ทิสโก้ ประเมินเลือกตั้งสหรัฐทำตลาดหุ้นผันผวน

กรุงเทพฯ 1 พ.ย. – บล.ทิสโก้ ประเมินเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 5 พ.ย.นี้ กระทบตลาดหุ้น ผันผวน เผยตลาดหุ้นไทยหลังการเลือกตั้งสหรัฐฯ 3 เดือน มักให้ผลตอบแทนเป็นบวกเฉลี่ย +3.2% และมีโอกาสในการปรับตัวขึ้นสูงถึง 82%


นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ล่าสุด ประเมินว่า โอกาสชนะของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สูงกว่านางคามาลา แฮร์ริส และคาดว่าพรรครีพับลิกันจะควบอำนาจมีที่นั่งส่วนใหญ่ในสภา หากเป็นไปตามนั้น ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้สหรัฐฯ (Bond Yield) จะมีทิศทางขาขึ้นหลังเลือกตั้ง แต่จะมาพร้อมกับความผันผวนที่เพิ่มขึ้นด้วย ขณะที่แนวโน้มกำไรตลาดหุ้นไทยที่ยังถูกหั่นลง อาจกดดันตลาดหุ้นไทยเดือนพฤศจิกายนแกว่งพักฐานต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม บล.ทิสโก้ มองว่าเป็นจังหวะในการสะสมหุ้นที่คาดกำไรจะออกมาดีทั้งในไตรมาส 3/2567 ต่อเนื่องถึงไตรมาส 4/2567 และมีความปลอดภัยจากความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ด้วย สำหรับหุ้นเด่น คือ ADVANC, AMATA, BEM, COM7, CPALL, MTC และ TASCO แนวรับสำคัญของดัชนีหุ้นไทยเดือนนี้อยู่ที่ 1,430 จุด และแนวรับถัดไปที่ 1,400-1,410 จุด และแนวต้านสำคัญอยู่ที่ 1,485-1,490 จุด 1,500-1,520 จุด ตามลำดับ


สำหรับมุมมองความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดหุ้นไทยต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ นั้น บล.ทิสโก้คาดการณ์ผลกระทบต่อการลงทุนดังต่อไปนี้
ผลกระทบต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ
กรณี ทรัมป์ ชนะ -คาดว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะปรับขึ้นทันทีจากนโยบายลดภาษีนิติบุคคลจาก 21% เป็น 15% ซึ่งมีการประเมินว่าจะช่วยเพิ่มกำไรของบริษัทใน S&P500 ประมาณ +4% ส่วนกรณี แฮร์ริส ชนะ – การเสนอเพิ่มภาษีนิติบุคคลเป็น 28% ส่งผลลบต่อกำไรประมาณ -5% ถึง -8% เมื่อรวมผลจากนโยบายด้านภาษีอื่น ๆ

ผลกระทบต่อตลาดหุ้นเอเชีย
กรณี ทรัมป์ ชนะ – นโยบายขึ้นภาษีนำเข้า (60% กับจีน, 10% กับประเทศทั่วไป) อาจไม่เป็นผลดีต่อตลาดหุ้นเอเชีย เนื่องจากราคาสินค้านำเข้าสูงขึ้นจะเพิ่มเงินเฟ้อ ทำให้ FED ปรับลดดอกเบี้ยน้อยกว่าที่คาด ขณะที่กรณี แฮร์ริส ชนะ- อาจคลายความกังวลเรื่องภาษีนำเข้า ส่งผลบวกต่อ Sentiment การลงทุนในเอเชีย

ผลกระทบต่อตลาดพันธบัตร
Bond Yield 10 ปีอาจปรับสูงขึ้น เนื่องจากนโยบายทั้งคู่น่าจะส่งผลให้สหรัฐฯ ขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้นคล้ายกัน โดยหาก Trump ชนะและพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากอาจหนุน Bond Yield สูงถึง +40 bps ในขณะที่ Harris ชนะและไม่มีพรรคใดครองเสียงข้างมากทั้งสองสภา อาจส่งผลต่อ Bond Yield มากสุดที่ประมาณ +20 bps


สำหรับสถิติการตอบสนองของตลาดหุ้นหลังการเลือกตั้งสหรัฐฯ (Honeymoon Period) นับตั้งแต่ปี 1930 หรือหลังวิกฤตเศรษฐกิจ “Great Depression” เป็นต้นมาพบว่า หลังการเลือกตั้ง 2 เดือน (พ.ย.-ธ.ค.) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ (DJIA Index) มักให้ผลตอบแทนเป็นบวกเฉลี่ย +3.4% โดยมีระดับความเชื่อมั่นที่ 75% ส่วนตลาดหุ้นไทยหลังการเลือกตั้งสหรัฐฯ 3 เดือน มักให้ผลตอบแทนเป็นบวกเฉลี่ย +3.2% และมีโอกาสในการปรับตัวขึ้นสูงถึง 82% ส่วนหนึ่งเราเชื่อว่าเป็นผลมาจากตลาดหุ้นไทยมักจะเกิดผลกระทบ “January Effect” ในช่วงเดือน ม.ค. ด้วย. -511-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

เชิญชวนร่วมงาน “มหานคร คัลเลอร์ฟูล ปาร์ตี้ 2025”

“กำภู-รัชนีย์” พาทัวร์งาน “มหานคร คัลเลอร์ฟูล ปาร์ตี้ 2025” ณ ลานจอดรถ บมจ.อสมท พบปะผู้ประกาศ ดีเจ และอินฟลูเอนเซอร์ รวมไปถึงศิลปินที่จะมาร่วมสนุกในงาน “มหานคร คัลเลอร์ฟู ปาร์ตี้ 2025”

วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลักพุ่งเหินฟ้าคารถ 6 ล้อ

รอดตายปาฏิหาริย์! วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลัก ก่อนพุ่งเหินฟ้าติดคาบนรถ 6 ล้อ พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือออกมาจากรถ ปลอดภัย

แม่คะนิ้งโผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดอุทยานฯ พรุ่งนี้

จังหวัดเลย อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ “แม่คะนิ้ง” โผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดให้ท่องเที่ยวพรุ่งนี้ (23 ธ.ค.) หลังปิดมา 9 วัน จากเหตุช้างป่า