กรุงเทพฯ 3 ธ.ค. – ผู้ว่าการ ธปท.ปาฐกถาพิเศษเกี่ยวกับนโยบายการเงินนำประเทศรับมือบริบทโลกใหม่ ซึ่งมีหลายปัจจัยส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกผันผวน ส่วนผู้จัดการ ตลท. เสนอ Flagship project “Carbon Ecosystem” สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ low carbon economy ซึ่งเป็นเทรนด์เศรษฐกิจใหม่ของโลก
วารสารการเงินธนาคาร ก้าวสู่ปีที่ 44 จัดสัมมนา ในหัวข้อ Thailand Next Move 2025 “Resiliency for an Uncertain World” รับมือบริบทโลกใหม่ที่ไม่นิ่งจากสถานการณ์ความขัดแย้งในสมรภูมิสงครามการค้า ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ของชาติมหาอำนาจที่มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น ส่งผลต่อความผันผวนของเศรษฐกิจทั่วโลก การขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยคำนึงถึงบริบทที่เปลี่ยนแปลงไปจะเพื่อเป็นการกำหนดจุดยืนของไทยในเวทีโลก รวมถึงเป็นวางแนวทางในการรับมือความท้าทายไปพร้อมกับแผนการสร้างศักยภาพด้านตลาดเงินและตลาดทุนไทยสำหรับการยกระดับเศรษฐกิจไทย
นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “Thailand’s Monetary and Financial Policy: Building Resiliency for an Uncertain World” นโยบายการเงินนำประเทศรับมือบริบทโลกใหม่ โดยระบุว่านโยบายเศรษฐกิจจะต้องมี Resiliency ซึ่งไม่ใช่แค่เสถียรภาพ (stability) แต่ต้องทั้งทนทานและยืดหยุ่น เมื่อล้มแล้วต้องลุกได้เร็ว เศรษฐกิจจะ resilient ได้ต้องมี 3 องค์ประกอบคือ เสถียรภาพ มีภูมิคุ้มกันทางการเงินและทางเลือกอื่นๆ รวมถึงการเติบโตจากโอกาสใหม่
สำหรับ ธปท. วางนโยบายทางการเงินเพื่อให้เศรษฐกิจไทยมี resiliency ตัวอย่างงานสำคัญที่ดำเนินการไปแล้วเช่น แก้หนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืน โดย 9 เดือนแรกปี 2567 สถาบันการเงินปรับโครงสร้างหนี้แล้ว 6.1 ล้านบัญชี มูลค่า 2.1 ล้านล้านบาท ในวันที่ 11 ธันวาคมนี้ จะออกมาตรการช่วยลูกหนี้รายย่อยและ SMEs กลุ่มเปราะบางที่ยังไปต่อได้ ส่วนการจัดการภัยทุจริตทางการเงิน ได้ออกมาตรการจัดการบัญชีม้าเข้มข้นขึ้นและเข้มในการเปิดบัญชีกลุ่มเสี่ยงมากขึ้นต้ังแต่สิงหาคม 2567 โดยข้อมูล ณ ตุลาคม 2567 ระงับบัญชีม้าไปแล้ว 1.4 ล้านบัญชีใน 1.17 แสนรายชื่อ สถาบันการเงินทยอยเพิ่มทางเลือกผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้าปลอดภัยขึ้นในไตรมาส 4 ของปี 2567
ธปท. มุ่งมั่นในการวางรากฐานการเงินดิจิทัล ภายใต้หลัก 3 Open
- Open infrastructure พัฒนา cross-border payment: QR payment จะเชื่อมกับเกาหลีใต้และอินเดียในปี 2568 mBridge จะเริ่มให้บริการธุรกรรมเงินบาทได้ปลายปี 2568 ตั้งกลไกค้ำประกันเครดิตที่ยืดหยุ่นขึ้น โดยจะเปิดรับฟังความเห็นต่อร่างพ.ร.บ. ภายในกลางปี 2568
- Open data Ffpโครงการ Your Data จะเริ่มรับส่งข้อมูลนอกภาคการเงินในปี 2568 และข้อมูลภาคการเงินในปี 2569
- Open competition โดย Virtual Bank ประกาศผลการพิจารณาคัดเลือกกลางปี 2568 และเริ่มเปิดดำเนินการปี 2569
นอกจากนี้ ธปท. สนับสนุนธุรกิจเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นกระแสโลกใหม่ โดยครอบคลุมภาคเกษตร ภาคอาคาร/อสังหาริมทรัพย์ ภาคอุตสาหกรรมการผลิต ภาคการจัดการของเสีย ปัจจุบันเชื่อมแล้วกับ 8 ประเทศได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม กัมพูชา ลาว ญี่ปุ่น และฮ่องกง
นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า โครงการเรือธง (Flagship project) คือ “Carbon Ecosystem” การสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ low carbon economy โดยทำงานร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งนี้ Ecosystem ครอบคลุมศูนย์ซื้อขายคาร์บอนเครดิต การพัฒนาบุคลากร และสนับสนุนด้วยเครื่องมือคำนวณ carbon footprint ขององค์กร (SET Carbon) จะส่งเสริมการพัฒนา “Carbon Professional” โดยเฉพาะกลุ่มผู้ทวนสอบ (verifier) รองรับความต้องการของภาคธุรกิจ พร้อมศึกษารูปแบบการจัดตั้งตลาดคาร์บอนเครดิต โดยจะสนับสนุนองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) จัดตั้งตลาดคาร์บอนเครดิต เมื่อพ.ร.บ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีผลบังคับใช้
ทั้งนี้ เห็นว่าตลาดทุนต้องปรับเปลี่ยนตามพัฒนาการต่างๆ โดยเปิดกว้างโอกาสทางธุรกิจอย่างครอบคลุม พร้อมพัฒนานวัตกรรมการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย
ตลท. ยังคงมุ่งมั่นในแนวทาง Building Trust & Confidence สร้างความเชื่อถือและเชื่อมั่น โดยจะนำ AI มาช่วยในการกำกับตลาดทุนและแจ้งเตือนแก่ผู้ลงทุนอย่างทันท่วงที สนับสนุนการสร้างบรรษัทภิบาลให้กับแก่บริษัทจดทะเบียน ที่ง่านหน่วยงานตลาดทุน หน่วยงานกำกับ ภาครัฐ ร่วมบูรณาการความร่วมมือ ยกระดับความเชื่อมั่นและเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลผู้ลงทุน ตลท. ร่วมกับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ยกระดับความร่วมมือป้องปรามการ กระทำความผิดเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ แลกเปลี่ยน ข้อมูลลดความซ้ำซ้อน และประสานการทำงานรวดเร็วยิ่งขึ้นเพื่อเป็นการพัฒนาตลาดทุนไทยอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน. -512 – สำนักข่าวไทย