กรมรางเผยประชาชนเดินทางด้วยระบบรางสะสมครบ 7 วัน รวมกว่า 9.077 ล้านคน-เที่ยว

กรุงเทพ 3 ม.ค. – กรมการขนส่งทางราง เผยประชาชนเดินทางด้วยระบบรางช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ 2568 สะสมครบ 7 วัน รวมกว่า 9.077 ล้านคน-เที่ยว เพิ่มขึ้นจากเทศกาลปีใหม่ 2567 ร้อยละ 2.19 โดยวานนี้ (2 ม.ค.) มีผู้ใช้บริการระบบรางรวมกว่า 1.36 ล้านคน-เที่ยว จำนวนอุบัติเหตุทางรางลดลงร้อยละ 20 และเหตุรถไฟฟ้าขัดข้องลดลงร้อยละ 50 จากเทศกาลปีใหม่ 2567 ที่ผ่านมา


นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยว่า วานนี้ (2 ม.ค.) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของวันหยุดต่อเนื่องของเทศกาลปีใหม่ 2568 มีประชาชนใช้บริการระบบรางรวม 1,361,363 คน-เที่ยว ต่ำกว่าที่ประมาณการ 238,675 คน-เที่ยว หรือต่ำกว่าประมาณการร้อยละ 14.92 (ที่ประมาณการ 1,600,038 คน-เที่ยว) แบ่งเป็น รถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน 94,978 คน-เที่ยว และรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) จำนวน 1,266,385 คน-เที่ยว โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  1. รถไฟระหว่างเมืองของ รฟท. ให้บริการรวม 212 ขบวน มีผู้ใช้บริการจำนวน 94,978 คน-เที่ยว สูงกว่าประมาณการ 1,770 คน-เที่ยว หรือสูงกว่าประมาณการร้อยละ 1.90 (ประมาณการ 93,208 คน-เที่ยว) แบ่งเป็นผู้โดยสารเชิงพาณิชย์ 39,146 คน-เที่ยว และเชิงสังคม 55,832 คน-เที่ยว โดยมีผู้โดยสารขาออกจำนวน 43,337 คน-เที่ยว และผู้โดยสารขาเข้า 51,641 คน-เที่ยว โดยพบว่า สายใต้มีผู้ใช้บริการมากสุดถึง 30,083 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 14,655 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 15,428 คน-เที่ยว) รองลงมาคือสายตะวันออกเฉียงเหนือมีผู้ใช้บริการ 26,334 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 10,842 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 15,492 คน-เที่ยว) สายเหนือ 19,064 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 8,810 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 10,254 คน-เที่ยว) สายตะวันออก 12,248 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 5,297 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 6,951 คน-เที่ยว) และสายแม่กลองและมหาชัย 7,249 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 3,733 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 3,516 คน-เที่ยว)
  2. ระบบรถไฟฟ้า ให้บริการเดินรถไฟฟ้ารวม 3,347 เที่ยว (รวมเสริม 43 เที่ยว) มีผู้ใช้บริการรวมจำนวน 1,266,385 คน-เที่ยว ประกอบด้วย
    2.1 รถไฟฟ้า Airport Rail Link ให้บริการ 221 เที่ยว (รวมเสริม 6 เที่ยว) จำนวน 61,353 คน-เที่ยว
    2.2 รถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) ให้บริการ 294 เที่ยว จำนวน 30,897 คน-เที่ยว
    2.3 รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สีม่วง) 320 เที่ยว (รวมเสริม 2 เที่ยว) จำนวน 57,256 คน-เที่ยว
    2.4 รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) 501 เที่ยว (รวมรถเสริม 35 เที่ยว) จำนวน 383,349 คน-เที่ยว
    2.5 รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (สายสุขุมวิทและสายสีลม) ให้บริการ 1,240 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 641,221 คน-เที่ยว
    2.6 รถไฟฟ้า สายสีทอง ให้บริการ 219 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 9,923 คน-เที่ยว
    2.7 รถไฟฟ้าสายนัคราพิพัฒน์ (สีเหลือง) ให้บริการ 276 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 35,138 คน-เที่ยว
    2.8 รถไฟฟ้าสายสีชมพูให้บริการ 276 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 47,248 คน-เที่ยว

นายพิเชฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2567 – 2 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา ภาพรวม 7 วัน มีผู้ใช้บริการระบบรางรวมทั้งสิ้น 9,077,045 คน-เที่ยว มากกว่าเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2567 จำนวน 194,936 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.19 ประกอบด้วย


  1. รถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีผู้ใช้บริการรวม 682,082 คน-เที่ยว มากกว่าผู้ใช้บริการสะสม 7 วัน ของเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2567 (เทศกาลปีใหม่ 67) จำนวน 86,105 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.45 แบ่งเป็น ผู้โดยสารเชิงพาณิชย์สะสม 284,280 คน-เที่ยว (มากกว่าเทศกาลปีใหม่ 67 จำนวน 39,990 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.37) และผู้โดยสารเชิงสังคมสะสม 397,802 คน-เที่ยว (มากกว่าเทศกาลปีใหม่ 67จำนวน 46,115 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.11) โดยมีผู้โดยสารขาออกสะสม 347,347 คน-เที่ยว และขาเข้า 334,735 คน-เที่ยว ซึ่งพบว่า สายใต้มีผู้ใช้บริการมากสุดถึง 221,995 คน-เที่ยว (ขาออก 110,559 คน-เที่ยว และขาเข้า 111,436 คน-เที่ยว) รองลงมาคือสายตะวันออกเฉียงเหนือ 179,250 คน-เที่ยว (ขาออก 94,298 คน-เที่ยว และขาเข้า 84,952 คน-เที่ยว) สายเหนือ 130,469 คน-เที่ยว (ขาออก 65,761 คน-เที่ยว ขาเข้า 64,708 คน-เที่ยว) สายตะวันออก 83,979 คน-เที่ยว (ขาออก 42,395 คน-เที่ยว ขาเข้า 41,584 คน-เที่ยว) และสายมหาชัยและแม่กลอง 66,389 คน-เที่ยว (ขาออก 34,334 คน-เที่ยว ขาเข้า 32,055 คน-เที่ยว)
  2. ระบบรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล สะสม 7 วัน มีผู้ใช้บริการรวม 8,394,963 คน-เที่ยว มากกว่าเทศกาลปีใหม่ 2567 จำนวน 108,831 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.31 ประกอบด้วย
    2.1 รถไฟฟ้า Airport Rail Link จำนวน 411,433 คน-เที่ยว (มากกว่าเทศกาลปีใหม่ 67จำนวน 14,383 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.62)
    2.2 รถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) จำนวน 187,870 คน-เที่ยว (มากกว่าเทศกาลปีใหม่ 67จำนวน 30,182 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 19.14)
    2.3 รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สีม่วง) จำนวน 321,768 คน-เที่ยว (น้อยกว่าเทศกาลปีใหม่ 67 จำนวน 19,047 คน-เที่ยว หรือลดลงร้อยละ 5.59)
    2.4 รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) จำนวน 2,379,732 คน-เที่ยว (มากกว่าเทศกาลปีใหม่ 67 จำนวน 23,935 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.02)
    2.5 รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (สายสุขุมวิทและสายสีลม) จำนวน (สายสุขุมวิทและสายสีลม) 4,425,389 คน-เที่ยว (มากกว่าเทศกาลปีใหม่ 67จำนวน 51,808 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.18)
    2.6 รถไฟฟ้าสายสีทอง จำนวน 139,173 คน-เที่ยว (มากกว่าเทศกาลปีใหม่ 67 จำนวน 55,096 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 65.53)
    2.7 รถไฟฟ้าสายนัคราพิพัฒน์ (สีเหลือง) จำนวน 241,332 คน-เที่ยว (มากกว่าเทศกาลปีใหม่ 67จำนวน 38,506 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.98)
    2.8 รถไฟฟ้าสายสีชมพู จำนวน 288,266 คน-เที่ยว (น้อยกว่าเทศกาลปีใหม่ 67 จำนวน 86,032 คน-เที่ยว หรือลดลงขึ้นร้อยละ 22.98)

สำหรับด้านความปลอดภัย ตลอดช่วงวันหยุดต่อเนื่องของเทศกาลปีใหม่ 2568 รวม 7 วัน พบว่า มีอุบัติเหตุทางรางลดลงร้อยละ 20 และเหตุรถไฟฟ้าขัดข้องลดลงร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับเทศกาลปีใหม่ 2567 ที่ผ่านมา โดยมีอุบัติเหตุทางราง รวม 8 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 1 รายและผู้บาดเจ็บ 3 ราย ประกอบด้วย ขบวนรถไฟชนรถยนต์ 2 ครั้ง (บาดเจ็บ 2 ราย) ขบวนรถชนโค 2 ครั้ง ผู้โดยสารกระโดดลงจากขบวนรถ 1 ครั้ง (บาดเจ็บ 1 ราย) รถไฟชนคนเดินเท้า 1 ครั้ง (เสียชีวิต 1 ราย) รถจักรดีเซลไฟไหม้ 1 ครั้ง รถจักรดีเซลชนไม้ค้ำเสาโทรเลขที่หัก 1 ครั้ง (เทศกาลปีใหม่ 2567 มีอุบัติเหตุ 10 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 3 รายและผู้บาดเจ็บ 1 ราย) ส่วนระบบรถไฟฟ้ามีเหตุรถไฟฟ้าขัดข้อง 1 ครั้ง เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2567 เวลา 14.25 น. รถไฟฟ้า Airport Rail Link ขบวนรถ Express03 ระบบเบรกขัดข้อง ที่สถานีปลายทางสุวรรณภูมิ (เทศกาลปีใหม่ 2567 มีรถไฟฟ้าขัดข้อง 2 ครั้ง) นอกจากนี้ รฟท. ได้จัดเจ้าหน้าที่สุ่มตรวจวัดแอลกอฮอล์ผู้ปฏิบัติงานด้านการเดินรถ อาทิ พนักงานรถจักร พนักประจำบนขบวนรถ พนักงานประจำสถานี และผู้ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในการเดินรถตลอดเทศกาลปีใหม่ 2568 รวม 616 ราย พบว่า ผู้ปฏิบัติหน้าที่มีระดับแอลกอฮอล์เป็นศูนย์ทั้งหมด 616 ราย ซึ่งสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยให้ผู้โดยสารรระบบราง ที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่มีความพร้อมและสมรรถนะในการให้บริการอย่างปลอดภัย. -513-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพงเครียด ปฏิเสธโกงเงินวัด ยันไม่มีสัมพันธ์สีกา

กรุงเทพฯ 18 ก.ย. – พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง เปิดใจเป็นครั้งแรก หลังถูกเพจดังกล่าวหาทุจริตเงินวัดและมีสัมพันธ์สีกา 3 คน ความเคลื่อนไหวภายในวัดหัวลำโพง พระอารามหลวง กลางกรุงเทพฯ ยังคงถูกจับตามอง หลังเกิดกระแสข่าวลือในสังคมออนไลน์ กล่าวหาผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดว่าอาจมีส่วนพัวพันทั้งเรื่องการบริหารจัดการเงินวัดไม่โปร่งใส และถูกเชื่อมโยงกับความสัมพันธ์สีกาถึง 3 ราย จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ล่าสุด พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาคที่หนึ่ง ได้โทรศัพท์สอบถามให้พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงกับผู้สื่อข่าว ซึ่งสุดท้ายพระครูยอมเปิดใจผ่านโทรศัพท์เป็นครั้งแรก โดยระบุว่า หลังได้เห็นข่าวในโซเชียล ยอมรับว่ารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ในประเด็นแรก เรื่องการทุจริตเงินวัด พระครูฯ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเองมีเพียงรับเงินทำบุญจากญาติโยม จากนั้นก็จะส่งต่อให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ส่วนงานฌาปนกิจศพที่ตนดูแล เมื่อได้รับเงินจากเจ้าภาพก็จะทำการหักค่าแรงของคนงานออก ก่อนออกใบเสร็จยืนยัน ทุกขั้นตอนมีหลักฐานตรวจสอบได้ ส่วนข่าวลือเรื่องมีสัมพันธ์ชู้สาวกับสีกา 3 คน พระครูฯ ปฏิเสธหนักแน่นว่าไม่เป็นความจริงทั้งหมด โดย “นางกระแต” ที่ถูกอ้างว่าเป็นภรรยาคนแรกนั้น แท้จริงเป็นเพียงญาติโยมที่รู้จักกันมานานและจะมาทำบุญถวายสังฆทานเป็นครั้งคราวเท่านั้น ขณะที่ “นางแมว” เป็นอดีตคนงานวัด และ “นางดา” […]

นายกฯ บอกเวลา 4 เดือน เศรษฐกิจต้องไปข้างหน้า “มีรูมีหนู”

สภาหอการค้าฯ 18 ก.ย.-นายกฯ บอกเวลา 4 เดือน เศรษฐกิจต้องไปข้างหน้า “มีรูมีหนู” ต้องผลักดันเต็มที่ พร้อมแก้ไขปัญหาภาคเอกชนสู่นโยบายรัฐบาล ยันทำทุกทางให้ไทยเป็นคู่ค้าที่ได้เปรียบ ไม่ปิดกั้นนโยบายคนอื่น ขอให้วินวินทุกฝ่าย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมหารือกับสภาหอการค้าไทยว่า ตนและทีมงานได้มาพบกับทางคณะกรรมการสภาหอการค้าไทย เหมือนกับวันที่เราไปเยี่ยมที่สภาอุตสาหกรรม เราพยายามที่จะไปพบกับภาคเอกชนก่อนที่จะเข้าไปบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อที่จะได้รับฟังข้อเสนอแนะและปัญหาที่ภาคเอกชนต้องการให้รัฐบาลได้สนับสนุนหรือแก้ไข จะรวบรวมข้อมูลให้มากที่สุด เพื่อเวลาเข้าไปทำงานจะได้ดำเนินการให้ทุกอย่าง ขับเคลื่อนไปด้วยความรวดเร็ว มาพบกับคณะผู้บริหารสภาหอการค้าไทย ถือว่าเป็นตัวแทนของผู้ประกอบการ เรารับฟังข้อเสนอแนะข้อกังวล สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องการให้รัฐบาลได้ดำเนินการ เพื่อทำให้เกิดความคล่องตัว ทั้งด้านการเงิน ภาระหนี้สิน ดอกเบี้ย พลังงาน การส่งออก แรงงาน และโอกาสต่างๆ สำหรับประเทศไทยในอนาคต ได้มีการหารือลงในรายละเอียดมากพอสมควร และจะต้องมีการพบกันเป็นประเด็นไปหากมีความจำเป็น แต่ในภาพรวมจะหาโอกาสมาหารือให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อถามว่า หารือแล้วได้จัดเตรียมมาตรการความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจอย่างไรบ้าง นายอนุทิน เผยว่า รับฟังปัญหาต่างๆ เรื่องของการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้กับผู้ประกอบการ แรงงาน ภาษี ขนส่งต่างๆ เราพยายามที่จะทะลายข้อจำกัดที่มีอยู่ ไม่จำเป็นไม่ปิดกั้นโอกาส ส่วนรายละเอียด ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะนำสิ่งเหล่านี้ไปหาทางทำให้คล่องตัวขึ้น […]

