จับตา เลือกตั้ง ปธน.สหรัฐ ผลต่อการค้า-การลงทุน

กรุงเทพฯ 25 ต.ค.-ตลาดทุนจับตา เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ มีผลต่อค่าเงินบาท หุ้นไทย การค้า การลงทุน หาก “ทรัมป์” มา บาทจะอ่อนยิ่งขึ้น

นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งจำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยไตรมาสสุดท้ายของปี 2567 ขึ้นอยู่กับตลาดใหญ่อย่างสหรัฐ ซึ่งขณะนี้ดัชนีหุ้นขึ้นมามากแล้ว และทุกฝ่ายต่างก็จับตาผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา หาก โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะได้เป็นประธานาธิบดีในการเลือกตั้งสหรัฐฯ ก็จะส่งผลดีสำหรับภาคธุรกิจ เพราะหุ้นที่เกี่ยวข้องกับทรัมป์ ก็ปรับตัวขึ้น แต่หาก คามาลา แฮร์ริส ชนะการเลือกตั้งก็คิดว่าจะส่งผลอีกแบบนึง ซึ่งคาดกันว่าการเก็บภาษีจะสูงขึ้น


“ขณะนี้หุ้นอเมริกาขึ้นสูงแล้ว โอกาสที่จะขึ้นต่อก็เป็นไปได้ยาก หรืออาจจะมีเพียงหุ้นบางประเภทที่ขึ้นได้อีก ส่วนหุ้นไทยก็ยังขึ้นอยู่กับผลประกอบการ แต่ที่สำคัญคือไม่มีเงินจากต่างประเทศเข้ามาซื้ออย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่งอาจจะทำให้การขึ้นของหุ้นถูกจำกัดเอาไว้ตอนนี้ก็ต้องรอดูต่อไปว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญทั้งการเติบโตของจีดีพี ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่จะประกาศในไตรมาส3/67 จะเป็นตัวสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้หุ้นไทยไปต่อได้หรือไม่”นายก้องเกียรติกล่าว

นายก้องเกียรติกล่าวว่าทั้งนี้เชื่อว่ายังมีบางบริษัทที่ไปได้ดีเช่น กลุ่มธุรกิจค้าปลีก กลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มโรงพยาบาล แต่ก็ขึ้นอยู่กับความถูกความแพงของหุ้นแต่ละบริษัท ในส่วนของหุ้นธนาคารผลประกอบการไตรมาส3/67ออกมาก็ไม่ได้เลวร้าย แต่ที่แปลกใจก็คือว่าพอประกาศงบออกมาแล้วหุ้นตก ก็คงสืบเนื่องมาจากความกังวลของนักลงทุนแม้ว่ามาร์จิ้นของธุรกิจอาจ อาจจะด้อยลงไปหลังจากมีการลดอัตราดอกเบี้ย หรืออาจจะมีหนี้เสียเพิ่มขึ้น ถ้าหากว่าเศรษฐกิจดีขึ้นความกังวลก็จะลดลงตามไปด้วย


“แนะนักลงทุนกระจายการลงทุน ซึ่งน้ำหนักของการลงทุนก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของนักลงทุนเอง และตัวนักลงทุนเองสามารถรับความเสี่ยงได้มากน้อยขนาดไหนเพราะไม่มีสูตรสำเร็จที่ตายตัว คนที่ชอบความเสี่ยงเยอะก็ลงทุนในหุ้นที่มีการเติบโตสูง ราคาหุ้นก็แพงหน่อย ส่วนคนที่เรียกว่าอนุรักษ์นิยมก็มองในแง่หุ้นราคาถูกหน่อย ปันผลสูง แต่อย่างไรก็ดีนักลงทุนจะต้องบาลานซ์หรือสร้างสมดุลย์ในในพอร์ตลงทุน ซึ่งเป็นการกระจายความเสี่ยง ช่วยลดโอกาสการขาดทุนได้”นายก้องเกียรติกล่าว

บล.เคจีไอ ระบุทรัมป์ มีโอกาสชนะเลือกตั้งมากขึ้น ทําให้เกิดความกังวลรอบใหม่เกี่ยวกับ “เงินเฟ้อ-บอนด์ยีลด์” ที่จะพุ่งสูงขึ้นอาจจะส่งผลลบในช่วงสั้นต่อตลาดหุ้นเอเชีย และตลาดหุ้นไทย โดยมองว่าหากแฮรริส ชนะการเลือกตั้งจะทําให้ตลาดทั่วโลกวิ่งขึ้นต่อได้

นายอมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า มองว่าเศรษฐกิจไทยปี 2568 จะขยายตัวได้เพียง 2.5% ในกรณีของทรัมป์ เทียบกับ 3.2% ในกรณีของแฮร์ริส โดยคาดว่านอกจากการส่งออกที่จะชะลอและกดดันการลงทุนภาคเอกชนให้เติบโตช้าลงแล้ว ความต้องการในประเทศจะอ่อนแอตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ลดลง โดยเฉพาะข้าว ยางพารา และมันสำปะหลัง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อรายได้ภาคการเกษตรทั่วประเทศ รวมทั้งครัวเรือนที่มีรายได้น้อยในพื้นที่ชนบท ก็จะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการลดลงของกำลังซื้อ แต่เชื่อว่าการบริโภคภาคเอกชนยังเติบโตได้ด้วยแรงขับเคลื่อนจากภาคการท่องเที่ยวและมาตรการแจกเงินของรัฐบาล


