“กรุงศรี” เผยกำไรสุทธิปี 67 ที่ 2.97 หมื่นล้านบาท

กรุงเทพฯ 21 ม.ค. – แบงก์กรุงศรี รายงานผลประกอบการปี 2567 มีกำไรสุทธิ 2.97 หมื่นล้านบาท ลดลง 9.8% จากปีก่อนหน้า โดยมีปัจจัยหลักมาจากการตั้งสำรองตามนโยบายบริหารจัดการความเสี่ยงที่เข้มงวดระมัดระวัง ภายใต้บริบทสภาวะแวดล้อมทางธุรกิจที่มีความท้าทาย พร้อมหนุนลูกค้าฟื้นตัวอย่างยั่งยืน ประเมินจีดีพีปี 2568 โต 2.9%


ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ ยังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนพันธกิจสำคัญด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่มีแรงส่งที่จำกัดและไม่ทั่วถึง กอปรกับปัญหาด้านเสถียรภาพโครงสร้างเศรษฐกิจและหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ทำให้ศักยภาพการเติบโตของสินเชื่อและรายได้ในภาพรวมถูกลดทอนลง โดยภารกิจหลักของธนาคารยังคงเป็นการให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการ SME และกลุ่มลูกค้ารายย่อย ผ่านทั้งมาตรการช่วยเหลือฉุกเฉินระยะสั้น และการส่งมอบนวัตกรรมสินเชื่อเพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน (Krungsri SME Transition Loan) เพื่อให้ลูกค้าสามารถฟื้นตัวในด้านธุรกิจและสถานะทางการเงิน ตลอดจนการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมภายใต้บริบทที่ยั่งยืน

สรุปผลประกอบการและฐานะการเงินที่สำคัญสำหรับปี 2567


  • กำไรสุทธิในปี 2567 จำนวน 29,700 ล้านบาท ลดลง 9.8% หรือ 3,229 ล้านบาท จากปี 2566 โดยมีปัจจัยหลักมาจากการตั้งสำรองตามนโยบายบริหารจัดการความเสี่ยงที่เข้มงวดระมัดระวังของกรุงศรี
  • เงินให้สินเชื่อรวม ลดลง 6.0% หรือจำนวน 121,335 ล้านบาท จากสิ้นเดือนธันวาคม 2566 สะท้อนการปรับลดลงของความเชื่อมั่นทางธุรกิจและความเชื่อมั่นผู้บริโภค กอปรกับการดำเนินการตามแนวทางการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรมของกรุงศรี
  • เงินรับฝาก ลดลง 0.9% หรือจำนวน 17,372 ล้านบาท จากสิ้นเดือนธันวาคม 2566 ตามนโยบายการบริหารสภาพคล่องอย่างเหมาะสมรัดกุม
  • แม้ว่าอุปสงค์ต่อเงินให้สินเชื่อจะอ่อนตัวลง อย่างไรก็ดี ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ยังคงเพิ่มขึ้นมาที่ 4.28% จาก 3.91% ในปี 2566 โดยมีปัจจัยหลักมาจากอัตราผลตอบแทนของสินทรัพย์ที่ปรับตัวดีขึ้น สะท้อนรายได้ดอกเบี้ยจากธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคในต่างประเทศที่ควบรวมในปี 2566 ที่เป็นการรับรู้รายได้ทั้งปี
  • รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย เพิ่มขึ้น 14.7% หรือ 5,827 ล้านบาท จากปี 2566 โดยมีปัจจัยหลักมาจากรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิทั้งส่วนที่มาจากบริษัทลูกในต่างประเทศและธุรกิจในประเทศ กำไรสุทธิจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน และหนี้สูญรับคืน
  • อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยที่ 44.4% เทียบกับ 44.5% ในปี 2566
  • อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL Ratio) อยู่ที่ 3.23% เทียบกับ 2.53% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2566 ขณะที่สัดส่วนการตั้งสำรองต่อสินเชื่อรวมอยู่ที่ 245 เบสิสพอยท์ และอัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ที่ 123.2%
  • อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (ของธนาคาร) อยู่ที่ 19.38% เทียบกับ 18.24% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2566

นายเคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าท่ามกลางอุปสงค์ต่อสินเชื่อที่ยังคงเปราะบาง กรุงศรีในฐานะผู้ให้บริการทางการเงินที่มีความรับผิดชอบ ยังคงให้การสนับสนุนด้านบริการที่ปรึกษา รวมถึงการเปิดตัวนวัตกรรมทางการเงินด้านความยั่งยืน อาทิ เงินฝากเพื่อความยั่งยืนและสินเชื่อเพื่อสังคม ตลอดจนสนับสนุนการจัดจำหน่ายพันธบัตรเพื่อความยั่งยืน เพื่อยกระดับความแข็งแกร่งและความน่าเชื่อถือของยุทธศาสตร์การลดก๊าซเรือนกระจกของลูกค้า โดยเฉพาะภายใต้บริบทธุรกิจบริการที่ปรึกษา ธนาคารเป็นผู้นำในตลาดพันธบัตรด้านความยั่งยืนในปี 2567 ด้วยส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 18.9%

พร้อมคาดการณ์ในปี 2568 เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวที่ 2.9% เมื่อเทียบกับ 2.7% ในปี 2567 โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว การใช้จ่ายภาครัฐที่กลับมาขยายตัวตามปกติโดยเฉพาะอย่างยิ่งในครึ่งแรกของปี 2568 ขณะที่การลงทุนจะเติบโตได้ในระดับที่จำกัด อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงที่อาจส่งผลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจได้แก่ผลกระทบจากมาตรการกีดกันการค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากนโยบายด้านการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกาที่กำลังปรับทิศทาง รวมถึงความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ กอปรกับยังคงมีความท้าทายของปัญหาเศรษฐกิจเชิงโครงสร้างและปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง

ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 กรุงศรี ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับห้าในระบบเศรษฐกิจไทยจากมูลค่าสินทรัพย์ สินเชื่อและเงินรับฝาก และเป็นหนึ่งในสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบ (D-SIB) มีสินเชื่อรวม 1.90 ล้านล้านบาท เงินรับฝาก 1.82 ล้านล้านบาท และสินทรัพย์รวม 2.62 ล้านล้านบาท ขณะที่เงินกองทุนของธนาคารอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 317.63 พันล้านบาท หรือเทียบเท่า 19.38% ของสินทรัพย์เสี่ยง โดยเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของคิดเป็น 15.11%. -516-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย ขณะที่ ผบ.ตร. อาลัยตำรวจกล้า สั่งต้นสังกัดดูแลสิทธิประโยชน์ เลื่อนเงินเดือนและชั้นยศ

นักโทษกลับใจ

อดีตนักโทษกลับใจ หลังติดคุก 30 ปี โทรคุยกับพ่อทั้งน้ำตา

อดีตนักโทษชีวิตโตมาในคุก ตั้งแต่อายุ 19 จนตอนนี้ อายุ 49 ปี ร่ำไห้กับตำรวจ ขอให้ช่วยพากลับบ้านที่จากมา 30 ปี ตำรวจโทรศัพท์หาพ่อ ให้ 2 พ่อลูกคุยกันทั้งน้ำตา

ตำรวจจีนพาผู้ต้องสงสัยฉ้อโกง 200 ราย กลับจากเมียนมา

พลเมืองจีน 200 รายที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ถูกส่งตัวจากเมืองเมียวดีในเมียนมากลับจีนแล้วเมื่อวานนี้ ภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน

เด็ก 12 สูบบุหรี่ไฟฟ้า-ดื่มน้ำกระท่อม ทำปอดหาย

ย่าช็อก หลานวัย 12 ปี อาการวิกฤติ ปอดหายเกือบทั้งหมด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หลังสูบบุหรี่ไฟฟ้าและดื่มน้ำกระท่อมตั้งแต่ ป.4

ข่าวแนะนำ

สว.ยื่นถอดถอนรัฐมนตรี

สว. จ่อยื่นถอดถอน​ “รมต.” กล่าวหาอั้งยี่-ซ่องโจร

สว. ประกาศสงคราม​ เตรียมยื่นถอดถอน​ “รัฐมนตรี” กล่าวหาอั้งยี่-ซ่องโจร พ่วง​ยื่นอภิปราย-แจ้งความ​-เชิญสอบใน​กมธ.​

ส่งกลับเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนอีก 300 คน

วันที่สองของปฏิบัติการขนเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนจากเมียวดี ข้ามชายแดนไทย ส่งกลับประเทศอีก 300 คน รวม 2 วัน ส่งกลับแล้ว 500 คน เหลือพรุ่งนี้อีก 1 วัน

บุกทลายบ่อนทุนจีนเทากลางเมืองภูเก็ต

ตำรวจภูเก็ตบุกทลายบ่อน ‘กลุ่มจีนเทา’ กลางเมืองภูเก็ต รวบนักพนันชาวจีน 13 ราย พร้อมของกลางกว่า 30 รายการ พบเงินหมุนสัปดาห์เดียวกว่า 5 ล้านบาท