นายกฯ สั่งตั้งทีมรับมือ นโยบายเศรษฐกิจ “ทรัมป์”

ทำเนียบฯ 3 ธ.ค. – นายกฯ สั่งตั้งทีมรับมือ นโยบายเศรษฐกิจ “ทรัมป์” เร่งจัดทำแผนรองรับขยายลงทุนจากต่างชาติ


นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สั่งการในที่ประชุม ครม. ในเรื่องการค้าการลงทุน หลังจากนายกรัฐมนตรีได้พบกับนักลงทุน ทั้งในช่วงที่เดินทางไปต่างประเทศ และการพบกับสมาคมการค้าและภาคธุรกิจต่าง ๆ ทำให้เห็นถึงโอกาสของประเทศไทยที่จะดึงดูดนักลงทุน ภายใต้สถานการณ์ที่มีความเสี่ยงจากภูมิรัฐศาสตร์การเมืองระหว่างประเทศ (GEOPOLITICS) โดยเฉพาะนโยบายทางการค้า การลงทุนของประธานาธิบดีทรัมป์ บริษัทจำเป็นต้องเร่งปรับตัวและปรับแผนในการลงทุนในภูมิภาค ASEAN
โดยฝากเร่งด่วน 4 เรื่อง เพื่อช่วยดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ดังนี้
1) การพัฒนาพื้นที่สำหรับรองรับการลงทุน โดยเฉพาะการจัดสรรและพัฒนาที่ดินให้เป็นพื้นที่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่
2) ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน โดยบริษัทรายใหญ่ในอุตสาหกรรมเป้าหมายต้องการพลังงานหมุนเวียนสะอาด (Direct PPA)
3) มาตรการรองรับ Global Minimum Tax ซึ่งจำเป็นต้องออกกฎหมายให้ทันการบังคับใช้ในปี 2568 ทั้งในส่วนของการจัดเก็บภาษีขั้นต่ำและมาตรการด้านสิทธิประโยชน์
4) การแก้ไขกฎระเบียบอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการประกอบธุรกิจหรือ Ease of Doing Business เช่น การผ่อนปรนเงื่อนไขการจ้างงานชาวต่างชาติของกระทรวงแรงงาน โดยเฉพาะในกลุ่มบุคลากรทักษะสูง โดยมอบหมายให้ BOI จัดทำรายละเอียดมาตรการ ผ่านรองนายกฯ พิชัย เพื่อมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

รัฐบาลได้มีมาตรการโครงการสินเชื่อชะลอการขายยาง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรผู้ปลูกยาง เพื่อรักษาเสถียรภาพราคายางในตลาด อย่างไรก็ตาม ยังมีปัญหาการลักลอบนำยางเถื่อนเข้ามาจากต่างประเทศตามแนวชายแดน ทำให้ราคายางในประเทศต่ำลง จึงสั่งการให้กระทรวงกลาโหม หน่วยงานความมั่นคง เร่งปราบปรามปัญหาการลักลอบการนำเข้ายางเถื่อนจากต่างประเทศอย่างเร่งด่วน ตลอดจนขอให้กรมศุลกากร กระทรวงการคลัง มีมาตรการที่เข้มงวดในพิธีศุลกากรตามแนวชายแดน เพื่อไม่ให้เกิดการลักลอบยางเถื่อนเข้า และออกจากประเทศ โดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร.-515- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]