“เศรษฐกิจไทยภายใต้นโยบายการค้าและนโยบายเศรษฐกิจของทรัมป์น่าจะมีความผันผวนมากกว่ากรณีของแฮร์ริส โดยเฉพาะจากความพยายามลดทอนอำนาจทางเศรษฐกิจของจีน ซึ่งจะกดดันการค้าและการลงทุนในภูมิภาคอาเซียน” ดร.อมรเทพ กล่าว

นายอมรเทพ ยังมองด้วยว่า กรณีทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง แม้ Fed อาจปรับลดดอกเบี้ยลงมากกว่าที่คาดไว้ แต่คาดว่าตลาดจะให้น้ำหนักกับความเสี่ยง รวมทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อาจยังคงอยู่ในระดับสูง สะท้อนถึงความกังวลเกี่ยวกับการขาดดุลงบประมาณและหนี้สาธารณะที่สูงขึ้น จะทำให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยงในตลาดเกิดใหม่ และนำเงินกลับไปถือดอลลาร์สหรัฐแทน ทำให้ดอลลาร์แข็ง บาทอ่อน โดยคาดว่าเงินบาทอาจอ่อนค่าลงถึงระดับ 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในช่วงปลายปี 2568

ในทางตรงกันข้าม หากแฮร์ริสชนะการเลือกตั้ง Fed จะทยอยปรับลดดอกเบี้ยตามทิศทางเงินเฟ้อที่ลดลง นักลงทุนจะลดความสนใจในเงินดอลลาร์ลง เงินบาทน่าจะแตะระดับ 32.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในปลายปี 2568 .-511,517.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

แทงหนุ่มวิศวะ

จับได้แล้ว! เยาวชน 16 ปีมือแทงหนุ่มวิศวะดับชิงเสื้อช็อป

รวบ 3 โจ๋แทงหนุ่มวิศวะปี 4 ดับสลดขโมยเสื้อช็อป พร้อมยึดของกลางที่ใช้ก่อเหตุ มือแทงสารภาพอ้างอารมณ์ชั่ววูบ อยากขอโทษครอบครัวผู้ตาย บอกจะบวชให้หลังออกคุก

สธ.มอบฟันเทียม 45,000 ราย เนื่องในวันผู้สูงอายุแห่งชาติ

13 เมษายน วันผู้สูงอายุแห่งชาติ สธ.เปิดโครงการ “รอยยิ้มใหม่ผู้สูงวัย 2568” มอบฟันเทียม 45,000 ราย ส่งเสริมสุขภาพช่องปากของผู้สูงอายุให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

วัยรุ่นรุมแทง นศ.วิศวะดับ ปล้นเสื้อช็อป-มือถือ

ตำรวจไล่เช็กวงจรปิดตามล่าแก๊งโจ๋นับสิบ หลังก่อเหตุสลด! รุมแทงนักศึกษาวิศวะเสียชีวิต ขณะขี่จักรยานยนต์กลับบ้าน ก่อนปล้นเอาเสื้อช็อปและมือถือหลบหนี

ค้นที่พักไฮโซเก๊ พบรูปภาพ-ชุดขาวประดับเครื่องหมายจัดเต็ม

ตำรวจกองปราบปรามขยายผลเพิ่ม ออกหมายจับไฮโซเก๊ อายัดตัวจากเรือนจำตรวจค้นที่พัก พบรูปภาพและชุดขาวประดับเครื่องหมายต่างๆ จัดเต็ม

ข่าวแนะนำ

ปิดทองหลังพระ

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ขอบคุณทุกฝ่าย “ปิดทองหลังพระ” ช่วยพาคนกลับบ้าน

ข้าราชการ-กู้ภัยจิตอาสา ทำงาน 100% ช่วงสงกรานต์ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ขอบคุณทุกฝ่าย “ปิดทองหลังพระ” ช่วยพาคนกลับบ้าน

แผ่นดินไหวกระบี่

แผ่นดินไหวกระบี่ ขนาด 3.5 ลึก 2 กม. รู้สึกสั่นไหว

แผ่นดินไหวกระบี่ ขนาด 3.5 ความลึก 2 กิโลเมตร ประชาชนแจ้งรู้สึกสั่นไหวบริเวณ อ.เหนือคลอง และ อ.เมืองกระบี่ เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย

สงกรานต์เชียงใหม่

เชียงใหม่ชุ่มฉ่ำเกือบทุกพื้นที่ สายฝนโปรยปราย

ช่วงบ่ายวันนี้ เชียงใหม่ชุ่มฉ่ำเกือบทุกพื้นที่ จากสายฝนที่โปรยปรายลงมา ทำให้ขบวนแห่ไม้ค้ำสะหลี หรือไม้ค้ำต้นโพธิ์ของวัดสำคัญในเมืองเชียงใหม่ ต้องแห่กันท่ามกลางสายฝน 

สงกรานต์ถนนข้าวสาร

อากาศเป็นใจ! นักท่องเที่ยวปักหลักเล่นน้ำสงกรานต์ถนนข้าวสาร

ตกบ่ายอากาศเป็นใจ นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเริ่มปักหลักเล่นน้ำสงกรานต์สองฝั่งถนนข้าวสาร บรรยากาศสุดชุ่มฉ่ำ สนุกสนาน