบ.พลน้อย ร.42 เพื่อพบปะหารือ ณ ปราสาทตาเมือนธม โดยมีสรุปผลการพบปะดังนี้ 1.หากมีปัญหาจากนักท่องเที่ยวเกิดขึ้น หากเป็นนักท่องเที่ยวไทย ขอให้ฝ่ายกัมพูชาแจ้งกับฝ่ายไทยเพื่อนำนักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่ เช่นเดียวกันหากนักท่องเที่ยวกัมพูชา ก่อปัญหา ขอให้ฝ่ายไทยแจ้ง ฝ่าย กัมพูชาเพื่อให้ฝ่ายกัมพูชา นำตัวนักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่ 2.หากมีปัญหาในพื้นที่ การแก้ปัญหาให้ชุดประสานงานในพื้นที่ […]

“แพทองธาร” ยินดีมวยไทยบรรจุในกีฬาทหารโลก 2027

กระทรวงวัฒนธรรม 16 ก.ค.- “แพทองธาร” ยินดีความสำเร็จมวยไทยบรรจุในกีฬาทหารโลก 2027 อย่างเป็นทางการ ชี้ เป็นผลลัพธ์การทำงานอย่างมุ่งมั่นของคกก.ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ด้านกีฬา-กองทัพไทย-สมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) ผลักดันสู่เวทีกีฬาสากล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่ายกระดับมวยไทยสู่เวทีโลกอีกขั้น ดิฉันขอแสดงความยินดีอย่างยิ่ง กับความสำเร็จล่าสุดของประเทศไทย — #มวยไทย ได้รับการบรรจุเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาของการแข่งขัน CISM World Summer Games 2027 (กีฬาทหารโลก 2027) อย่างเป็นทางการแล้วค่ะ การแข่งขันกีฬาทหารโลก จัดโดย สภากีฬาทหารระหว่างประเทศ เป็นมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติ ปัจจุบันมีประเทศในสมาชิก 141 ถือเป็นเวทีสำคัญที่ทั่วโลกให้การยอมรับ ประเทศไทยเพิ่งเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน 1st CISM Military Muaythai Challenge เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ถือเป็นก้าวแรกของการเปิดเวทีระหว่างประเทศให้มวยไทยเข้าสู่การแข่งขันของกองทัพนานาชาติ การบรรจุมวยไทยในกีฬาทหารโลกครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จสำคัญของประเทศไทย และเป็นผลลัพธ์จากการทำงานอย่างมุ่งมั่นของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม Soft Power ด้านกีฬา ร่วมกับกองทัพไทย และสมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) ที่ผลักดันให้ “มวยไทย” […]