เปรู 13 พ.ย.-“พิชัย” รมว.พาณิชย์ เดินหน้าเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) หรือเจรจาจัดทำความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจไทย-เกาหลีใต้ (EPA) เพื่อให้ได้ข้อสรุปภายในปีหน้า มั่นใจลงนามได้ในช่วงประชุมเอเปค 2025 ที่เกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพ ซึ่งจะช่วยต่อยอดเปิดตลาดการค้า-การลงทุน เผยนักธุรกิจเกาหลีใต้อยากมาลงทุนในไทย โดยเฉพาะยานยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่-เซมิคอนดักเตอร์
เมื่อเวลา 16.00 น. (เวลาท้องถิ่นเปรู) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือทวิภาคี กับนายชอง อิน-กโย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้า อุตสาหกรรมและพลังงานของเกาหลีใต้ ก่อนการเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีเอเปค และการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ระหว่างวันที่ 14-16 พฤศจิกายน 2567 ณ กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู กล่าวว่า จากการหารือทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่าไทยและเกาหลีใต้ควรยกระดับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยเดินหน้าเจรจาจัดทำความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ไทย – เกาหลีใต้ (Economic Partnership Agreement: EPA) ให้สามารถสรุปผลการเจรจาได้ภายในปี 2568 ตามที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ ซึ่งจะเป็นการต่อยอดการเปิดตลาดการค้าสินค้า การค้าบริการ และการลงทุนเพิ่มเติมจากความตกลงที่ไทยกับเกาหลีใต้เป็นภาคีร่วมกันอยู่แล้ว ได้แก่ ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน – เกาหลีใต้ (AKFTA) และความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) รวมทั้งช่วยเพิ่มความร่วมมือในเรื่องใหม่ ๆ ระหว่างกัน เช่น การค้าดิจิทัล และห่วงโซ่การผลิต เป็นต้น โดยไทยได้ขอให้ฝ่ายเกาหลีใต้พิจารณาเปิดตลาดสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพและมาตรฐานสูงของไทย เช่น สินค้ากลุ่มผลไม้เมืองร้อน เช่น มะม่วง มังคุด และสับปะรด กุ้งสดและแปรรูป เนื้อไก่สดและแปรรูป
นายพิชัย ยังใช้โอกาสนี้เชิญชวนนักธุรกิจเกาหลีใต้เข้ามาลงทุนในไทย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเป้าหมาย อาทิ อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ อุตสาหกรรมแผงวงจรพิมพ์ หรือ PCB การแพทย์และเทคโนโลยีชีวภาพ ดิจิทัล และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ซึ่งล้วนเป็นอุตสาหกรรมที่เกาหลีใต้มีศักยภาพสูง เพื่อขยายการค้าการลงทุนสองฝ่ายให้เพิ่มมากขึ้น
นายพิชัย กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังได้หารือกับเกาหลีใต้ถึงการรื้อฟื้นกลไกการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า หรือ JTC ระดับรัฐมนตรีที่ห่างหายไปกว่า 20 ปี เพื่อใช้เป็นเวทีหารือระดับนโยบายในการแสวงหาแนวทางการส่งเสริมการค้าและการลงทุน ตลอดจนแก้ไขปัญหาอุปสรรคการค้า การลงทุน และอำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างกัน โดยฝ่ายไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JTC ในช่วงต้นปี 2568 นอกจากนี้ ไทยยังสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพการประชุม APEC ของเกาหลีใต้ที่จะมีขึ้นในปี 2568 นี้ด้วย
ในปี 2566 เกาหลีใต้เป็นคู่ค้าอันดับ 12 ของไทย มีมูลค่าการค้าระหว่างกัน 14,744 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปเกาหลีใต้ 6,073 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ น้ำมันสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์ยาง น้ำตาลทราย แผงวงจรไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์อลูมิเนียม และไทยนำเข้าจากเกาหลีใต้ 8,671 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ แผงวงจรไฟฟ้า เคมีภัณฑ์ และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ทั้งนี้ ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2567 (ม.ค. – ก.ย.) การค้าสองฝ่ายมีมูลค่ารวม 11,478 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นการส่งออก 4,557 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเป็นการนำเข้า 6,921 ล้านดอลลาร์สหรัฐ.-517.-สำนักข่าวไทย