“เอกนัฏ” ลุยภาคเหนือ พร้อมรับมือ PM 2.5-น้ำท่วม

เชียงใหม่ 29 พ.ย. – “เอกนัฏ” ยกทัพลงพื้นที่เชียงใหม่-ลำพูน เดินหน้า “ปฏิรูปอุตสาหกรรม สู่เศรษฐกิจยุคใหม่” พร้อมเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและปัญหาฝุ่น PM 2.5


นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ลงพื้นที่ตรวจราชการและประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ณ จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดลำพูน ระหว่างวันที่ 29-30 พฤศจิกายน 2567 เพื่อติดตามการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการในพื้นที่ โดยมุ่งเน้น 3 ด้านหลัก คือ สู้ : การจัดการกากสารพิษ เพื่อปกป้องสุขภาพของประชาชน, Save : การสร้างความเท่าเทียมในการแข่งขันของ SME ไทย เร่งช่วยเหลือ SME ให้เข้าถึงแหล่งทุนและโอกาสทางธุรกิจ, สร้าง: การสร้างอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มุ่งสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน

รมว.อุตสาหกรรม เผยแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมปี 2567 หลังปีนี้พื้นที่ภาคเหนือประสบภัยน้ำท่วมรวม 8 จังหวัด (เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน เชียงราย น่าน พะเยา และแพร่ (ข้อมูลสะสมตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค.– 12 พ.ย.67) ซึ่งพบว่ามีสถานประกอบการได้รับผลกระทบจากอุทกภัย จำนวน 207 แห่ง มูลค่าความเสียหายรวม จำนวน 441,926,937 บาท กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ให้การช่วยเหลือโดยให้คำปรึกษาแนะนำการซ่อมบำรุงเครื่องจักร ระบบบำบัดน้ำเสียเบื้องต้นให้แก่โรงงานอุตสาหกรรมหลังน้ำลด จัดทำแผนการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเกิดสถานการณ์ครั้งต่อไป ด้านสินเชื่อจากกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐได้พิจารณาเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำสำหรับฟื้นฟูเครื่องจักร การยกเว้นค่าธรรมเนียมโรงงาน จำนวน 18 กิจการ โดยวางแนวทางการป้องกัน/แก้ไขปัญหาอุทกภัยผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม ผ่าน 3 มาตรการช่วยเหลือ-เยียวยา-ฟื้นฟู 1) มาตรการระยะสั้น : เร่งด่วนช่วยเหลือผู้ประสบภัยอุทกภัย 2) มาตรการระยะกลาง : เยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้น 3) มาตรการระยะยาว : ฟื้นฟูผู้ประกอบการและสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของพื้นที่


ส่วนมาตรการเร่งรัดแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 กลุ่มจังหวัดภาคเหนือ ได้กำชับให้ผู้ประกอบกิจการโรงงาน จัดทำแผนตรวจ กำกับ ดูแลโรงงานเชิงรุก แจ้งเตือนเหตุอัคคีภัยและอุบัติเหตุจากการประกอบกิจการพร้อมออกมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยเก็บเกี่ยวอ้อยสดคุณภาพดีเพื่อลดฝุ่น PM2.5 ฤดูการผลิตปี 2567/2568 ลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสุขภาพอนามัยของประชาชน. -517-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

หวยอลวน12ล้าน

หวย 12 ล้านพาวุ่น “ผู้กองเข้ม” แจ้งความ “ยายแหล่”

หวยอลวนมาอีกแล้ว หลังยายแหล่ แม่ค้าร้านลาบก้อย ที่เพิ่งถูกสลากฯ เป็นเศรษฐีใหม่ 12 ล้านบาท แต่มีตำรวจรายหนึ่ง ไปแจ้งความ ว่าถูกยายแหล่ ยักยอกทรัพย์

แอปฯ “ล่าเหรียญ” ฟีเวอร์ ทำชาวบ้านเดือดร้อน

แอปพลิเคชัน “Jagat” ฟีเวอร์ ทำวัยรุ่นว้าวุ่น แห่ล่าเหรียญแลกเงินที่กระจายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ทำชาวบ้านและผู้ประกอบการเดือดร้อน ตำรวจเตือนการแชร์พิกัดตำแหน่งอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเฝ้าติดตามและฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สินได้ และอาจเสี่ยงเจอข้อหาบุกรุก