ตำรวจเสริมกำลังบ้านหนองหญ้าแก้ว

สระแก้ว 18 ก.ย. – ตำรวจเสริมกำลังที่บ้านหนองหญ้าแก้ว หลังวานนี้ชาวกัมพูชาพยายามเข้ามาทำลายทรัพย์สิน รื้อลวดหนามในพื้นที่อธิปไตยไทย จนเจ้าหน้าที่ต้องผลักดันออกไป ที่วัดหนองหญ้าแก้ว ยังเป็นจุดพักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเฝ้าติดตามสถานการณ์ว่าจะเกิดเหตุการณ์ชาวกัมพูชาพยามเข้ามารื้อลวดหนาม ซึ่งถือเป็นทรัพย์สินราชการในพื้นที่บริเวณอธิปไตยของไทยอีกหรือไม่ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็ต้องบังคับใช้กฎหมายมีการดำเนินการอย่างที่ปฏิบัติมาเมื่อวานนี้ตามหลักสากล เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม เพราะจากข้อมูลตามเพจ พบชาวกัมพูชาระดมมวลชนเพิ่ม ดังนั้น วันนี้นอกจากตำรวจในจังหวัดสระแก้วแล้ว ยังมีการเสริมกำลังตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียงเข้ามาอีก 2 กองร้อย 340 คน ได้แก่ ตำรวจจากปราจีนบุรีและฉะเชิงเทรา อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุเมื่อวานนี้ ทางกองทัพบกย้ำว่าจุดปะทะพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตไทย การที่ชาวกัมพูชาบุกรุกเข้ามาทำลายสิ่งของทางราชการ และก่อการจลาจลบนแผ่นดินไทย เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงต้องถูกดำเนินการตามกระบวนการ และยืนยันการดำเนินการของฝ่ายไทยเป็นไปตามขั้นตอนตั้งแต่การเจรจา แจ้งเตือน และควบคุมการจลาจลตามหลักสากล โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับฝ่ายปกครอง ที่สำคัญพบว่าทหารของกัมพูชาที่ร่วมในเหตุการณ์กลับไม่ห้ามปราม และมีท่าทีสนับสนุนการจลาจล ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุการณ์ฝ่ายกัมพูชายังออกแถลงการณ์บิดเบือนข้อมูลทั้งหมดนี้แสดงถึงเจตนาของฝ่ายกัมพูชาในการใช้ประชาชนออกหน้ารุกล้ำดินแดนไทยและความไม่จริงใจในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ชายแดนตามข้อตกลงหยุดยิงย้อนแย้งกับภาพลักษณ์ที่รัฐบาลกัมพูชาพยายามสร้างต่อสังคมโลกว่าเป็นผู้แสวงหาสันติภาพ. -สำนักข่าวไทย

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ร่วมถกสภาหอการค้าไทย

สภาหอการค้าไทย 18 ก.ย.-นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ร่วมถกสภาหอการค้าไทย ย้ำนำชื่อ ครม. ทูลเกล้าฯ แล้ว ลั่นลุยงานทันที หลังโปรดเกล้าฯ เผย “เอกนิติ” คัด รมช.คลัง มาเองกับมือ โวเร่งเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเข้มแข็ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ระหว่างคณะรัฐบาล และคณะกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยนายอนุทินกล่าวว่า มาวันนี้เพื่อพบกับทุกคน และมีว่าที่รัฐมนตรีที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ ซึ่งทุกคนในที่นี้ไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับตน เจอกันมานาน มีความสนิทสนมคุ้นเคย เคารพนับถือกันเป็นอย่างดี นายอนุทิน กล่าวว่า สิ่งที่มาวันนี้ เพื่อมาพบทุกท่านและนำว่าที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจมาแนะนำให้รู้จัก เชื่อว่าหลายคนก็รู้จักกันดีอยู่แล้ว วันนี้ตั้งใจมารับฟังรายละเอียด และรับฟังข้อเสนอแนะจากสภาหอการค้าไทย รัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้เป็นรัฐบาลที่จะเน้นในการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทย ให้มีความกระชับและเข้มแข็งขึ้นเร็วที่สุด ภายใต้ระยะเวลาที่มีอยู่ นายอนุทินยังแนะนำผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีของตนซึ่งได้ทูลเกล้าฯ ถวายรายชื่อไปแล้ว เมื่อมีการโปรดเกล้าฯ ก็จะเร่งแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา และสามารถบริหารราชการแผ่นดินได้ จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้แนะนำว่าที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจให้ผู้ร่วมประชุมได้รู้จัก โดยในขณะที่แนะนำว่าที่รัฐมนตรี นายอนุทิน ได้กล่าวถึงนายวรภัค ธันยาวงษ์ ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ว่า เป็นคนฝีมือดี ซึ่งนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส […]