บขส.เผยเดินรถเส้นทางในประเทศ-ระหว่างประเทศล่าสุด ให้บริการกว่า 67 เส้นทาง

กรุงเทพ 22 ม.ค. – บขส.เปิดตารางเดินรถเส้นทางในประเทศ-ระหว่างประเทศล่าสุด ให้บริการกว่า 67 เส้นทาง 233 เที่ยววิ่งต่อวัน ขณะที่ยอดผู้โดยสารพุ่งขึ้นเฉลี่ยวันละ 90,000 -120,000 คน สอดคล้องกับนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวและสนับสนุนการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ


นายอรรถวิท รักจำรูญ กรรมการฯ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีประชาชนและนักท่องเที่ยวใช้บริการรถโดยสาร บขส. และ รถร่วมฯ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากข้อมูลการใช้บริการรถโดยสารในวันธรรมดา ทั้งเที่ยวไป – เที่ยวกลับ มีผู้โดยสารใช้บริการเฉลี่ย 80,000 – 90,000 คนต่อวัน ใช้รถโดยสาร (รถ บขส., รถร่วม, รถตู้) จำนวน 4,000 – 5,000 เที่ยววิ่งต่อวัน และ วันหยุด เสาร์ – อาทิตย์ ทั้งเที่ยวไป – เที่ยวกลับ มีผู้โดยสารใช้บริการเฉลี่ย 100,000 – 120,000 คนต่อวัน ใช้รถโดยสาร 5,500 – 6,000 เที่ยววิ่งต่อวัน

บขส.จึงมีการปรับตารางเดินรถให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนให้เข้าถึงบริการขนส่งสาธารณะได้สะดวก ปลอดภัย และส่งเสริมให้ประชาชนเลือกใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้น ตามนโยบายนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม โดยปัจจุบัน บขส. เปิดให้บริการเดินรถ เส้นทางภายในประเทศจำนวน 67 เส้นทาง รวม 233 เที่ยววิ่ง (ไป – กลับ) ต่อวัน ดังนี้


เส้นทางภาคเหนือ เปิดให้บริการ 21 เส้นทาง 70 เที่ยววิ่ง (ไป – กลับ) ต่อวัน ได้แก่ (1) สายที่ 3 กรุงเทพฯ – เชียงราย – เชียงแสน (2) สายที่ 6 กรุงเทพฯ – สุโขทัย – อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย (3) สายที่ 9 กรุงเทพฯ – คลองลาน (4) สายที่ 13 กรุงเทพฯ – บ้านท่าตอน (5) สายที่ 14 กรุงเทพฯ – หล่มสัก – หล่มเก่า (6) สายที่ 18 กรุงเทพฯ – เชียงใหม่ (7) สายที่ 47 กรุงเทพฯ – ทุ่งช้าง (8) สายที่ 92 กรุงเทพฯ – เขื่อนภูมิพล (9) สายที่ 94 กรุงเทพฯ – กำแพงเพชร (10) สายที่ 100 กรุงเทพฯ – อุตรดิตถ์ (11) สายที่ 910 กรุงเทพฯ – น่าน (12) สายที่ 912 กรุงเทพฯ – สากเหล็ก – พิษณุโลก (13) สายที่ 912 กรุงเทพฯ – อุตรดิตถ์ (14) สายที่ 924 กรุงเทพฯ – ลำพูน (15) สายที่ 925 กรุงเทพฯ – สวรรคโลก – สารจิตร (16) สายที่ 956 กรุงเทพฯ – แม่สอด (17) สายที่ 957 กรุงเทพฯ – แม่สาย (18) สายที่ 962 กรุงเทพฯ – ป่าแดด – เชียงของ (19) สายที่ 962 กรุงเทพฯ – เชียงคำ (20) สายที่ 964 กรุงเทพฯ – จอมทอง และ (21) สายที่ 965 กรุงเทพฯ – อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย

เส้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก เปิดให้บริการ 21 เส้นทาง 70 เที่ยววิ่ง (ไป – กลับ) ต่อวัน ได้แก่ (1) สายที่ 4 กรุงเทพฯ – ทุ่งศรีอุดม – บุณฑริก (2) สายที่ 5 กรุงเทพฯ – หนองบัวลำภู – นาวัง (3) สายที่ 23 กรุงเทพฯ – หนองคาย (4) สายที่ 26 กรุงเทพฯ – นครพนม (5) สายที่ 27 กรุงเทพฯ – หนองฮี – ปลาปาก (6) สายที่ 27 กรุงเทพฯ – สกลนคร – นาแก (7) สายที่ 29 กรุงเทพฯ – เชียงคาน (8) สายที่ 30 กรุงเทพฯ – สมเด็จ – ห้วยผึ้ง (9) สายที่ 31 กรุงเทพฯ – สุรินทร์ (10) สายที่ 32 กรุงเทพฯ – บุรีรัมย์ (11) สายที่ 33 กรุงเทพฯ – กระนวน – บ้านแพง (12) สายที่ 86 กรุงเทพฯ – กุดชุม – ธาตุพนม – บ้านกลาง (13) สายที่ 98 กรุงเทพฯ – อุบลราชธานี (14) สายที่ 926 กรุงเทพฯ – ศรีสะเกษ (15) สายที่ 927 กรุงเทพฯ – มุกดาหาร (16) สายที่ 929 กรุงเทพฯ – อำนาจเจริญ – โพธิ์ไทร (17) สายที่ 944 กรุงเทพฯ – รัตนบุรี (18) สายที่ 955 กรุงเทพฯ – โขงเจียม (19) สายที่ 904 กรุงเทพฯ – สระบุรี (20) สายที่ 9908 กรุงเทพฯ – ตราด (มอเตอร์เวย์) และ (21) สายที่ 917 กรุงเทพฯ (เอกมัย) – แหลมงอบ

เส้นทางภาคใต้ เปิดให้บริการ 14 เส้นทาง 49 เที่ยววิ่ง (ไป – กลับ) ต่อวัน ได้แก่ (1) สายที่ 89 กรุงเทพฯ (หมอชิต 2) – หลังสวน (2) สายที่ 99 กรุงเทพฯ (หมอชิต 2) – ตะกั่วป่า – โคกกลอย (3) สายที่ 949 กรุงเทพฯ (หมอชิต 2) – ภูเก็ต และ กรุงเทพฯ (ถนนบรมราชชนนี) หรือสายใต้ใหม่ – ภูเก็ต (4) สายที่ 950 กรุงเทพฯ (หมอชิต 2) – กระบี่ (5) สายที่ 973 กรุงเทพฯ (สายใต้ใหม่) – สงขลา (6) สายที่ 981 กรุงเทพฯ (หมอชิต 2) – นครศรีธรรมราช – หัวไทร (7) สายที่ 984 กรุงเทพฯ (หมอชิต 2) – ตรัง – สตูล และ กรุงเทพฯ (หมอชิต 2) – ตรัง (8) สายที่ 987 กรุงเทพฯ (สายใต้ใหม่) – ปัตตานี – ยะลา (9) สายที่ 988 กรุงเทพฯ (หมอชิต 2) – สตูล (10) สายที่ 991 กรุงเทพฯ (หมอชิต 2) – เกาะสมุย, กรุงเทพฯ (หมอชิต 2) – เกาะพะงัน และ กรุงเทพฯ (สายใต้ใหม่) – เกาะสมุย (11) สายที่ 992 กรุงเทพฯ (สายใต้ใหม่) – หาดใหญ่ – สงขลา (12) สายที่ 9912 กรุงเทพฯ (สายใต้ใหม่) – คลองท่อม – กระบี่ (13) สายที่ 9917 กรุงเทพฯ (หมอชิต 2) – ปัตตานี และ กรุงเทพฯ (สายใต้ใหม่) – สุไหงโกลก และ (14) สายที่ 9918 กรุงเทพฯ (หมอชิต 2) – ด่านเจดีย์สามองค์


