กรมรางเผยประชาชนเดินทางด้วยระบบรางสะสมครบ 7 วัน รวมกว่า 9.077 ล้านคน-เที่ยว

กรุงเทพ 3 ม.ค. – กรมการขนส่งทางราง เผยประชาชนเดินทางด้วยระบบรางช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ 2568 สะสมครบ 7 วัน รวมกว่า 9.077 ล้านคน-เที่ยว เพิ่มขึ้นจากเทศกาลปีใหม่ 2567 ร้อยละ 2.19 โดยวานนี้ (2 ม.ค.) มีผู้ใช้บริการระบบรางรวมกว่า 1.36 ล้านคน-เที่ยว จำนวนอุบัติเหตุทางรางลดลงร้อยละ 20 และเหตุรถไฟฟ้าขัดข้องลดลงร้อยละ 50 จากเทศกาลปีใหม่ 2567 ที่ผ่านมา


นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยว่า วานนี้ (2 ม.ค.) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของวันหยุดต่อเนื่องของเทศกาลปีใหม่ 2568 มีประชาชนใช้บริการระบบรางรวม 1,361,363 คน-เที่ยว ต่ำกว่าที่ประมาณการ 238,675 คน-เที่ยว หรือต่ำกว่าประมาณการร้อยละ 14.92 (ที่ประมาณการ 1,600,038 คน-เที่ยว) แบ่งเป็น รถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน 94,978 คน-เที่ยว และรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) จำนวน 1,266,385 คน-เที่ยว โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  1. รถไฟระหว่างเมืองของ รฟท. ให้บริการรวม 212 ขบวน มีผู้ใช้บริการจำนวน 94,978 คน-เที่ยว สูงกว่าประมาณการ 1,770 คน-เที่ยว หรือสูงกว่าประมาณการร้อยละ 1.90 (ประมาณการ 93,208 คน-เที่ยว) แบ่งเป็นผู้โดยสารเชิงพาณิชย์ 39,146 คน-เที่ยว และเชิงสังคม 55,832 คน-เที่ยว โดยมีผู้โดยสารขาออกจำนวน 43,337 คน-เที่ยว และผู้โดยสารขาเข้า 51,641 คน-เที่ยว โดยพบว่า สายใต้มีผู้ใช้บริการมากสุดถึง 30,083 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 14,655 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 15,428 คน-เที่ยว) รองลงมาคือสายตะวันออกเฉียงเหนือมีผู้ใช้บริการ 26,334 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 10,842 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 15,492 คน-เที่ยว) สายเหนือ 19,064 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 8,810 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 10,254 คน-เที่ยว) สายตะวันออก 12,248 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 5,297 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 6,951 คน-เที่ยว) และสายแม่กลองและมหาชัย 7,249 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 3,733 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 3,516 คน-เที่ยว)
  2. ระบบรถไฟฟ้า ให้บริการเดินรถไฟฟ้ารวม 3,347 เที่ยว (รวมเสริม 43 เที่ยว) มีผู้ใช้บริการรวมจำนวน 1,266,385 คน-เที่ยว ประกอบด้วย
    2.1 รถไฟฟ้า Airport Rail Link ให้บริการ 221 เที่ยว (รวมเสริม 6 เที่ยว) จำนวน 61,353 คน-เที่ยว
    2.2 รถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) ให้บริการ 294 เที่ยว จำนวน 30,897 คน-เที่ยว
    2.3 รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สีม่วง) 320 เที่ยว (รวมเสริม 2 เที่ยว) จำนวน 57,256 คน-เที่ยว
    2.4 รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) 501 เที่ยว (รวมรถเสริม 35 เที่ยว) จำนวน 383,349 คน-เที่ยว
    2.5 รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (สายสุขุมวิทและสายสีลม) ให้บริการ 1,240 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 641,221 คน-เที่ยว
    2.6 รถไฟฟ้า สายสีทอง ให้บริการ 219 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 9,923 คน-เที่ยว
    2.7 รถไฟฟ้าสายนัคราพิพัฒน์ (สีเหลือง) ให้บริการ 276 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 35,138 คน-เที่ยว
    2.8 รถไฟฟ้าสายสีชมพูให้บริการ 276 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 47,248 คน-เที่ยว

นายพิเชฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2567 – 2 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา ภาพรวม 7 วัน มีผู้ใช้บริการระบบรางรวมทั้งสิ้น 9,077,045 คน-เที่ยว มากกว่าเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2567 จำนวน 194,936 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.19 ประกอบด้วย


  1. รถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีผู้ใช้บริการรวม 682,082 คน-เที่ยว มากกว่าผู้ใช้บริการสะสม 7 วัน ของเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2567 (เทศกาลปีใหม่ 67) จำนวน 86,105 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.45 แบ่งเป็น ผู้โดยสารเชิงพาณิชย์สะสม 284,280 คน-เที่ยว (มากกว่าเทศกาลปีใหม่ 67 จำนวน 39,990 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.37) และผู้โดยสารเชิงสังคมสะสม 397,802 คน-เที่ยว (มากกว่าเทศกาลปีใหม่ 67จำนวน 46,115 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.11) โดยมีผู้โดยสารขาออกสะสม 347,347 คน-เที่ยว และขาเข้า 334,735 คน-เที่ยว ซึ่งพบว่า สายใต้มีผู้ใช้บริการมากสุดถึง 221,995 คน-เที่ยว (ขาออก 110,559 คน-เที่ยว และขาเข้า 111,436 คน-เที่ยว) รองลงมาคือสายตะวันออกเฉียงเหนือ 179,250 คน-เที่ยว (ขาออก 94,298 คน-เที่ยว และขาเข้า 84,952 คน-เที่ยว) สายเหนือ 130,469 คน-เที่ยว (ขาออก 65,761 คน-เที่ยว ขาเข้า 64,708 คน-เที่ยว) สายตะวันออก 83,979 คน-เที่ยว (ขาออก 42,395 คน-เที่ยว ขาเข้า 41,584 คน-เที่ยว) และสายมหาชัยและแม่กลอง 66,389 คน-เที่ยว (ขาออก 34,334 คน-เที่ยว ขาเข้า 32,055 คน-เที่ยว)
  2. ระบบรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล สะสม 7 วัน มีผู้ใช้บริการรวม 8,394,963 คน-เที่ยว มากกว่าเทศกาลปีใหม่ 2567 จำนวน 108,831 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.31 ประกอบด้วย
    2.1 รถไฟฟ้า Airport Rail Link จำนวน 411,433 คน-เที่ยว (มากกว่าเทศกาลปีใหม่ 67จำนวน 14,383 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.62)
    2.2 รถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) จำนวน 187,870 คน-เที่ยว (มากกว่าเทศกาลปีใหม่ 67จำนวน 30,182 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 19.14)
    2.3 รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สีม่วง) จำนวน 321,768 คน-เที่ยว (น้อยกว่าเทศกาลปีใหม่ 67 จำนวน 19,047 คน-เที่ยว หรือลดลงร้อยละ 5.59)
    2.4 รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) จำนวน 2,379,732 คน-เที่ยว (มากกว่าเทศกาลปีใหม่ 67 จำนวน 23,935 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.02)
    2.5 รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (สายสุขุมวิทและสายสีลม) จำนวน (สายสุขุมวิทและสายสีลม) 4,425,389 คน-เที่ยว (มากกว่าเทศกาลปีใหม่ 67จำนวน 51,808 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.18)
    2.6 รถไฟฟ้าสายสีทอง จำนวน 139,173 คน-เที่ยว (มากกว่าเทศกาลปีใหม่ 67 จำนวน 55,096 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 65.53)
    2.7 รถไฟฟ้าสายนัคราพิพัฒน์ (สีเหลือง) จำนวน 241,332 คน-เที่ยว (มากกว่าเทศกาลปีใหม่ 67จำนวน 38,506 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.98)
    2.8 รถไฟฟ้าสายสีชมพู จำนวน 288,266 คน-เที่ยว (น้อยกว่าเทศกาลปีใหม่ 67 จำนวน 86,032 คน-เที่ยว หรือลดลงขึ้นร้อยละ 22.98)

