ภาคเอกชน ลุ้นความท้าทายปี 68

กรุงเทพฯ 30 ต.ค. – กกร.มองหาโอกาสฟื้นเศรษฐกิจปี 68 หวังแรงส่งจากการท่องเที่ยว-มาตรการรัฐ เจอความท้าทาย “หนี้ครัวเรือน” เหนี่ยวรั้งการเติบโต วอนรัฐกระตุ้นบริโภค “คูณสอง” และมาตรการลดหย่อนภาษี


นายสนั่น อังอุบลกุล ประธาน กกร.และประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวในสัมมนาเศรษฐกิจประจำปี 2567 ของสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ในหัวข้อ “เศรษฐกิจไทย โอกาสและความท้าทายในปี 68” ว่า คาดว่าจีดีพีไทยในปี 67 ขยายตัวร้อยละ 2.6-2.7 และเศรษฐกิจในปี 68 ไทยยังต้องเผชิญกับปัญหาและความท้าทายอีกหลายด้าน วอนรัฐบาลเร่งแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ปัญหาการยึดรถกระบะของไฟแนนซ์ เพราะถือว่าเป็นเครื่องมือทำมาหากินของชาวบ้านในต่างจังหวัด เพื่อให้นำกลับไปใช้ประกอบอาชีพได้เหมือนเดิม

ภาคเอกชน ยังต้องการเสนอให้รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นการบริโภค “คูณสอง” เป็นนโยบายเหมือนกับโครงการคนละครึ่ง การส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt) ของกรมสรรพากร เพื่อให้คนมีกำลังซื้อออกไปท่องเที่ยว สำหรับผลเลือกตั้งในสหรัฐ ไม่ว่าทรัมป์ หรือแฮริส ชนะการเลือกตั้ง เมื่อไทยเดินสายกลาง คงไม่มีปัญหา แต่หวั่นผลกระทบเกิดขึ้นกับภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน อาจส่งผลย้อนมาถึงไทย กกร.ยังได้ทำหนังสือนัดหารือกับผู้ว่าการ ธปท.เร็วๆ นี้ เพื่อหาช่องทาง ร่วมกันกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านการปล่อยสินเชื่อประเภทต่าง ๆ เพื่อให้เกิดการลงทุนมากขึ้น


นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2567 คาดเติบโตร้อยละ 2.7-2.8 เพราะมีปัญหาน้ำท่วมภาคเหนือ แต่ยังมีปัจจัยบวกช่วงปลายปีจากการท่องเที่ยว ผลจากโอนเงินให้กับกลุ่มเปราะบาง 10,000 บาท การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ ยอมรับไทยมีปัญหาหนี้ครัวเรือน ต้องรอ คลังและแบงก์ชาติ จะออกมาตรการช่วยเหลือ จึงเสนอแนะให้รัฐบาลออกมาตรการที่มีแรงส่งต่อเนื่องไปยังปีหน้า

นายผยง เสนอแนะให้แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจนอกระบบทั้งการผลิตสินค้าในชุมชน แต่ไม่มีช่องทางจำหน่าย แก้ปัญหาหนี้ให้ธุรกิจรายเล็ก ใช้ทำมาหากิน ต้องการเงินทุนเพิ่ม ต้องช่วยเหลือทั้งด้านสวัสดิการ พัฒนาทักษะ ค่าแรงขั้นต่ำ เพื่อดึงคนเหล่านี้จำนวนมากเข้ามาอยู่ในระบบ เพื่อภาครัฐมีข้อมูลครบถ้วนจะดูแลได้ครอบคลุม เพราะปัญหาแต่ละกลุ่มไม่เหมือนกัน ต้องหาโอกาสให้กับคนตัวเล็ก โอกาสให้คนเข้าทำมาหากิน จะสร้างโอกาสอย่างมีคุณภาพ เหมาะสม และยั่งยืน เน้นเรื่องทักษะ แต่เราจะฉกฉวยโอกาสเหล่านั้นได้อย่างไร

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2567 คาดว่าจะเติบโตร้อยละ 2.7 มองว่าการส่งออกไทยช่วง 9 เดือนแรก เติบโตร้อยละ 3.9 ดัชนีภาคการผลิตลดลงมาติดต่อกัน 6 ไตรมาส ล่าสุดเดือน ก.ย.67 ติดลบร้อยละ 1-2 จึงต้องหาทางส่งเสริมการลงทุนให้กลับมาผลิตสินค้าเหมือนเดิม ยอมรับการท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 36-37 ล้านคน ในปี 2567 สร้างรายได้ 1.7-1.8 ล้านล้านบาท เชื่อว่าในปี 68 รัฐบาลเดินหน้านโยบายซอฟต์พาวเวอร์ จะทำให้ยอดแตะ 40 ล้านคน กกร.เสนอรัฐบาลออกมาตรการ “คูณสอง” คล้ายกับคนละครึ่ง มาตรการลดหย่อนภาษี Easy E-Receipt กระตุ้นการจับจ่ายของคนมีรายได้ในช่วงปลายปีนี้ เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะกระตุ้นการบริโภคได้มากขึ้น


นายเกรียงไกร มองว่าการสร้างโอกาสของไทย ต้องมุ่งในด้านนวัตกรรม รองรับการเปลี่ยนแปลงไปสู่พลังงานสะอาด BCG อุตสาหกรรมสีเขียว Climate change และ Net Zero เพราะกระแสโลกยุคใหม่ ต้องขับเคลื่อนไปด้านนี้ เมื่อสหรัฐและจีน เป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย จึงต้องปรับปรุงการศึกษา พัฒนาบุคลากรให้มีศักยภาพสูง เดินหน้าแก้กฎหมาย กฎระเบียบ ที่เป็นอุปสรรค เป็นต้นทุนแฝงให้กับภาคธุรกิจ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นทั้งคนไทยและต่างชาติ.-515- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สั่งลดขั้นตอนแจ้งเตือนภัย ลั่นยังไม่ได้ SMS แผ่นดินไหว

นายกฯ ลั่น จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รับ SMS เตือนแผ่นดินไหว สั่งลดขั้นตอนแจ้งเตือน “กรมอุตุฯ ไป ปภ. เข้าเครือข่ายมือถือ” ไม่ต้องผ่าน กสทช. ระหว่าง รอ Cell Broadcast เต็มระบบ ก.ค.นี้

ปภ.ยันไม่มีความรู้สึกสั่นไหว ไม่ใช่ผลจากอาฟเตอร์ช็อก

ปภ.แถลงชี้แจงกรณีสถานการณ์อพยพออกจากอาคาร ยืนยันไม่มีความรู้สึกสั่นไหว ไม่ได้เป็นผลกระทบจากอาฟเตอร์ช็อก ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก

นายกฯ ติดตามภารกิจช่วยเหลือคนติดซาก สตง.ถล่ม

นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุอาคาร สตง.ถล่ม ติดตามภารกิจช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างอยู่ใต้ซากอาคาร พร้อมให้กำลังใจทุกหน่วยงานทำงานอย่างเต็มที่

ตึกถล่มแผ่นดินไหว

72 ชั่วโมง ยังมีหวังพบผู้รอดชีวิตตึก สตง. ถล่ม

ใกล้ครบ 72 ชั่วโมงเหตุตึก สตง. ถล่ม แต่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายยังไม่ละความพยายาม และยังมีความหวังในการค้นหาผู้ที่ติดอยู่ใต้ซาก