นอกจากนี้ บขส. ได้ให้บริการเดินรถเส้นทางระหว่างประเทศ จำนวนทั้งหมด 11 เส้นทาง 44 เที่ยววิ่ง (ไป – กลับ) ต่อวัน แบ่งเป็น ไทย – สปป.ลาว จำนวน 9 เส้นทาง ได้แก่ สายที่ 1 หนองคาย – นครหลวงเวียงจันทน์, สายที่ 2 อุดรธานี – นครหลวงเวียงจันทน์, สายที่ 3 อุบลราชธานี – ปากเซ, สายที่ 4 มุกดาหาร – สะหวันนะเขต, สายที่ 6 กรุงเทพฯ – นครหลวงเวียงจันทน์, สายที่ 7 นครพนม – ท่าแขก, สายที่ 9 อุดรธานี – หนองคาย – วังเวียง, สายที่ 10 กรุงเทพฯ – ปากเซ และ สายที่ 14 เลย – หลวงพระบาง และ ไทย – กัมพูชา จำนวน 2 เส้นทาง ได้แก่ สายที่ 12 กรุงเทพฯ – เสียมราฐ และ สายที่ 13 กรุงเทพฯ – พนมเปญ

สอบถามข้อมูลการเดินทางและจองตั๋ว บขส. ล่วงหน้าได้ทุกช่องทาง อาทิ ทางออนไลน์ Facebook Page : บขส. (www.facebook.com/BorKorSor99), Line : บขส.99 (Id : @TCL99), เว็บไซต์ บขส. https://tcl99web.transport.co.th, Application E – ticket และ ช่องจำหน่ายตั๋วโดยสาร บขส. ทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทร. 0 – 2936 – 3660 ในวันและเวลาราชการ.-513-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

ตำรวจเสริมกำลังบ้านหนองหญ้าแก้ว

สระแก้ว 18 ก.ย. – ตำรวจเสริมกำลังที่บ้านหนองหญ้าแก้ว หลังวานนี้ชาวกัมพูชาพยายามเข้ามาทำลายทรัพย์สิน รื้อลวดหนามในพื้นที่อธิปไตยไทย จนเจ้าหน้าที่ต้องผลักดันออกไป ที่วัดหนองหญ้าแก้ว ยังเป็นจุดพักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเฝ้าติดตามสถานการณ์ว่าจะเกิดเหตุการณ์ชาวกัมพูชาพยามเข้ามารื้อลวดหนาม ซึ่งถือเป็นทรัพย์สินราชการในพื้นที่บริเวณอธิปไตยของไทยอีกหรือไม่ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็ต้องบังคับใช้กฎหมายมีการดำเนินการอย่างที่ปฏิบัติมาเมื่อวานนี้ตามหลักสากล เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม เพราะจากข้อมูลตามเพจ พบชาวกัมพูชาระดมมวลชนเพิ่ม ดังนั้น วันนี้นอกจากตำรวจในจังหวัดสระแก้วแล้ว ยังมีการเสริมกำลังตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียงเข้ามาอีก 2 กองร้อย 340 คน ได้แก่ ตำรวจจากปราจีนบุรีและฉะเชิงเทรา อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุเมื่อวานนี้ ทางกองทัพบกย้ำว่าจุดปะทะพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตไทย การที่ชาวกัมพูชาบุกรุกเข้ามาทำลายสิ่งของทางราชการ และก่อการจลาจลบนแผ่นดินไทย เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงต้องถูกดำเนินการตามกระบวนการ และยืนยันการดำเนินการของฝ่ายไทยเป็นไปตามขั้นตอนตั้งแต่การเจรจา แจ้งเตือน และควบคุมการจลาจลตามหลักสากล โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับฝ่ายปกครอง ที่สำคัญพบว่าทหารของกัมพูชาที่ร่วมในเหตุการณ์กลับไม่ห้ามปราม และมีท่าทีสนับสนุนการจลาจล ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุการณ์ฝ่ายกัมพูชายังออกแถลงการณ์บิดเบือนข้อมูลทั้งหมดนี้แสดงถึงเจตนาของฝ่ายกัมพูชาในการใช้ประชาชนออกหน้ารุกล้ำดินแดนไทยและความไม่จริงใจในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ชายแดนตามข้อตกลงหยุดยิงย้อนแย้งกับภาพลักษณ์ที่รัฐบาลกัมพูชาพยายามสร้างต่อสังคมโลกว่าเป็นผู้แสวงหาสันติภาพ. -สำนักข่าวไทย

