HSBC ชี้ทรัมป์ 2.0 หนุนตลาดหุ้นสหรัฐ มองปี 68 จีดีพี เอเชียโต 4.4%

กรุงเทพฯ 21 ม.ค. – HSBC มอง ทรัมป์ 2.0 หนุนตลาดหุ้นสหรัฐ แต่ขณะเดียวกันก็ยังเป็นโอกาสของอาเซียน มองจีดีพี เอเชีย ปี 68โต 4.4% จากการเติบโตที่แข็งแกร่งในอินเดียและอาเซียน รวมถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ต่อเนื่องของจีน แนะกระจายความเสี่ยงลุยหุ้นนอกกลุ่ม 7 นางฟ้า


มร.เจมส์ เชียว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการลงทุน ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดีย (Chief Investment Officer, Southeast Asia and India) ของเอชเอสบีซี โกลบอล ไพรเวท แบงค์กิ้ง กล่าวว่า หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ การเดินหน้าในการขับเคลื่อน American First เป็นปัจจัยหนุนต่อตลาดหุ้นสหรัฐอย่างมีนัยสำคัญ จึงคิดว่าตลาดหุ้นสหรัฐก็ยังสามารถไปต่อได้ดี แต่ Earning ที่จะเข้ามา มองว่าจะมาจากกลุ่มที่ไม่ใช่หุ้น 7 นางฟ้า จะมีการกระจายตัวไปยังภาคอุตสาหกรรม แฮลท์แคร์ จังไม่อยาก focus ที่หุ้น 7 นางฟ้าอีกต่อไปอยากให้มีการกระจายไปยังกลุ่มอื่นๆ ด้วย

อย่างไรก็ดี แม้นโยบายของรัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯ จะมีผลกระทบต่อความไม่แน่นอนของนโยบายในประเทศ การค้า และการคลัง แต่เราเชื่อว่าการปรับลดภาษีและการผ่อนคลายกฎระเบียบทางการค้าจะส่งผลบวกต่อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงในสหรัฐฯ ซึ่งสิ่งนี้ตอกย้ำมุมมองเชิงบวกในการเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ และหุ้นต่างประเทศทั่วโลก และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ


“เราคาดว่าความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์และความไม่แน่นอนทางการค้าจะเพิ่มความต้องการสินทรัพย์ที่เน้นลดความเสี่ยง (tail-risk hedges) และการกระจายพอร์ตการลงทุน เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในทองคำและกองทุนกองทุนเฮดจ์ฟันด์ ตลอดจนกระจายการลงทุนในตลาดสินทรัพย์ที่ซื้อขายกันนอกตลาดหรือ Private Market และจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสำคัญหลายแห่งทั่วโลก (ยกเว้นธนาคารกลางญี่ปุ่น) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในปีนี้ โดยเฉพาะเฟด ที่คาดว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% อีกสามครั้งในเดือนมีนาคม มิถุนายน และกันยายน ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงเป้าหมายที่ 3.50%-3.75% ภายในเดือนกันยายน พ.ศ.2568 แต่ทั้งนี้เชื่อว่าการลงทุนในหุ้นจะมีโอกาสให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าตราสารหนี้ ในขณะที่ตราสารหนี้มีแนวโน้มที่จะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าการถือเงินสด” มร.เจมส์ กล่าว

ส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นอื่น ๆ มองว่าตลาดหุ้นที่น่าสนใจ คือ ตลาดหุ้นอินเดีย ยังได้รับอานิสงส์จากการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ และการลงทุนเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีที่อินเดียมีความโดดเด่น นอกจากนี้ ยังมองว่าตลาดหุ้นญี่ปุ่นก็ยังมีโอกาสลงทุนได้จากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และหุ้นที่อิงกับเศรษฐกิจโลกยังมีการเติบโตได้ต่อเนื่อง รวมถึงตลาดหุ้นสิงคโปร์ที่ได้รับประโยชน์ในการลงทุนต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน เป็นต้น

การเติบโตที่แข็งแกร่งในอินเดียและอาเซียน รวมถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ต่อเนื่องของจีน จะเป็นปัจจัยหลักหนุนให้จีดีพี เอเชีย (ยกเว้นญี่ปุ่น) เติบโตได้ถึง 4.4% ส่วนเศรษฐกิจของกลุ่มอาเซียน-6 (ASEAN-6) จะมีการเติบโตของ GDP ที่แข็งแกร่งถึง 4.8% โดยได้รับแรงหนุนจากการบริโภคภายในประเทศและการลงทุน ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากการเติบโตของการส่งออกที่อ่อนแอท่ามกลางความไม่แน่นอนด้านการค้า อย่างไรก็ตามประเทศที่มีความเชื่อมโยงกับการส่งออกเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ AI ในอาเซียนจะได้รับประโยชน์จากการเติบโตของ global tech upcycle โดยเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียนยังคงได้รับประโยชน์จากการปรับโครงสร้างการค้าและห่วงโซ่อุปทานที่ขับเคลื่อนด้วยการจำกัดการค้าของสหรัฐฯ และมาตรการกีดกันทางการค้าต่อจีน


ส่วนประเทศไทย มองว่าเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในภูมิภาคที่คาดว่าจะเห็นการเติบโตของเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น โดยได้รับแรงสนับสนุนจากนโยบายการคลัง และการท่องเที่ยวที่เติบโตต่อเนื่อง โดยคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโต 3.3% นอกจากนี้ ภาคการส่งออกของไทยก็กำลังฟื้นตัว โดยผู้ส่งออกเร่งการส่งมอบสินค้าเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากภาษีนำเข้า ภาคการท่องเที่ยวก็มีแนวโน้มดีขึ้น ซึ่งช่วยกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มเติม จากมุมมองเชิงกลยุทธ์ของเอเชียในด้านความเสี่ยงและผลตอบแทน ทำให้เราลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นไทยเล็กน้อย เนื่องจากเราเห็นโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจกว่าในตลาดเอเชียอื่น ๆ สำหรับด้านอัตราแลกเปลี่ยน คาดว่า ดอลลาร์สหรัฐต่อบาทไทย (USD-THB) จะมีความผันผวนเนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า โดยคาดการณ์ว่าอัตราแลกเปลี่ยนระหว่าง USD-THB จะสิ้นสุดปีที่อัตรา 36.0

“เราคาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.25% ในปี พ.ศ. 2568 ซึ่งสะท้อนถึงความตั้งใจในการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจควบคู่กับการรักษาเสถียรภาพทางการเงิน อย่างไรก็ตาม นโยบายการคลังจะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโต เนื่องจากธนาคารกลางมีแนวโน้มที่จะไม่ผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง” มร.เจมส์ กล่าว

ส่วนแนวโน้มการลงทุนในเอเชียในไตรมาสที่ 1 ปีพ.ศ. 2568 แนะนำ 4 ธีมการลงทุนที่น่าสนใจ ประกอบด้วย 1.บริษัทในเอเชียที่เป็นผู้นำธุรกิจของประเทศ โดยพบโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจในจีน ฮ่องกง และญี่ปุ่น ความสามารถในการแข่งขันที่แข็งแกร่งในฐานะผู้นำและการเติบโตของรายได้ที่เหนือกว่าค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรม 2.ผลตอบแทนผู้ถือหุ้นของบริษัทในเอเชียที่เพิ่มสูงขึ้น คาดการณ์ว่า ผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นในเอเชีย (ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น) จะเพิ่มขึ้นถึง 12% ในปี พ.ศ. 2568 3.การเติบโตของอินเดียและอาเซียน (ASEAN) และ 4.ตราสารหนี้เอเชียที่มีคุณภาพสูง. -517-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ป.ป.ช.ตั้งองค์คณะไต่สวนจริยธรรมร้ายแรง “แพทองธาร” คลิปคุย “ฮุนเซน”

กทม. 14 ก.ค. – ป.ป.ช. มติเอกฉันท์ตั้งองค์คณะไต่สวนจริยธรรมร้ายแรงต่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปมคลิปเสียงคุยกับ “ฮุน เซน” ที่สำนักงาน ป.ป.ช. วันนี้มีรายงานว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ได้ประชุม และมีมติเป็นเอกฉันท์ให้แต่งตั้งองค์คณะไต่สวน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีปรากฏคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งบริเวณแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา โดยนายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธานกรรมการ ป.ป.ช. และนายประภาศ คงเอียด กรรมการ ป.ป.ช. ร่วมเป็นองค์คณะไต่สวน การตั้งองค์คณะไต่สวนครั้งนี้ เป็นไปตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา51 ซึ่งเปิดช่องให้ ป.ป.ช. ตั้งกรรมการไม่น้อยกว่า 2 คนไต่สวนได้ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับสูงมีผลกระทบต่อสาธารณะอย่างกว้างขวางหรือเกี่ยวพันกับองค์กรตุลาการ ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช. มีมติรับเรื่องไว้พิจารณาเบื้องต้น และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 10 วัน โดยให้มีการถอดเทปคำสนทนาและจัดทำคำแปลจากภาษาต่างประเทศอย่างถูกต้อง ครอบคลุมการสอบพยาน และการศึกษา คดีเปรียบเทียบ เช่น […]

เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ลาสิกขา ปมโอน 13 ล้าน

พระนครศรีอยุธยา 14 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ สมัครใจลาสิกขา หลังโอนเงินกว่า 13 ล้าน ให้ “สีกากอล์ฟ” ยืนยันไม่มีสัมพันธ์เชิงชู้สาว แต่ยอมรับว่า “อ่อนต่อโลก” พระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำพิธีลาสิกขาด้วยความสมัครใจในวันนี้ ภายหลังจากเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ลงพื้นที่ตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัด พร้อมสอบปากคำพระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสฯ นานเกือบ 3 ชั่วโมง พันตำรวจโท สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ท. เปิดเผยว่า อดีตเจ้าอาวาสฯ เต็มใจลาสิกขา เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย เพราะจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของสีกากอล์ฟ พบว่า เส้นเงินถูกโอนจากบัญชีส่วนตัวของอดีตเจ้าอาวาสฯ ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า เป็นเงินที่ได้มาจากการรับกิจนิมนต์และสอนหนังสือ โดยโอนไปให้สีกากอล์ฟ รวม 12.8 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีเงินจากบัญชีวัดอีก 3.8 แสนบาท ซึ่งมีทั้งโอนผ่านโทรศัพพ์และให้เป็นเงินสด เริ่มโอนตั้งแต่เดือนมกราคมไปจนถึงเดือนกรกฎาคม 2567 ซึ่งในเดือนเดียวกันพบว่าโอนให้สีกากอล์ฟ […]

แก๊งจีนดำลวงเพื่อนร่วมชาติเรียกค่าไถ่ สังหารโหด

เชียงราย 14 ก.ค. – ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีแก๊งจีนดำฆ่าจีนเทา หลอกเพื่อนร่วมชาติมาเรียกค่าไถ่ที่เชียงใหม่ สังหารโหด และนำศพทิ้งกลางป่า ตำรวจพบศพนายหยาง อายุ 24 ปี สัญชาติจีน ถูกห่อด้วยถุงดำ และผ้าปูที่นอน แล้วใช้ผ้ายางพลาสติกห่อทับอีกชั้น ถูกนำมาทิ้งไว้ที่ป่าละเมาะข้างทางริมถนน ใกล้กับหมู่บ้านป่าเหว ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยก่อนหน้านี้ ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากพี่สาวของนายหยางให้ช่วยติดตามตัวน้องชาย หลังข้ามชายแดนมาจากเขตเศรษฐกิจพิเศษคิงส์โรมัน ในฝั่งลาว ผ่าน ตม.สบรวก อำเภอเชียงแสน ที่ จ.เชียงราย มาพร้อมกับนายฮูกัง เพื่อนชาวจีนอีกคนหนึ่ง โดยจ้างแท็กซี่เดินทางมายังเชียงใหม่ เมื่อ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมาและหายตัวไป ก่อนถูกเรียกค่าไถ่ 3 ล้านบาท เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พลตำรวจโทกฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า พบตัวนายฮูกัง เพื่อนชาวจีนที่เดินทางมากับนายหยาง และอ้างว่า ถูกนายซาง เบนซิน และนายหวังซวง นัดหมายให้พานายหยาง […]

“รมต.สุชาติ” เข้าพบสมเด็จฯ วัดไตรมิตร รับแนวทางแก้ปัญหาวงการสงฆ์

วัดไตรมิตร 14 ก.ค.- “รมต.สุชาติ” เข้าพบสมเด็จฯ วัดไตรมิตร รับแนวทางแก้ปัญหาวงการสงฆ์ ชี้ต้องร่วมมือกัน ทั้งตำรวจ-มส.-พศ. ย้ำต้องเร่งแก้ให้เร็วที่สุด ก่อนประชาชนหมดศรัทธา สั่งสำนักพุทธฯ ดูกฎหมายอาญา 206 เอาผิดสีกา ก. ได้หรือไม่ ย้อนถาม พศ. ทำไมไม่รู้ จี้ให้ทำงานเชิงรุก บอกหลัง 1 ต.ค.นี้ ทุกวัดต้องส่งรายงานการเงินทุกเดือนและทุกปี ตามกฎกระทรวงใหม่ นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมายังวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เมื่อมาถึงได้เข้ากราบสักการะสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (สมเด็จธงชัย) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง กรรมการมหาเถรสมาคม และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ก่อนเข้ากราบนมัสการสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เพื่อรับแนวทางปฏิบัติ ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ภายหลังการเข้าพบสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) นานกว่า 30 นาที นายสุชาติ กล่าวว่า เรื่องสงฆ์ที่เกิดปัญหาอยู่ในขณะนี้ เป็นเรื่องที่มหาเถรสมาคม มีการประชุมตั้งแต่เมื่อวาน ซึ่งเป็นการประชุมเร่งด่วนฉุกเฉิน […]