สำหรับด้านความปลอดภัย ตลอดช่วงวันหยุดต่อเนื่องของเทศกาลปีใหม่ 2568 รวม 7 วัน พบว่า มีอุบัติเหตุทางรางลดลงร้อยละ 20 และเหตุรถไฟฟ้าขัดข้องลดลงร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับเทศกาลปีใหม่ 2567 ที่ผ่านมา โดยมีอุบัติเหตุทางราง รวม 8 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 1 รายและผู้บาดเจ็บ 3 ราย ประกอบด้วย ขบวนรถไฟชนรถยนต์ 2 ครั้ง (บาดเจ็บ 2 ราย) ขบวนรถชนโค 2 ครั้ง ผู้โดยสารกระโดดลงจากขบวนรถ 1 ครั้ง (บาดเจ็บ 1 ราย) รถไฟชนคนเดินเท้า 1 ครั้ง (เสียชีวิต 1 ราย) รถจักรดีเซลไฟไหม้ 1 ครั้ง รถจักรดีเซลชนไม้ค้ำเสาโทรเลขที่หัก 1 ครั้ง (เทศกาลปีใหม่ 2567 มีอุบัติเหตุ 10 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 3 รายและผู้บาดเจ็บ 1 ราย) ส่วนระบบรถไฟฟ้ามีเหตุรถไฟฟ้าขัดข้อง 1 ครั้ง เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2567 เวลา 14.25 น. รถไฟฟ้า Airport Rail Link ขบวนรถ Express03 ระบบเบรกขัดข้อง ที่สถานีปลายทางสุวรรณภูมิ (เทศกาลปีใหม่ 2567 มีรถไฟฟ้าขัดข้อง 2 ครั้ง) นอกจากนี้ รฟท. ได้จัดเจ้าหน้าที่สุ่มตรวจวัดแอลกอฮอล์ผู้ปฏิบัติงานด้านการเดินรถ อาทิ พนักงานรถจักร พนักประจำบนขบวนรถ พนักงานประจำสถานี และผู้ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในการเดินรถตลอดเทศกาลปีใหม่ 2568 รวม 616 ราย พบว่า ผู้ปฏิบัติหน้าที่มีระดับแอลกอฮอล์เป็นศูนย์ทั้งหมด 616 ราย ซึ่งสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยให้ผู้โดยสารรระบบราง ที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่มีความพร้อมและสมรรถนะในการให้บริการอย่างปลอดภัย. -513-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ ถึงอุบลฯ แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้ชาวบ้าน

อุบลราชธานี 20 มิ.ย.-นายกฯ ถึงอุบลราชธานี แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้จากประชาชน ก่อนขึ้น ฮ.ไปฐานมรกต ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ขำสื่อรุมถาม “ไมค์เขกหัวนายกฯ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รอรับ และเดินทางต่อไปที่สนามกีฬานานาชาติ อบต.โดมประดิษฐ์ มีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมว.มหาดไทย และ สส.พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ได้มอบสิ่งของให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง โดยชาวบ้านหลายคนนำดอกกุหลาบ และผ้าขาวม้า มามอบให้เป็นกำลังใจแก่นายกฯ ในระหว่างที่ประชาชนมอบดอกไม้ให้ นายกฯ ชวนแม่ทัพภาคที่ 2 มารับดอกไม้และถ่ายภาพร่วมกัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เคลียร์ใจแล้วหรือไม่ […]

พรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน

รัฐสภา 20 มิ.ย.-เลขาธิการสภาฯ แจงพรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน แม้จะมีชื่อในบัญชี ก็ไม่เป็นผล ว่าที่ร้องตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากต้องมีการเลือกนายกฯ ใหม่ ว่า บุคคลที่สามารถได้รับการเสนอชื่อจะต้องเป็นบุคคลที่มีรายชื่อในบัญชีที่เสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง โดยพรรคที่สามารถเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯได้ จะต้องมี สส.จำนวน 5% ของสส. 500 คน คือมี สส. 25 คน ตามมาตรา 159 วรรค 1 ซึ่งในขณะนี้มี สส.ในสภาฯ จำนวน 495 คน 5% คือ 24.75 ซึ่งพรรคพลังประชารัฐขณะนี้มี สส.เหลือไม่ถึง 20 คน จึงไม่สามารถเสนอบุคคลในบัญชีรายชื่อคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯ ได้ ตามมาตรา 159 […]

ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ยิงข้างห้องดับ 1 เจ็บ 1

ชุมพร 20 มิ.ย. – ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ฉุนข้างห้องติดเครื่องรถกระบะจอดแช่นาน เกิดมีปากเสียง คว้าปืนยิงสามีเข้าที่คอบาดเจ็บ ส่วนภรรยาโดนยิงเข้าเบ้าตาเสียชีวิต ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุยิงกัน บริเวณห้องเช่า ริมถนนซอยสุขาภิบาล 17 – วัดเขาปุก ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวเช่าติดกัน 4 ห้อง บริเวณหน้าห้องซ้ายสุด มีรถกระบะสีดำจอดอยู่ พร้อมกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ น.ส.จิราวรรณ อายุ 54 ปี ถูกยิงเข้าที่ตาข้างขวา อาการสาหัส หน่วยกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน คือ นายสุรพจน์ อายุ 53 ปี ถูกยิงเข้าที่ไหปลาร้า ใกล้ลำคอด้านขวา แต่กระสุนถากไป ได้รับบาดเจ็บไม่มาก นายสุรพจน์ ให้ข้อมูลว่า คนก่อเหตุยิงเป็นเพื่อนบ้านห้องเช่าใกล้กัน ชอบตะโกนต่อว่าตนว่าติดเครื่องยนต์จอดแช่ไว้นาน ทำให้รำคาญ ซึ่งตนก็บอกไปว่า รถยนต์ตนต้องติดเครื่องวอร์มแช่ไว้ก่อนทุกครั้ง […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ข่าวแนะนำ

เปิดด่านรับผู้ป่วยฉุกเฉิน หญิงชาวกัมพูชาติดเชื้อในกระแสเลือด

จันทบุรี 21 มิ.ย. – น้ำใจคนไทย! เปิดด่านรับผู้ป่วยฉุกเฉิน หญิงชาวกัมพูชา วัย 67 ปี ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือด ส่งรักษา รพ.จันทบุรี เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ 20 มิ.ย. เวลา 21.00 น. กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด (กปช.จต.) โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ชุดเคลื่อนที่เร็วทหารผ่านนาวิกโยธินที่ 4 (ชค.ทพ.นย.4) หมวดอาวุธสนับสนุนที่ 4 จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด ได้รับการประสานจาก นปพท.จันทบุรี ให้อำนวยความสะดวกในการผ่านแดนให้กับนางหยาง ทัช อายุ 67 ปี ผู้ป่วยฉุกเฉินชาวกัมพูชา พร้อมผู้ร่วมเดินทาง รวมจำนวน 4 คน เนื่องจากผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสโลหิต มีไข้สูง หนาวสั่น และปวดศีรษะรุนแรง เพื่อไปรักษาตัวที่ รพ.กรุงเทพจันทบุรี เนื่องจากทาง รพ.กัมพูชา ไม่สามารถรักษาได้ เพราะเครื่องมือทางการแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ไม่มี จึงขอประสานส่งตัวที่บริเวณสะพานคลองตะเคียน […]

แบ่งงานรองนายกฯ ใหม่ หลัง ภท. ถอนตัวพรรคร่วมรัฐบาล

กรุงเทพฯ 21 มิ.ย. – นายกฯ ลงนามคำสั่งแบ่งงานรองนายกฯใหม่ หลัง “ภูมิใจไทย” ถอนตัวพรรคร่วมรัฐบาล “ภูมิธรรม” กำกับดูแล “มหาดไทย” ไร้ชื่อ “พีระพันธุ์” กำกับงานส่วนไหนเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมตรี ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 184/2568 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 20 มิ.ย.68 โดยรายละเอียดในคำสั่งมอบหมายให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี กำกับการบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และสำนักงานราชบัณฑิตยสภา (รวมทั้งราชการของราชบันฑิตยสภา) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐนตรี มอบอำนาจให้กำกับบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงคมนาคม กระทรวงแรงงาน กระทรวงวัฒนธรรม และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัมนตรี มอบหมายและมอบอำนาจให้กำกับการบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ […]