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ร่วมถกสภาหอการค้าไทย

สภาหอการค้าไทย 18 ก.ย.-นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ร่วมถกสภาหอการค้าไทย ย้ำนำชื่อ ครม. ทูลเกล้าฯ แล้ว ลั่นลุยงานทันที หลังโปรดเกล้าฯ เผย “เอกนิติ” คัด รมช.คลัง มาเองกับมือ โวเร่งเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเข้มแข็ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ระหว่างคณะรัฐบาล และคณะกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยนายอนุทินกล่าวว่า มาวันนี้เพื่อพบกับทุกคน และมีว่าที่รัฐมนตรีที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ ซึ่งทุกคนในที่นี้ไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับตน เจอกันมานาน มีความสนิทสนมคุ้นเคย เคารพนับถือกันเป็นอย่างดี นายอนุทิน กล่าวว่า สิ่งที่มาวันนี้ เพื่อมาพบทุกท่านและนำว่าที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจมาแนะนำให้รู้จัก เชื่อว่าหลายคนก็รู้จักกันดีอยู่แล้ว วันนี้ตั้งใจมารับฟังรายละเอียด และรับฟังข้อเสนอแนะจากสภาหอการค้าไทย รัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้เป็นรัฐบาลที่จะเน้นในการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทย ให้มีความกระชับและเข้มแข็งขึ้นเร็วที่สุด ภายใต้ระยะเวลาที่มีอยู่ นายอนุทินยังแนะนำผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีของตนซึ่งได้ทูลเกล้าฯ ถวายรายชื่อไปแล้ว เมื่อมีการโปรดเกล้าฯ ก็จะเร่งแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา และสามารถบริหารราชการแผ่นดินได้ จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้แนะนำว่าที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจให้ผู้ร่วมประชุมได้รู้จัก โดยในขณะที่แนะนำว่าที่รัฐมนตรี นายอนุทิน ได้กล่าวถึงนายวรภัค ธันยาวงษ์ ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ว่า เป็นคนฝีมือดี ซึ่งนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส […]

พายุในทะเลจีนใต้ ส่อแรงขึ้นเป็นโซนร้อน ทำฝนเพิ่มระยะนี้

กรุงเทพฯ 18 ก.ย.-กรมอุตุฯ เตือนพายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน แม้จะไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่ส่งผลให้ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นพาดผ่านตอนกลางประเทศ ทำให้ไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น และบางพื้นที่อาจมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ย้ำจะมีฝนตกต่อเนื่องถึงต้นเดือนตุลาคม นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศเปิดเผยว่า พายุลูกดังกล่าวมีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 19.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 120.0 องศาตะวันออก บริเวณประเทศฟิลิปปินส์ เคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนแล้วในช่วงเช้าวันนี้ (18 ก.ย.) โดยมีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และกำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือค่อนตะวันตกเล็กน้อย ด้วยความเร็ว 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 19–20 กันยายน 2568 ทั้งนี้แม้พายุไม่ได้เข้าไทยโดยตรง แต่จากอิทธิพลทางอ้อมของพายุ จะดันให้ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบมีมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมต่อเนื่อง ส่งผลให้หลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ต้องเฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมากในช่วงวันที่ 18–25 กันยายนนี้ พื้นที่ที่มีแนวโน้มฝนตกสะสมในระดับเสี่ยง ได้แก่ จังหวัดอำนาจเจริญ อุบลราชธานี จันทบุรี และตราด ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน […]

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย