R&I คงอันดับความน่าเชื่อถือของไทย A-

กรุงเทพฯ 21 ม.ค. – R&I คงอันดับความน่าเชื่อถือของไทย A- คาดจีดีพีไทย ฟื้นต่อเนื่อง ผลขาดดุลการคลังลดลงในปี 69 ห่วงภาระดูแลสังคมสูงวัย


นายพชร อนันตศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เปิดเผยว่า บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Rating and Investment Information, Inc. (R&I) ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) ที่ A- และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Outlook) ที่ระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook) มีรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการบริหารหนี้สาธารณะ ดังนี้

R&I คาดว่า เศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงฟื้นตัวและอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แท้จริง (Real GDP Growth) เติบโตอยู่ร้อยละ 2.6 ในปี 2567 และขยายตัวต่อเนื่องในปี 2568 อันเป็นผลจากการใช้จ่ายของภาครัฐที่สนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ การขยายตัวของการบริโภคภาคเอกชน และการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งภาคการส่งออกสินค้าที่มีแนวโน้มขยายตัวตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก


แม้ว่าการขาดดุลทางการคลังจะยังคงอยู่ในระดับค่อนข้างสูงที่ร้อยละ 4.3 ในปี 2567 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 4.5 ในปี 2568 แต่เริ่มทยอยลดลงตั้งแต่ปี 2569 จนอยู่ที่ร้อยละ 3 ในปี 2572 เนื่องจากนโยบายการคลังแบบขยายตัวเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้ระดับหนี้สาธารณะต่อ GDP (Public Debt to GDP) อยู่ที่ร้อยละ 63 ในปี 2567 โดย R&I เชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถบริหารจัดการหนี้สาธารณะเพื่อรักษาระดับหนี้สาธารณะไม่ให้เกินกรอบกฎหมายที่กำหนด อีกทั้งหนี้สาธารณะส่วนใหญ่เป็นการออกพันธบัตรรัฐบาลในประเทศ ซึ่งตลาดการเงินยังคงมีสภาพคล่องสูงเพียงพอที่จะสามารถรองรับการขาดดุลงบประมาณที่เพิ่มสูงขึ้น จึงไม่มีความเสี่ยงในการจัดหาแหล่งเงินทุนของภาครัฐ

R&I มองว่ารัฐบาลไทยจำเป็นต้องมีการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศด้วยการสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ พร้อมกับการยกระดับมูลค่าเพิ่มของอุตสาหกรรมเพื่อที่จะดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ (Foreign Investments) ผ่านการลงทุนในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) รวมถึงมาตรการสนับสนุนการลงทุนที่หลากหลายเพื่อสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพ โดยคาดว่าการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตในด้านอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และยานยนต์ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจไทยที่สำคัญ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ต่อไป

ภาคการเงินต่างประเทศ (External Finance) มีความแข็งแกร่งและทุนสำรองระหว่างประเทศยังคงอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง จากการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดที่ร้อยละ 2.5 ต่อ GDP ในปี 2567 และคาดว่าในปี 2568 ดุลบัญชีเดินสะพัดจะยังคงเกินดุลอยู่ในระดับเดียวกันที่ร้อยละ 2.5 จากการมีเสถียรภาพของราคาพลังงาน และการเติบโตของรายได้จากภาคการท่องเที่ยวและการส่งออกสินค้า (Goods Exports) เป็นสำคัญ


ปัจจัยสำคัญที่ R&I จะติดตามสำหรับพิจารณาการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) ของประเทศไทย คือ การเพิ่มขึ้นของประชากรผู้สูงวัยที่อาจจะส่งผลต่อภาระค่าใช้จ่ายของเงินงบประมาณ และมาตรการสนับสนุนการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมใหม่และการยกระดับมูลค่าเพิ่มของอุตสาหกรรมเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการรักษาเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ.-515 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

เริ่มใช้เครื่องจักรหนักเปิดซากอาคาร สตง.ถล่ม

102 ชั่วโมงแล้ว สำหรับปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุอาคาร สตง.ถล่ม หน่วยกู้ภัยจากนานาชาติให้ความหวังว่ายังมีโอกาสเจอผู้รอดชีวิต ทำให้การค้นหาวันนี้ต้องแข่งกับเวลาอย่างเต็มที่

ทองไทยนิวไฮต่อเนื่อง ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 550 บาท

ทองคำไทยผันผวนหนัก ปรับเปลี่ยน 18 ครั้ง ก่อนปิดตลาดปรับเพิ่ม 550 บาท ระหว่างวันขึ้นไปแตะนิวไฮ ทองคำแท่งขายออก 50,700 บาท ทองรูปพรรณขายออก 51,500 บาท ขึ้นไปต่อเนื่อง