กรุงเทพฯ 13 ม.ค. – ครม.ไฟเขียว เอ็นเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ คลังแจงสร้างงาน สร้างรายได้เข้าประเทศ เตรียมส่งกฤษฎีกา ประทับตรา คลังยอมรับ หลายฝ่ายห่วงคนไทยเล่นพนัน คาดเงินลงทุนไม่ต่ำกว่าแสนล้านบาท
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. … ตามที่กระทรวงการคลัง เสนอ รัฐบาลหวังผลักดันโครงการ “เอ็นเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ให้เกิดขึ้นโดยรวม ยืนยันเป็นโครงการขนาดใหญ่ มีหลายองค์ประกอบทั้งด้านการท่องเที่ยว กีฬา ส่วนด้านกาสิโนเพียงร้อยละ 10 โดยกำหนดค่าธรรมเนียมขั้นต่ำในการเข้ากาสิโน 5,000 บาท เมื่อรวมกับองค์ประกอบหลายด้าน หวังใช้เป็นอีกเครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจเหมือนกับต่างประเทศ
นายพิชัย กล่าวเพิ่มเติม กรณีการท้วงติงจากคณะกรรมการกฤษฎีกานั้น จากการสอบถามหลายหน่วยงาน ล้วนเห็นด้วยในหลักการ ร้อยละ 90 ยอมรับว่า ทุกหน่วยงานหรือส่วนต่าง ๆ มีข้อสังเกต เป็นห่วงเรื่องกาสิโน จึงต้องควบคุมดูแล คนไทย และเด็กอายุไม่ถึง 20 ปี เข้าไปเล่นการพนัน คลังจึงต้องหาแนวทางกำกับดูแลอย่างเข้มงวด อีกด้านหนึ่งหวังสร้างรายได้จากต่างประเทศ คลังได้ศึกษาผลดี ผลเสีย และความจำเป็น หวังแข่งขันกับหลายประเทศ เพราะต้องการมุ่งเน้นสร้างรายได้จากสถานบันเทิง ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ก่อให้เกิดการจ้างงาน ไปยังพื้นที่ใกล้เคียง
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เตรียมส่งร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาปรับถ้อยคำให้สอดคล้องกับข้อกฎหมาย และคำแถลงนโยบายของรัฐสภา คาดว่าเสนอสภาฯ ภายใน 2-3 เดือน และเสนอวุฒิสภาในขั้นต่อไป ย้ำว่าสถานบันเทิงครบวงจร คือ เขตพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวของครอบครัวระดับโลก เพื่อนำเสนอประสบการณ์หลากหลายรูปแบบ มุ่งดึงดูดการท่องเที่ยวและกลุ่มกำลังซื้อสูง
โครงการ “เอ็นเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เป็นนโยบายที่ 7 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ เพิ่มแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น (Man-made Destinations) เช่น สวนน้ำ สวนสนุก ศูนย์การค้า สถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) เป็นการนำคอนเสิร์ต เทศกาล และการแข่งขันกีฬาระดับโลกมาจัดในประเทศไทย คาดหวังเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 5%-10% ต่อปี กระตุ้นการใช้จ่ายช่วง low season เพิ่ม 13% ทำให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องทั้งปี เพิ่มการใช้จ่าย 66,043 บาท/คน/ทริป จาก 44,000 บาท/คน/ทริป
กระทรวงคลังหวังว่า โครงการดังกล่าว เพิ่มรายได้ให้กับรัฐสร้างรายได้ให้รัฐประมาณ 12,037-39,427 ล้านบาทต่อปี เกิดรายได้ภาษีจากกิจการอื่น ๆ เช่น โรงแรม 5 ดาว สวนสนุก (8,773 – 35,093 ล้านบาทต่อปี) รายได้จากกิจการกาสิโน เช่น ค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ภาษีการเล่นพนัน ขั้นต่ำ 3,264 ล้านบาทต่อปี และยังมีรายได้จากค่าธรรมเนียมการเข้ากาสิโนอีก ขั้นต่ำ 3,700 ล้านบาทต่อปี สามารถนำรายได้ไปใช้พัฒนาประเทศ การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานประเทศ ระบบดูแลสังคม ระบบการศึกษาและการสร้างสาธารณประโยชน์ต่าง ๆ สร้างการจ้างงานได้อย่างน้อย 9,000 – 15,300 ตำแหน่ง เพิ่มจ้างงานคนไทย 0.03-0.05%
สำหรับการพัฒนาศักยภาพแรงงานในประเทศ และการจ้างงานจากธุรกิจต่อเนื่อง เพิ่มการจ้างงานโดยอ้อม (เช่น งานด้านการออกแบบ) การจ้างงานโดยชักนำ (เช่น การขนส่งสิ่งของ การโดยสาร) การจ้างงานเพิ่มเติมในสถานบันเทิงครบวงจร และธุรกิจโดยรอบรวมไปถึงตำแหน่งระดับบริหารจัดการ ยืนยันได้ว่าไม่ได้เอาการท่องเที่ยวมาบังหน้า แต่หลายๆ อย่างเป็นเรื่องของการเอ็นเทอร์เทนเมนต์ ส่วนรายได้จากกาสิโนเป็นเพียงส่วนน้อย.-515- สำนักข่าวไทย