“บสย. – ซีพี แอ็กซ์ตร้า” ช่วย SMEs เข้าถึงสินเชื่อ-แก้หนี้ยั่งยืน

กรุงเทพฯ​ 16 ธ.ค.​ – บสย. ขานรับนโยบายรัฐ ช่วย SMEs แก้หนี้ เติมทุน เสริมสภาพคล่อง จับมือ “ซีพี แอ็กซ์ ตร้า” เปิดตัวโครงการ “บสย. พร้อมค้ำ พร้อมช่วย” ระดมทีมงาน “ช่วยคิด ช่วยแก้ ช่วยจบ” ตั้งเป้าช่วยผู้ประกอบการ และกลุ่มเกษตรกรเข้าถึงสินเชื่อ พร้อมช่วยลูกหนี้ SMEs ที่ถูกจ่ายเคลมปรับโครงสร้างหนี้ไม่ต่ำกว่า 5,000 ราย “ลด ปลด หนี้” แก้หนี้ยั่งยืน


นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) และนางศิริพร เดชสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เชื่อมโยงผู้ประกอบการรายย่อย (SMEs) และเกษตรกรให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน และการเข้าถึงมาตรการบริหารหนี้ โดยมีนายวุฒิพันธุ์ ปริดิพันธ์ รองผู้จัดการทั่วไป สายงานปฏิบัติการ บสย. และนางสาววรรณดี รังษีสุกานนท์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายบริหารประสบการณ์และการดำเนินงานศูนย์การค้า บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ร่วมเป็นสักขีพยาน

นายสิทธิกร เปิดเผยว่า บสย.ขานรับนโยบายภาครัฐ เดินหน้าให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs เสริมสภาพคล่อง แก้หนี้ยั่งยืน โดยผนึกความร่วมมือกับ ซีพี แอ็กซ์ตร้า ให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ใน 2 มิติ ได้แก่ 1. สนับสนุน SMEs เข้าถึงสินเชื่อในระบบ และ 2. ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้กับ SMEs ที่ถือหนังสือค้ำประกันของ บสย. และถูกจ่ายเคลมจากสถาบันการเงิน ให้สามารถกลับมาเป็นลูกหนี้ปกติได้ ภายใต้โครงการ “บสย. พร้อมค้ำ พร้อมช่วย” ในคอนเซ็ปต์ “ช่วยคิด ช่วยแก้ ช่วยจบ” โดยจัดเตรียมกิจกรรม “3 เช็ค 3 แนะ 3 ช่วย” เพื่อตอบโจทย์ผู้ประกอบการ SMEs อย่างครบวงจร อาทิ ตรวจสุขภาพทางการเงิน, ตรวจเครดิตบูโร, วิเคราะห์วงเงินสินเชื่อเบื้องต้น, แนะนำบริการ E consent, E KYC ผ่าน LINE OA และช่วย SMEs แก้หนี้ผ่านมาตรการ “บสย. พร้อมช่วย” เป็นต้น


สำหรับกลุ่มเป้าหมายของโครงการนี้ มุ่งไปที่กลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ทั่วไป และผู้ประกอบการรายย่อย พ่อค้า แม่ค้า ที่เข้ามาใช้บริการในโลตัส ครอบคลุมทั้งภาคบริการ การผลิต อาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจหลักที่ บสย. ให้การค้ำประกันคิดเป็นสัดส่วน 50% ของพอร์ตค้ำประกันทั้งหมด เช่นเดียวกับกลุ่มเกษตรกร ซึ่งมีสัดส่วนการค้ำประกันในอันดับต้นๆ โดยในปี 2567 (ม.ค.-พ.ย.67) มียอดค้ำประกันกลุ่มธุรกิจการเกษตร อยู่ในอันดับที่ 4 คิดเป็น 8.9% โดยมียอดค้ำประกันสินเชื่อกว่า 4,280 ล้านบาท

นางศิริพร กล่าว​ว่า​ ซีพี แอ็กซ์ตร้า เปิดพื้นที่ในโลตัส 12 สาขาทั่วประเทศ ให้ทางทีมงานของ บสย. เข้ามาช่วยเหลือผ่านการคำปรึกษา และการทำกิจกรรมต่างๆ พี แอ็กซ์ตร้า และ บสย. ต่างมีเป้าหมายในการสนับสนุนผู้ประกอบการ SME และเกษตรกรไทย ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยที่ผ่านมา ซีพี แอ็กซ์ตร้า ผู้บริหาร “แม็คโคร-โลตัส” ได้ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจ SME สนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยและเกษตรกร พัฒนาศักยภาพให้เติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านการจัดกิจกรรมด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ บสย. จะเดินสายออกบูธที่ห้างโลตัส 12 จังหวัดที่เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของแต่ละภาค กระจายไปยังทุกภูมิภาคทั่วประเทศ โดยจะมีการคิกออฟโครงการ ณ โลตัส บางแค กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 7-9 มกราคม 2568 หลังจากนั้นจะเดินสายไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกิจกรรมจะมีไปถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2568 ผู้ประกอบการ SMEs ที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถลงทะเบียนผ่าน LINE OA : @tcgfirst หรือสามารถลงทะเบียนที่บูธกิจกรรม “บสย. พร้อมค้ำ พร้อมช่วย” ที่จะเดินสายไปยังจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดย บสย. ได้จัดเตรียมวงเงินค้ำประกันสินเชื่อภายใต้โครงการ PGS 11 “บสย. SMEs ยั่งยืน” อีกกว่า 20,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือ SMEs และกลุ่มเกษตรกรเข้าถึงแหล่งเงินทุน พร้อมรองรับการช่วยเหลือลูกหนี้ บสย. (ผู้ประกอบการ SMEs ที่ บสย. จ่ายค่าประกันชดเชยให้สถาบันการเงิน) สามารถปรับโครงสร้างหนี้ผ่านมาตรการ “บสย. พร้อมช่วย” จำนวนไม่ต่ำกว่า 5,000 ราย คิดเป็นมูลหนี้ไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท


ล่าสุด บสย.​ ยังได้ขยายระยะเวลามาตรการปรับโครงสร้างหนี้ “บสย. พร้อมช่วย” ไปอีก 1 ปี ถึง 31 ธันวาคม 2568 จากเดิมสิ้นสุด 31 ธันวาคม 2567 ด้วยเงื่อนไขที่ผ่อนปรนมากขึ้น ช่วย SMEs ลด ปลดหนี้ได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น รองรับกับความสามารถในการชำระหนี้ 3 ระดับ (ม่วง เหลือง เขียว) อาทิ มาตรการสีม่วง “ลูกหนี้ดี ไม่มีแรงผ่อน” ตัดเงินต้นเพิ่มเป็น 50% จากเดิมตัดเงินต้น 20% และสามารถปลดหนี้ ลดต้น 10% เมื่อจ่ายต่อเนื่อง 12 งวด, มาตรการสีเหลือง “ลูกหนี้ผ่อนดี มีศักยภาพ” เพิ่มระยะเวลาผ่อนจาก 5 ปี เป็น 7 ปี และสามารถปลดหนี้ ลดต้น 10% เมื่อจ่ายต่อเนื่อง 12 งวด และมาตรการสีเขียว “ลูกหนี้ดี มีวินัย” ตัดเงินต้นทั้งจำนวน และสามารถปลดหนี้ ลดต้น 15% เมื่อจ่ายต่อเนื่อง 6 งวด เป็นต้น

ทั้งนี้ ตั้งแต่ออกมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ในปี 2565 ถึงปัจจุบัน บสย. ประสบผลสำเร็จในการดำเนินมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ค้ำประกันสินเชื่อที่ถูกจ่ายเคลมไปแล้วถึง 17,934 ราย (ในปี 2567 ระยะเวลา 11 เดือน จำนวน 3,482 ราย) คิดเป็นมูลหนี้รวมกว่า 10,718 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 33 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งบสย.​ – 512​ – สำนักข่าว​ไทย​

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผลักดัน “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว 7 คน กลับกัมพูชา

จันทบุรี 12 ก.ย. – ตม.ศรีสะเกษ ประสาน ตม.จันทบุรี ส่งตัว “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว รวม 7 คน กลับกัมพูชา หลังถูกกล่าวหาเป็นไส้ศึก และถูกชาวบ้านรวมตัวขับไล่ ทั้งยังพบอาศัยอยู่ในไทยอย่างผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษ นำตัวนางเขื่อน ชาวกัมพูชา และสมาชิกครอบครัว รวมทั้งหมด 7 คน เดินทางไปที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านแหลม จ.จันทบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รอรับตัวอยู่ก่อนแล้ว เพื่อผลักดันกลับประเทศกัมพูชา เนื่องจากที่ผ่านมา นางเขื่อน ถูกชาวบ้านในพื้นที่ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ รวมตัวกันขับไล่ หลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็น “ไส้ศึก” คอยส่งข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทหารไทยให้กับฝ่ายกัมพูชา และยังพบว่าทั้งหมดอาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย จึงดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายและระเบียบการต่างประเทศ เพื่อส่งตัวกลับภูมิลำเนา. – สำนักข่าวไทย

“ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – “ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ งบปี 69 เน้นเส้นเลือดฝอยคู่เส้นเลือดใหญ่ สถานการณ์น้ำตอนนี้ เตรียมรับน้ำเหนือ-พายุ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2568 ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า วันนี้เป็นการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วาระที่สองและวาระที่สาม ซึ่งจะมีการพิจารณาเรื่องนี้อย่างเข้มข้น เนื่องจากกว่า 30 วันที่ผ่านมา น่าจะได้ข้อสรุปว่าจะเพิ่มหรือลดงบประมาณอย่างไร ในจุดไหนบ้าง โดยผ่านกระบวนการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน สำหรับงบประมาณส่วนใหญ่ได้ตามที่ตั้งเสนอของบฯ ไว้ โดยจะเน้นงบประมาณลงพื้นที่เขตมากขึ้น เช่น การก่อสร้างและปรับปรุงถนน การก่อสร้างฝายถนน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายเส้นเลือดฝอย รวมถึงงบประมาณที่จะพัฒนาเส้นเลือดใหญ่ เช่น ก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ การติดตั้งเซ็นเซอร์วัดการสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวที่จะติดตั้งบนอาคารสูงของโรงพยาบาลแห่งใหม่ ก็ได้ตามที่เสนอของบประมาณไว้ […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

เขื่อนเจ้าพระยาระบายแตะ 2,000 ลบ.ม./วินาที หน่วงน้ำเขื่อนป่าสักฯ

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – กรมชลประทานจะระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 2,000 ลบ.ม./วินาที ช่วงบ่ายวันนี้ ห่วงผลกระทบพื้นที่ด้านท้าย จึงปรับลดการระบายจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เพื่อให้น้ำเหนือระบายสู่อ่าวไทยได้มีประสิทธิภาพขึ้น ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ กรมชลประทาน ระบุว่า เช้าวันนี้ที่สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,101 ลบ.ม./วินาที และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเมื่อคืนที่ผ่านมากรมชลประทานได้ปรับเพิ่มการระบายจากเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท จาก 1,900 ลบ.ม./วินาที เป็น 1,950 ลบ.ม./วินาที ทั้งนี้บริหารจัดการน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ด้วยการหน่วงน้ำไว้ด้านเหนือ พร้อมรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งตามศักยภาพของคลอง แต่เนื่องจากปริมาณน้ำที่ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นดังกล่าว จะทำให้มีพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำบริเวณด้านเหนือเขื่อนที่ได้รับผลกระทบได้แก่ กรมชลประทานจำเป็นต้องทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาตั้งแต่ 10.00 น. เป็นต้นไป จากอัตรา 1,950 ลบ.ม./วินาที ให้เป็น 2,000 ลบ.ม./วินาที ภายในเวลา 15.00 น. ของวันนี้ (12 ก.ย.) และคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำทางตอนบนและฝนที่ตกในระยะนี้ […]