กรุงเทพฯ 6 ม.ค. – รมว.เกษตรฯ เผยสั่งเลขาธิการ มกอช. และทูตเกษตรที่ปักกิ่งประสานทางการจีน พร้อมสนับสนุนข้อมูลทางเทคนิคแก่กระทรวงพาณิชย์และ อย. ในการเจรจากับหน่วยงานศุลกากรจีนให้ผ่อนผันการนำเข้า “น้ำเชื่อม-น้ำตาลผสม” หลังจากถูกสั่งระงับตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2567
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้นายสัตวแพทย์ชัยวัฒน์ โยธคล เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) รวมถึงสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศประจำกรุงปักกิ่งให้ประสานกับสำนักงานศุลกากรกลางสาธารณรัฐประชาชนจีน หรือ GACC เพื่อสนับสนุนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยเจรจาขอผ่อนผันการนำเข้าน้ำเชื่อมและน้ำตาลผสม จากกรณีที่จีนได้แจ้งระงับการนำเข้าสินค้าน้ำเชื่อมและน้ำตาลผสมล่วงหน้าจากไทยเป็นการชั่วคราว โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2567
ทั้งนี้ เลขาธิการ มกอช. รายงานว่า ได้รวบรวมรายชื่อผู้ประกอบการที่มีการส่งออกสินค้ากลุ่มดังกล่าวในช่วงคาบเกี่ยวกับการประกาศระงับนำเข้าของจีน โดยทำหนังสือถึง GACC ผ่านสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศประจำกรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2567 แจ้งขอผ่อนผันการอนุญาตนำเข้าสินค้าจากผู้ประกอบการ 2 กลุ่มได้แก่
1.ผู้ประกอบการที่ส่งออกสินค้า (เรือออกจากท่า) ในวันที่ 10 ธันวาคม 2567 ซึ่งผลการพิจารณาของฝ่ายจีน อนุญาตให้นำเข้าสินค้าจากผู้ประกอบการตามรายชื่อที่ มกอช. เสนอไปทั้งหมดซึ่งช่วยบรรเทาผลกระทบของผู้ประกอบการในกลุ่มนี้
2.ผู้ประกอบการที่สินค้าผ่านกระบวนการศุลกากรเพื่อการส่งออกตั้งแต่ก่อนหรือในวันที่ 10 ธันวาคม 2567 แต่เรือออกจากท่าภายหลังวันที่ 10 ธันวาคม 2567 ซึ่งในส่วนนี้เป็นการขอเจรจาต่อรองกับฝ่ายจีนเพิ่มเติมเนื่องจาก มกอช. ได้รับทราบว่า มีผู้ประกอบการหลายรายได้รับผลกระทบจากการระงับนำเข้าอย่างกะทันหันของจีน โดยสินค้าบางส่วนที่ผ่านพิธีการศุลกากรและขนเข้าท่าเรือแล้วตั้งแต่ก่อนวันที่ 10 ธันวาคม 2567 แต่ยังอยู่ระหว่างรอกำหนดเรือออกจากท่า ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนการขนส่งทางเรือระหว่างประเทศ ต่อมาเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2568 เวลา 15.30 น. สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศประจำกรุงปักกิ่งได้รับแจ้งจาก GACC ว่า ไม่ผ่อนผันอนุญาตนำเข้าให้สินค้าที่ออกจากไทยหลังวันที่ 10 ธันวาคม เนื่องจากจีนถือว่า วันที่ 10 ธันวาคม 2567 เป็นวันเริ่มบังคับใช้คำสั่งระงับนำเข้า
ศ.ดร.นฤมล กล่าวว่า ได้นำเรื่องดังกล่าวเรียนนายกรัฐมนตรีแล้ว รวมถึงรายงานผลการหารือของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้แก่ กรมการค้าต่างประเทศ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กรมศุลกากร การนิคมแห่งประเทศไทย รวมถึงผู้แทนภาคเอกชนธุรกิจน้ำตาล โดยมกอช. กรมวิชาการเกษตร สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศประจำกรุงปักกิ่งร่วมหารือด้วยเพื่อทำหน้าที่สนับสนุนข้อมูลทางเทคนิคและช่วยประสานกับ GACC
ในการหารือนั้น ภาคเอกชนธุรกิจน้ำตาลให้ข้อมูลเรื่องการส่งออกสินค้าไซรัปจากไทยที่สูงผิดปกติเนื่องมาจากการหลีกเลี่ยงภาษีและส่งผลกระทบต่อสินค้าน้ำตาลในประเทศจีน รวมทั้งให้ข้อมูลว่า จีนใช้มาตรการอุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี (Non-Tariff Barrier : NTB) เพื่อปกป้องธุรกิจในประเทศ อย่างไรก็ตาม อาจมีสินค้าที่ด้อยคุณภาพบางส่วนจากไทยที่เข้าสู่จีนโดยโรงงานผลิตบางราย สำหรับสินค้า Premix sugar ที่ผลิตเพื่อส่งออกไปยังโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าว
ที่ประชุมได้ข้อสรุปร่วมกันว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เป็นหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ (Competent Authority : CA) ด้านน้ำตาลของไทยเนื่องจากการผลิตอาหารอยู่ภายใต้ พ.ร.บ. อาหารซึ่งต้องจัดทำข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้แก่ กฎหมาย/กฎระเบียบที่ใช้กำกับดูแล กระบวนการกำกับดูแล และรายชื่อโรงงานผลิตสินค้าภายใต้ 2 พิกัดดังกล่าว โดย มกอช. จะช่วยประสานการเจรจาซึ่งจะดำเนินการร่วมกับสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศประจำกรุงปักกิ่งซึ่งต้องยื่นข้อมูลต่อ GACC เพื่อขอเปิดตลาดอีกครั้ง รวมถึงแนะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมรับการตรวจประเมินจากจีน หากสามารถเจรจาขอเปิดตลาดใหม่สำเร็จ
ทั้งนี้ขณะนี้ มกอช. ร่วมกับ อย.กำลังเร่งจัดทำข้อมูลเพื่อเสนอขอยกเลิกการระงับนำเข้า โดยจะจัดส่งแนวทางการควบคุมความปลอดภัยอาหารในระบบการผลิตอาหารของไทยซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดในประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับ 420 ที่กำกับดูแลโดย อย. พร้อมทั้งส่งรายชื่อผู้ประกอบการที่ได้รับการรับรองจาก อย. แล้ว เพื่อขอให้จีนพิจารณายกเลิกระงับนำเข้าต่อไป. -512 – สำนักข่าวไทย