“ฮุนเซน” เย้ยหากไทยหยุดขายน้ำมันให้ กระทบตัวเอง

กัมพูชา 21 มิ.ย.-“ฮุนเซน” โพสต์เฟซบุ๊กล่าสุด เย้ยหากไทยหยุดขายน้ำมันให้กัมพูชา จะกระทบบริษัทของไทยเอง ความเคลื่อนไหวล่าสุดจาก เฟซบุ๊ก “ฮุนเซน” เวลาประมาณ 22.30 น. ที่ผ่านมา โพสต์ข้อความที่แปลเป็นภาษาไทยว่า เกมแห่งการคุกคามที่อาจนำไปสู่การทำลายตัวเอง วันนี้ พรรคฝ่ายค้านของไทยได้เสนอให้รัฐบาลไทยหยุดขายน้ำมันให้กับกัมพูชา เพื่อกดดันให้กัมพูชายอมจำนน ในการนี้ เราขอยืนยันอย่างชัดเจนว่า กัมพูชาจะไม่ล้มเหลวเพียงเพราะไม่ได้ซื้อน้ำมันจากประเทศไทย ในทางกลับกัน อาจเป็นบริษัท PTT ของไทยเองที่ต้องเผชิญกับผลกระทบ คุณต้องการให้บริษัท PTT ของไทยล่มสลายใช่หรือไม่? ถ้าคุณต้องการเช่นนั้น ก็จงเดินหน้าต่อไปตามแผนของคุณ กัมพูชาพร้อมแล้วที่จะรับมือกับสถานการณ์ที่คุณใช้คุกคามเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอินเทอร์เน็ต ไฟฟ้า แรงงาน และตอนนี้น้ำมันก็ถูกใช้เป็นอาวุธอีกหนึ่งอย่างในเกมนี้ ในอดีตคุณเคยดูถูกและเลือกปฏิบัติต่อแรงงานกัมพูชา ใช้พวกเขาเป็นเครื่องมือต่อรอง แต่เมื่อเราประกาศว่าจะรับแรงงานกลับประเทศ คุณก็เปลี่ยนท่าทีทันที กลับมาปลอบโยนและดูแลแรงงานเหล่านั้น ทำไม? เพราะถ้าแรงงานกัมพูชาถอนตัวจากโรงงาน ฟาร์ม บริษัท และไซต์ก่อสร้าง ธุรกิจจำนวนมากในไทยอาจต้องปิดตัวลงเพราะขาดแรงงาน หากคุณกล้าจริง ก็ลองไล่แรงงานกัมพูชาออกให้หมด แล้วมาดูกันว่าจะกระทบเศรษฐกิจไทยแค่ไหน น้ำมันก็เช่นเดียวกัน ลองดูได้เลย แต่อย่าลืมปรึกษาบริษัท PTT ของไทยก่อน เพราะนั่นอาจหมายถึงการทำลายธุรกิจของพวกเขา […]

แม่ทัพภาคที่ 2 ยันการเมืองไม่กระทบการทหาร

นครพนม 21 มิ.ย.-พล.ท.บุญสิน แม่ทัพภาคที่ 2 เผยสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงสงบ ความตึงเครียดส่วนใหญ่เป็นการเมืองภายใน ระบุไม่กระทบการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพ ภายหลังเป็นประธานในพิธีถวายพระพุทธรูป และประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดสว่างสุวรรณาราม จ.นครพนม พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดน ว่า ยังคงสงบ ไม่มีเหตุรุนแรงหรือการขยับกำลังทหารที่น่าเป็นห่วง ฝ่ายกัมพูชายังอยู่ในเขตแดนของตนไม่มีการรุกล้ำเข้ามาในเขตประเทศไทย ความตึงเครียดส่วนใหญ่เกิดจากสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศไทยมากกว่า ซึ่งทางกองทัพจะยังคงมุ่งเน้นการรักษาอธิปไตยและความมั่นคงของประเทศ การเคลื่อนไหวทางการเมืองภายในประเทศ ไม่ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพในการดูแลรักษาชายแดน ส่วนที่มีกลุ่มชาวกัมพูชาร้องเพลงที่ปราสาทตาควายนั้น กองทัพไทยได้ประสานกับทางการกัมพูชาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก เหตุการณ์ดังกล่าวคาดว่าเป็นเรื่องการเมืองมากกว่า ไม่เกี่ยวกับความขัดแย้งทางทหารโดยตรง ส่วนข่าวความขัดแย้งระหว่างนายกรัฐมนตรีกับแม่ทัพนั้น เป็นเพียงความเข้าใจผิดและได้มีการชี้แจงและขอโทษกันแล้ว ไม่มีผลกระทบต่อการทำงานของกองทัพแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย