กรุงไทยขานรับมาตรการ Easy E-Receipt 2.0

กรุงเทพฯ 14 ม.ค. – ธ.กรุงไทย ขานรับมาตรการ Easy E-Receipt 2.0 กระตุ้นเศรษฐกิจปี 68 ชูบริการ Krungthai e-Tax Invoice / e-Receipt เสนอ ฟรีค่าธรรมเนียมแรกเข้า อำนวยความสะดวกให้ร้านค้าออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์


ธนาคารกรุงไทย เดินหน้าขานรับมาตรการ Easy E-Receipt 2.0 ของภาครัฐ กระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชน หนุนเศรษฐกิจโตช่วงต้นปี ด้วยบริการ Krungthai e-Tax Invoice / e-Receipt ผ่านแพลตฟอร์ม Krungthai BUSINESS ที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย สะดวก ปลอดภัย และสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ SME ร้านค้า ห้างร้าน และธุรกิจทุกขนาด สามารถออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว พร้อมเพิ่มยอดขายและขยายโอกาสทางธุรกิจ โดยสมัครได้ตั้งแต่วันนี้ พร้อมรับโปรโมชันพิเศษ ฟรี ค่าธรรมเนียมแรกเข้า และค่าธรรมเนียมต่อรายการในอัตราพิเศษ ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2568

นายธวัชชัย ชีวานนท์ ประธานผู้บริหาร Product & Business Solutions ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่าธนาคารกรุงไทยขานรับมาตรการ Easy E-Receipt 2.0 ของภาครัฐ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการใช้จ่ายของประชาชน ปี 2568 ซึ่งเปิดให้นำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าหรือบริการ ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2568 มาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 50,000 บาท ได้ยกระดับการให้บริการเพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการทุกระดับ ตั้งแต่ร้านค้า วิสาหกิจชุมชน ร้านค้า OTOP ผู้ประกอบการ SME ตลอดจนธุรกิจขนาดใหญ่ สามารถออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์แบบเต็มรูปแบบตามข้อกำหนดของกรมสรรพากรได้สะดวกยิ่งขึ้น ผ่านบริการ Krungthai e-Tax Invoice / e-Receipt ที่เชื่อมต่อการทำงานอย่างครบวงจรบนแพลตฟอร์ม Krungthai BUSINESS เพื่อช่วยลดต้นทุนและอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การสมัครใช้บริการและขั้นตอนการออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของธนาคารในการสนับสนุนธุรกิจทุกขนาดให้เติบโตได้อย่างมั่นคง พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับประเทศและระดับท้องถิ่น


ธนาคารกรุงไทย เป็นธนาคารพาณิชย์รายแรกที่ได้รับการรับรองเป็นผู้ให้บริการจัดทำและนำส่งข้อมูลใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ระดับสูง (e-Tax Service Provider Advanced) จากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) และกรมสรรพากร ซึ่งทำให้สามารถลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Digital Signature) ในนามของธนาคารแทนผู้ประกอบการได้ทันที โดยบริการ Krungthai e-Tax Invoice / e-Receipt ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถจัดทำเอกสารและนำส่งข้อมูลใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ได้สะดวก ปลอดภัย และลดต้นทุน ผ่านแพลตฟอร์ม Krungthai BUSINESS โดยมีคุณสมบัติเด่น ดังนี้
-รองรับช่องทางการออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หลากหลายรูปแบบตามความเหมาะสมของลักษณะการทำธุรกรรมของผู้ประกอบการ ทั้งการทำรายการผ่านหน้าจอ Portal และการส่งข้อมูลผ่าน API เพื่อความยืดหยุ่นในการใช้งาน
-สมัครใช้งานง่าย และรวดเร็ว ไม่ให้พลาดโอกาสทางธุรกิจ หรือการเข้าร่วมโครงการและมาตรการต่างๆ ด้วยทีมที่ปรึกษาที่พร้อมดูแลในทุกขั้นตอน
-มั่นใจด้วยมาตรการความปลอดภัยระดับสากล หมดกังวลเรื่องการปลอมแปลงแก้ไขเอกสาร พร้อมตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน e-Tax Portal
-ลดต้นทุนค่าใช้จ่ายและเวลาในการจัดทำเอกสาร การออกใบกำกับภาษี รวมถึง ลดขั้นตอนในการนำส่งเอกสารในรูปแบบกระดาษไปยังคู่ค้า

ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาบริการดังกล่าว ธนาคารมั่นใจว่าบริการ Krungthai e-Tax Invoice / e-Receipt จะตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจทุกขนาด ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการ SME ร้านค้าขนาดเล็ก วิสาหกิจชุมชน ไปจนถึงธุรกิจขนาดใหญ่ สำหรับธุรกิจที่ไม่มีระบบเชื่อมต่อก็สามารถใช้งานผ่านหน้าจอบนแพลตฟอร์ม Krungthai BUSINESS ได้ทันที ขณะที่ธุรกิจขนาดใหญ่ที่ต้องการเชื่อมต่อด้วย API ก็สามารถดำเนินการผ่านระบบจัดการข้อมูลภายในของบริษัทได้เช่นกัน

สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจสมัครใช้บริการ Krungthai e-Tax Invoice / e-Receipt ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 28 กุมภาพันธ์ 2568 ฟรี ค่าธรรมเนียมแรกเข้า และค่าธรรมเนียมต่อรายการในอัตราพิเศษ พร้อมรับตราสัญลักษณ์ E-TAX INVOICE & RECEIPT ตามที่กรมสรรพากรกำหนด และรับสติ๊กเกอร์โครงการ EASY E-Receipt เพื่อนำไปติดที่หน้าร้านหรือจุดรับชำระเงินต่างๆ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา หรือ Krungthai Corporate Contact Center 02-111-9999 ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://krungthai.com/link/krungthai-e-tax-pr .- 515- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 : 230

รัฐสภา 15 ส.ค.- ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 ต่อ 230 ด้าน ‘พิชัย’ ขอบคุณสภาฯ ยันจะใช้งบให้ตรงตามวัตถุประสงค์โปร่งใส-เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีการตั้งวงเงินงบประมาณ จำนวน 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งที่ประชุมสภาฯ ใช้เวลาอภิปรายตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม และลงมติเมื่อเวลา 22.50 น. ผลปรากฏว่า จากจำนวนสมาชิก 487 เสียง เห็นด้วย 257 เสียง ไม่เห็นด้วย 230 เสียง งดออกเสียง 1 […]

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย

ไล่ล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง แกะรอยหาเบาะแส ไล่ล่าโจรชิงทองห้างย่านบางบ่อ ยืนยันจำนวนทอง 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้าน ขณะที่พนักงานยังผวาทุกครั้งที่เห็นคนใส่ชุดไรเดอร์เดินเข้าห้าง จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ สวมกางกางยีนขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว เดินเท้าบุกเดี่ยวมาที่ร้านทอง แล้วชักอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก สีบอร์นซ์ ขู่บังคับให้พนักงานขายทองซึ่งเป็นหญิง 3 คน หยิบทองรูปพรรณส่งให้คนร้าย แต่พนักงานขายทองไม่หยิบส่งให้ และหมอบลงกับพื้น คนร้ายจึงกระโดดข้ามตู้ทองด้านหน้าร้าน ไปเลื่อนกระจกตู้ทองด้านหลัง หยิบเอาทองคำรูปพรรณ มีสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท 24 เส้น รวม 48 บาท […]

ย้าย “ลุงพล” มาคุมขังต่อที่เรือนจำกลางนครพนม

15 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ย้ายตัว “ลุงพล” จำเลยคดีน้องชมพู่ ไปควบคุมต่อที่เรือนจำกลางนครพนม ด้าน “ป้าแต๋น” ตามมาเยี่ยมให้กำลังใจสามี บอกเอาหัวใจมาฝาก ยืนยันลุงพลสู้ต่อถึงฎีกา หลังเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” จำเลยที่ 1 จาก 20 ปี เป็น 26 ปี และยกฟ้อง นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” ในคดีฆ่า เด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หลังหายตัวจากบ้านพัก ขณะนั่งเล่นกับพี่สาวที่บ้าน กกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค.2563 ต่อมาจำเลย ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว และวานนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัว […]