รมว.คมนาคม มอบของขวัญปีใหม่ 2568 รวม 32 รายการ

กรุงเทพ 4 ธ.ค.- “สุริยะ” เปิดของขวัญปีใหม่ 2568 มอบความสุข “I – SMART” ครบทุกโหมดการเดินทาง รวม 32 รายการ ใช้ฟรี “มอเตอร์เวย์ – ทางด่วน – จอดรถสนามบิน” แจกของที่ระลึก พร้อมขยายเวลารถไฟฟ้า – รถเมล์คืนเคานต์ดาวน์ถึงตี 2 คาดช่วงเทศกาลฯ มีปริมาณการจราจรเข้า – ออกกรุงเทพฯ รวม 17.37 ล้านคัน สั่งหน่วยงาน “คมนาคม” คุมเข้มระบบขนส่งสาธารณะ ย้ำ! อุบัติเหตุต้องเป็น “ศูนย์”


นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ที่จะถึงนี้ กระทรวงคมนาคมได้จัดทำแผนอำนวยความสะดวกประชาชนในการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ที่คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา และท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังได้เตรียมของขวัญปีใหม่ที่จะมอบให้กับประชาชนเพื่อฉลองเทศกาลปีใหม่นี้อย่างมีความสุข สะดวก ปลอดภัย และมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่เหมาะสม ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงคมนาคมเตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกรองรับการเดินทางของพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ และมีประสิทธิภาพสูงสุด

สำหรับของขวัญปีใหม่ 2568 นั้น กระทรวงคมนาคมร่วมส่งความสุขให้พี่น้องประชาชน ภายใต้แนวคิด “I – SMART” รวม 32 รายการ ประกอบด้วย I = I wish you full of happiness : “ส่งสุขทั่วไทย ใส่ใจเข้าถึงทุกคน” เช่น เปิดให้ประชาชนใช้บริการมอเตอร์เวย์ M7 กรุงเทพฯ – บ้านฉาง และ M9 ฟรี พร้อมเปิดให้ทดลองใช้บริการมอเตอร์เวย์ M81 สายบางใหญ่ – กาญจนบุรี และ M6 สายบางปะอิน – สระบุรี – นครราชสีมา ช่วง อ.ปากช่อง – ทางเลี่ยงเมืองนครราชสีมา รวมทั้งยกเว้นค่าผ่านทางทางพิเศษบูรพาวิถีและกาญจนาภิเษก เป็นต้น


นอกจากนี้ S = Serving happiness and safety to everyone : “เสิร์ฟสุข ปลอดภัย ต่อใจทุกคน” เช่น จัดกิจกรรมตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย ที่มีป้ายประชาสัมพันธ์ “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย” เป็นต้น โดยการเดินทางของประชาชนนั้น ต้องมีความปลอดภัยและถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ ในส่วนของ M = Make you smile more than ever : “คมนาคมต่อเนื่อง ฟูเฟื่องรอยยิ้ม” โดยทุกการสัญจรช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 บนโครงข่ายคมนาคมนั้น ต้องมีความต่อเนื่อง เช่น ให้บริการรถโดยสารเชื่อมต่อท่าอากาศยาน สถานีขนส่งฯ และสถานีรถไฟ และขยายเวลาเดินรถโดยสารที่ผ่านสถานที่จัดงาน Countdown 3 แห่งใหญ่ ได้แก่ Central World, One Bangkok และ Icon Siam จนจบกิจกรรม เป็นต้น

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า A = Always smile throughout the journey : “ให้ทุกคนยิ้มกว้าง สะดวกตลอดทั้งเส้นทาง” ซึ่งทุกการเดินทางตลอดเส้นทาง มุ่งหวังให้ประชาชนมีความสุขตามนโยบาย “คมนาคมเพื่อโอกาสประเทศไทย” เช่น อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยแก่ผู้ใช้ทางในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ 2568 พร้อมเปิดให้บริการจุดกางเต็นท์ฟรี มีเจ้าหน้าที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และเปิดเส้นทางใหม่ ถนนสาย มห.3019 แยก ทล.212 – บ้านบางทรายใหญ่ อ.เมือง จ.มุกดาหาร รวมถึงเปิดให้บริการที่จอดรถฟรีที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และภูเก็ต เป็นต้น

ขณะที่ R = Reaching people’s heart : “บริการด้วยรักฝากไป สู่ใจทุกคน ด้วยราคาสมเหตุผล” โดยกระทรวงคมนาคมร่วมกับ 6 สายการบิน จัดทำตั๋วโดยสารราคาพิเศษ และมอบคูปองส่วนลดค่าผ่านทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ ในราคาพิเศษถูกกว่าราคาเต็ม 10% เป็นต้น และ T = The reason is you : “บริการด้วยเทคโนโลยี เพราะคุณคือคำตอบของการให้บริการ” เช่น การให้บริการแอปพลิเคชัน “Highway Traffic” สำหรับวางแผนการเดินทางและให้บริการระบบนำทางการเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ (NAMTANG) โดยมีการปรับปรุงการแสดงผลของเว็บแอปฯ และโมบายแอปฯ ให้เหมาะสมกับปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ขอให้คำมั่นสัญญาว่า กระทรวงคมนาคมพร้อมดูแลและอำนวยความสะดวกรองรับการเดินทางของพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 อย่างแน่นอน


นายสุริยะ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมได้เตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวก ในการเดินทางให้กับพี่น้องประชาชนตลอดช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ซึ่งมีวันหยุดราชการติดต่อกันหลายวัน จะมีประชาชนเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคลเข้า – ออกกรุงเทพฯ 17,373,272 คัน แบ่งเป็น ทางหลวงสายหลัก และมอเตอร์เวย์ 7,255,500 คัน และทางพิเศษ 10,117,772 คัน การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ทั้งรถโดยสาร รถไฟ เรือ และเครื่องบิน 17,002,845 คน-เที่ยว แบ่งเป็นเดินทางภายในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 12,852,356 คน-เที่ยว ระหว่างจังหวัด 2,300,661 คน-เที่ยว และระหว่างประเทศ 1,849,828 คน-เที่ยว พร้อมกำชับหน่วยงานในสังกัดบูรณาการขับเคลื่อนแผนให้เกิดผลสัมฤทธิ์ ภายใต้หัวข้อการรณรงค์ “เทศกาลความสุข ทุกที่ทั่วไทย เดินทางสะดวก ปลอดภัย บนโครงข่ายคมนาคม” คลอบคลุมในทุกมิติ ประกอบด้วย 3 มาตรการ ดังนี้

  1. มาตรการและแผนรองรับการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคล
  • ประชาสัมพันธ์แนะนำให้ประชาชนมาใช้ถนนสายรอง เพื่อลดปริมาณจราจรที่หนาแน่นของถนนสายหลัก อาทิ ทางเลี่ยงสู่ภาคเหนือ ใช้ ทล.32 (ช่วงอ่างทอง – สิงห์บุรี) และ ทล.1 (ช่วงวังน้อย – หนองแค) ภาคอีสาน ใช้ ทล.204 และ ทล.304 ภาคตะวันออก ใช้ ทล.3 (สุขุมวิท) ทล.34 ถนนเทพรัตน (บางนา – ตราด) และทางพิเศษบูรพาวิถี ภาคใต้ ใช้ ทล.338 (ปิ่นเกล้า – นครชัยศรี)
  • ขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งหลีกเลี่ยงการขนส่งสินค้าช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 และไม่จอดรถทิ้งไว้บนไหล่ทาง กรณีจำเป็นต้องใช้รถให้เดินรถช่องทางซ้ายสุดเท่านั้น
  • ผู้ประกอบการขนส่งที่มีการติดตั้งระบบ GPS ในรถ ให้ติดตามการใช้ความเร็วรถอย่างต่อเนื่อง ผ่านแอปฯ DLT- GPS และแจ้งเตือนเมื่อใช้ความเร็วเกินกำหนด และกำชับผู้ประกอบการที่ขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงให้วางแผนการรับ – ส่งสินค้าให้ไม่กระทบต่อการเดินทางของประชาชน โดย บก.ทล. ได้ออกประกาศห้ามรถบรรทุกวิ่งบนถนนบางสายวันที่ 27 – 29 ธันวาคม 2567 และ 1 – 2 มกราคม 2568
  1. มาตรการและแผนรองรับการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ
  • ให้ทุกหน่วยงานเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน การเกิดอุบัติเหตุของระบบขนส่งสาธารณะจะต้องเป็นศูนย์ ไม่ขับรถเร็วเกินที่กฎหมายกำหนดและไม่เกินชั่วโมงทำงาน
  • สำหรับผู้ประจำรถโดยสาร เรือโดยสาร รถไฟ ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ และปริมาณแอลกอฮอล์ในลมหายใจต้องเป็นศูนย์มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
  • ตรวจสอบความพร้อม ณ สถานประกอบการ และพนักงานขับรถ ณ สถานีขนส่งฯ และจุดจอด ตรวจความพร้อมของตัวรถและอุปกรณ์ส่วนควบของรถตามรายการ Checklist และเพิ่มความถี่ออกตรวจจับความเร็วรถในเส้นทางสายหลักทั้งขาเข้า/ออก ตรวจสอบพฤติกรรมการขับรถจากข้อมูลระบบ GPS แบบเรียลไทม์
  • จัดผู้ตรวจการให้คำแนะนำและให้ความรู้แก่ผู้โดยสาร เน้นย้ำให้ผู้ประกอบการกำกับการทำงานของบุคลากรจัดการด้าน TSM และมีมาตรการเรียกรถโดยสารสองชั้นมาตรวจสอบย้ำความปลอดภัย
  • ให้เข้มงวดกับผู้ให้บริการการบินโดยเฉพาะในกรณีเครื่องล่าช้า และจะต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบถึงสิทธิประโยชน์ที่ควรได้รับในกรณีที่มีการเลื่อน / ยกเลิกเที่ยวบิน อย่างทันท่วงที
  • ขอความร่วมมือ มท. ในการรณรงค์การสวมหมวกนิรภัย ห้ามไม่ให้ประชาชนที่เมาสุราออกจากบ้าน มอบหมายเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกับเจ้าหน้าที่ รฟท. เฝ้าระวังบริเวณจุดตัดทางรถไฟและทางลักผ่าน การดูแลถนนบริเวณจุดเสี่ยง ตั้งจุดตรวจและประชาสัมพันธ์การสวมหมวกนิรภัย ดื่มไม่ขับ ไม่ขับรถเร็ว เพื่อลดอุบัติเหตุทางถนน
  • ตรวจสอบไฟฟ้าส่องสว่างในพื้นที่รับผิดชอบทุกสายทางเรียบร้อย และกล้อง CCTV ทุกตัวให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตลอดเวลา
  • ให้รายงานข้อมูลอุบัติเหตุเข้าสู่ระบบรายงานข้อมูลอุบัติเหตุของกระทรวงคมนาคม (TRAMS) ตามแนวทางปฏิบัติเพื่อสรุปข้อมูลรายงานผู้บริหารทราบภายในช่วงเช้าของทุกวัน
  • ตรวจสอบโป๊ะ/ท่าเรือ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ต้องมีความปลอดภัยอย่าให้เกิดอุบัติเหตุ
  1. การเตรียมการรองรับจราจรในช่วง Countdown ในพื้นที่กรุงเทพฯ
  • ประสานความร่วมมือกับหน่วยงาน อาทิ สตช. กทม. จัดทำแผนอำนวยความสะดวกในการเดินทาง เตรียมพื้นที่จอดรถ และมาตรการด้านความปลอดภัย รวมถึงการระบายคนกลับบ้านด้วยระบบขนส่งสาธารณะ
  • ขสมก. ได้ขยายเวลาเดินรถโดยสารที่ผ่านสถานที่จัดงาน Countdown ถึง 02.00 น. เพื่อรองรับการเดินทางงาน Countdown 3 แห่งใหญ่ ได้แก่ Central World One Bangkok และ Icon Siam จนจบกิจกรรม
  • ขยายเวลาเดินรถโดยสารที่ผ่านสถานที่จัดงานสวดมนต์ข้ามปี 4 แห่ง ถึง 02.00 น. เพื่อรองรับประชาชนบริเวณวัดพระเชตุพนฯ วัดสระเกศฯ ท้องสนามหลวง และวัดไร่ขิง
  • ขยายเวลาเปิดให้บริการเดินรถไฟฟ้ามหานครทุกเส้นทาง (พร้อมที่จอดรถ) ในคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ตั้งแต่ 31 ธันวาคม 2567 เวลา 06.00 น. – 1 มกราคม 2568 เวลา 02.00 น. และรถไฟชานเมืองสายสีแดง ขยายเวลาให้บริการในวันส่งท้ายปีเก่า 31 ธันวาคม 2567 ถึง 02.00 น.

“สุดท้ายนี้ ผมและผู้บริหารกระทรวงคมนาคม หวังเป็นอย่างยิ่งว่า พี่น้องประชาชนจะได้เดินทางไปร่วมฉลองเทศกาลปีใหม่ 2568 นี้ อย่างมีความสุข สะดวก ปลอดภัย เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ตลอดทั้งเส้นทาง” นายสุริยะ กล่าว.-513-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เมียติด GPS รถผัว ตามง้อถึงบ้าน ฝ่ายชายเมิน ยิงดับ

ภรรยาติด GPS รถสามี ตามง้อไม่สำเร็จ ซัดด้วยลูกโม่ตายคาใต้ถุนบ้าน คาดปมทะเลาะหึงหวง คิดจบชีวิตตัวเองตาม แต่พ่อสามียึดปืนไว้ทัน

ครูสูญเงิน 1.2 ล้านบาท มิจฉาชีพหลอกเป็นที่ดิน-จนท.ธนาคาร

ครูสาวชาวอุบลราชธานี ถูกมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นหน่วยงานราชการ และเจ้าหน้าที่ธนาคาร ใช้เบอร์ธนาคารโทรหาจึงหลงเชื่อ สูญเงินกว่า 1.2 ล้านบาท

สุราษฎร์ฯ คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงท่วมบ้าน-รีสอร์ต

ฝนตกหนัก-คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงซัดบ้านพัก-รีสอร์ต อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พังเสียหาย 4 หลัง เตือนเรือประมงงดออกจากฝั่ง

New threats in Los Angeles as wildfire switches direction

ไฟป่าแอลเอเปลี่ยนทิศสร้างปัญหาใหม่

ลอสแอนเจลิส 12 ม.ค.- รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเกิดภัยคุกคามใหม่วานนี้ เมื่อไฟป่าที่โหมไหม้เผาหลายพื้นที่ทั่วเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอเคาน์ตี้ได้เปลี่ยนทิศทาง ทำให้ต้องสั่งอพยพประชาชนเพิ่มเติม และกลายเป็นปัญหาท้าทายใหม่สำหรับทีมนักดับเพลิง พื้นที่เขตแคลิฟอร์เนียใต้เผชิญไฟป่ามาตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม โดยเกิดไฟป่าพร้อมกัน 6 จุดทั่วแอลเอเคาน์ตี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 คน  ผู้สูญหาย 13 คน  บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างเสียหายหรือถูกทำลายรวมแล้วกว่า 10,000 หลัง คาดว่าความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินจะเพิ่มขึ้นอีก เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบพื้นที่ประสบภัยได้อย่างละเอียด ขณะนี้ยังคงมีประชาชน 153,000 คนอยู่ภายใต้คำสั่งอพยพ และอีก 166,800 คน เสี่ยงต้องอพยพเนื่องจากมีการประกาศเคอร์ฟิวในทุกพื้นที่ที่มีการอพยพประชาชนหนีไฟป่า ขณะเดียวกันเครื่องบินกองทัพอากาศของเม็กซิโกได้ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเมื่อวานนี้ เพื่อนำทีมบุคคลากร 74 คนจากกองทัพบกและคณะกรรมาธิการป่าไม้แห่งชาติ ไปช่วยปฏิบัติการดับไฟป่าที่กำลังลุกไหม้ลามไม่หยุดทั่วเขตแคลิฟอร์เนียใต้ ภารกิจด้านมนุษยธรรมดังกล่าวครอบคลุมทั้งปฏิบัติการดับไฟป่าและปกป้องพลเรือน ขณะที่กงสุลเม็กซิโกในเมืองแอลเอประกาศไม่ปิดทำการและเสนอให้ที่พักพิงกับผู้ประสบภัยชาวเม็กซิโก ไม่ว่าจะมีสถานะเป็นผู้อพยพหรือไม่ ปัจจุบันมีชาวเม็กซิโกหรือลูกหลานชาวเม็กซิโกอาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียคิดเป็นเกือบร้อยละ 30 ของประชากรทั้งรัฐ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

รมช.คลัง เร่งดัน กม.สถานบันเทิงครบวงจร ยันไร้เส้นสาย-เกี้ยเซียะ

‘รมช.คลัง’ ลั่นเร่งดันกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ บอกทุนจดทะเบียนหมื่นล้าน ไม่จำกัดสัญชาติ แต่ต้องมีคุณภาพ ยันไม่มีเส้นสาย-เกี้ยเซียะในรัฐบาล

แอปเงินกู้มือถือ

ยังคุยไม่เคลียร์ “ประเสริฐ” เรียก OPPO-Realme เเจงเพิ่ม

“ประเสริฐ” เตรียมเรียก OPPO-Realme มาเเจงเพิ่ม หลังคุยไม่เคลียร์ พร้อมถกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเเจ้งต้นทางแอปฯ เงินกู้ผิดปกติ

หนาวจัด

อ.น้ำหนาว เพชรบูรณ์ หนาวจัด -3 องศาฯ

อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ หนาวจัด ติดลบ 3 องศาฯ ทำให้เกิดแม่คะนิ้งเกาะตามพื้นและหลังคารถ ส่วนแม่ค้าเสื้อผ้ามือสองชาวโคราช แจกเสื้อกันหนาวชาวบ้านฟรี หลังอุณหภูมิในพื้นที่แตะ 10 องศาฯ