ยึดเหล็กไม่ได้มาตรฐาน 2.4 ตัน เกือบ 50 ล้านบาท

10 ม.ค. – “เอกนัฏ” เผยผลตรวจเหล็กของบริษัทแห่งหนึ่งที่เกิดเหตุไฟไหม้เดือนก่อน พบเหล็กข้ออ้อยไม่ได้มาตรฐาน 2,441 ตัน มูลค่าราว 49.2 ล้านบาท สั่งยึดทันที พร้อมแจ้ง 3 ข้อหา โทษคุก-ปรับอ่วม


จากกรณีที่เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.67 ชุดตรวจการสุดซอย กระทรวงอุตสาหกรรม เข้าตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงงานแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ที่ ต.หนองละลอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง พบข้อบกพร่องทั้งด้านความปลอดภัย ด้านสิ่งแวดล้อมหลายจุด โดยเฉพาะด้านการผลิตเหล็กที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน จึงได้ยึดอายัดเหล็กไว้ทั้งหมด พร้อมเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจสอบ

ล่าสุดนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานผลการตรวจสอบเหล็กข้ออ้อยที่ผลิตโดยบริษัทดังกล่าว พบว่าไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ตกเกณฑ์ที่สำคัญที่ส่งผลโดยตรงกับความแข็งแรงของเหล็ก จึงมอบหมายให้ชุดตรวจการสุดซอย เข้าแจ้งผลต่อบริษัท พร้อมยึดอายัดเหล็กไม่ได้มาตรฐานดังกล่าว จำนวน 2,441 ตัน มูลค่าราว 49.2 ล้านบาท และให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย เพื่อป้องกันอันตราย และความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ปกป้องผู้ประกอบการภายในประเทศที่ผลิตเหล็กได้มาตรฐาน รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ภาคอุตสาหกรรมเหล็กของประเทศ


“ผู้ประกอบการรายนี้เป็นผู้ที่ได้รับใบอนุญาตจาก สมอ. (สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม) แต่กลับไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ตามมาตรฐานที่กำหนด และมีการซื้อวัตถุดิบจากซัพพลายเออร์ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนอยู่ในระบบทะเบียนของบริษัท ไม่มีการกำหนดหลักเกณฑ์ในการพิจารณาซัพพลายเออร์ ส่วนประกอบทางเคมีของเหล็กไม่สอดคล้องตามที่มาตรฐานกำหนด จึงได้สั่งการให้ดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด” นายเอกนัฏ กล่าว

น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงาน รมว.อุตสาหกรรม และชุดตรวจการสุดซอย กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า บริษัทดังกล่าวได้รับใบอนุญาตทำผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมจาก สมอ. จำนวน 3 ฉบับ ได้แก่ เหล็กเส้นกลม มอก. 20-2559, เหล็กข้ออ้อย มอก. 24-2559 ชั้นคุณภาพ SD 40 และชั้นคุณภาพ SD 50 ซึ่งจากการทดสอบเหล็กข้ออ้อย โดยสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย ปรากฏว่าไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน 2 รายการ คือ ในรายการส่วนสูงของบั้งที่มีผลทำให้ความสามารถในการยึดเกาะระหว่างเนื้อเหล็กและเนื้อคอนกรีตลดลง เมื่อนำไปใช้งาน และรายการธาตุโบรอน มีผลทำให้เนื้อเหล็กเปราะ ความเหนียวของเนื้อเหล็กลดลง ซึ่งอาจทำให้ไม่สามารถรับแรงดึงได้ตามที่มาตรฐานกำหนด

“นอกจากจะแจ้งผลการทดสอบเหล็กที่ไม่ได้มาตรฐานแล้ว ยังเป็นการแจ้งเตือนให้บริษัทแก้ไขกระบวนการผลิตภายในระยะเวลา 30 วัน มิฉะนั้นจะสั่งพักใช้ใบอนุญาต และได้อายัดเหล็กข้ออ้อยขนาด 16, 25 และ 32 มิลลิเมตร รุ่นการผลิตช่วงเดือน ต.ค.-ธ.ค.67 รวมทั้งจะดำเนินคดีกับผู้ประกอบการรายนี้ให้ถึงที่สุด โทษฐานทำผลิตภัณฑ์ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน รวมทั้งสั่งให้บริษัทเรียกคืนเหล็กที่ได้จำหน่ายออกไปแล้ว หากไม่ดำเนินการ เจ้าหน้าที่ สมอ. ก็จะลงไปตามยึดอายัดตามร้านค้าโมเดิร์นเทรด และดำเนินคดีตามกฎหมายในส่วนนี้ด้วย” น.ส.ฐิติภัสร์ ระบุ


สำหรับบริษัทดังกล่าวมีคนจีน 2 คน และคนไทย 1 คน เป็นกรรมการ ซึ่งจะดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยความผิดฐานทำผลิตภัณฑ์ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, ความผิดฐานแสดงเครื่องหมายมาตรฐานกับผลิตภัณฑ์ที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิดฐานจำหน่ายสินค้าที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ. -517-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

บกปภ.ช. รายงานสถานการณ์แผ่นดินไหว เสียหาย 18 จังหวัด

บกปภ.ช. รายงานสถานการณ์แผ่นดินไหว เสียหายเพิ่มขึ้นเป็น 18 จังหวัด เฉพาะกรุงเทพฯ เสียชีวิต 9 ราย สูญหาย 79 ราย ยังคงเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตจากอาคารถล่ม ขณะที่กรมบัญชีกลางขยายวงเงินทดรองราชการเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน 200 ล้านบาท

ยังไม่หมดหวัง กทม. เดินหน้าเต็มที่กู้ชีพตึกถล่ม

ยังไม่หมดหวัง กทม. เดินหน้าเต็มที่กู้ชีพตึกถล่มจตุจักร เข้าสู่ 48 ชม. นานาชาติร่วมส่งเครื่องมือช่วยเหลือ พร้อมเร่งจัดการจราจรให้ทันวันพรุ่งนี้

หุ่นยนต์กู้ภัย iRAP Robot สแกนตึกถล่มหนุนภารกิจกู้ภัย

มจพ. นำหุ่นยนต์กู้ภัย iRAP Robot เข้าพื้นที่สแกนตรวจสอบโครงสร้างตึกถล่ม ประเมินความปลอดภัย ก่อนให้กู้ภัยเข้าช่วยเหลือผู้รอดชีวิต ด้านครอบครัวยังเฝ้ารออย่างมีความหวัง