ธ.ไทยเครดิต ไตรมาส 3/ 67 กำไรสุทธิ New High ที่ 1.16 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.8%

กรุงเทพฯ 21 ต.ค. – ธ.ไทยเครดิต เผยไตรมาส 3/67 กำไรสุทธิทำสถิติสูงสุดใหม่ (New High) ที่ 1,161.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 17.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากสินเชื่อขยายตัว-รายได้ดอกเบี้ยเพิ่ม เดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งต่อเนื่อง
 
ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 โดยมีกำไรสุทธิทำสถิติสูงสุดใหม่ (New High) ที่ 1,161.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 41.7 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งมีกำไรสุทธิ 820.1 ล้านบาท และเติบโตร้อยละ 17.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยหลักที่สนับสนุนการเติบโตของกำไรครั้งนี้มาจากการขยายตัวของเงินให้สินเชื่ออย่างแข็งแกร่ง ยอดเงินให้สินเชื่อ ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2567 อยู่ที่ 157,604.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.8 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ธนาคารฯ ยังมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.2 ซึ่งสอดคล้องกับการเติบโตของเงินให้สินเชื่อ ในส่วนของการควบคุมค่าใช้จ่าย ธนาคารฯ ยังคงรักษาอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อรายได้ให้อยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 38.8 ในงวด 9 เดือนแรกของปี 2567
 
การดำเนินงานของธนาคารฯ ในไตรมาสนี้ยังเน้นความรอบคอบเพื่อรองรับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ โดยอัตราส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (Net Interest Margin) ในไตรมาส 3 อยู่ที่ร้อยละ 8.7 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาส 2 ขณะที่ในงวด 9 เดือนแรกของปี อัตราส่วนดังกล่าวอยู่ในระดับสูงที่ร้อยละ 8.6
 
ในด้านการบริหารจัดการความเสี่ยง ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากสัดส่วนเงินให้สินเชื่อ stage 2 และ 3 ต่อเงินให้สินเชื่อรวมมีแนวโน้มลดลง โดยเฉพาะจากสินเชื่อชั้นที่ 2 ที่ได้รับผลกระทบเพียงครั้งเดียวจากการสิ้นสุดมาตรการผ่อนผันการจัดชั้นสินเชื่อในไตรมาส 1 ปี 2567 ซึ่งเป็นมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ในช่วงเศรษฐกิจถดถอย อย่างไรก็ตาม สินเชื่อในกลุ่มดังกล่าวสามารถกลับสู่สถานะปกติได้หลังจากลูกหนี้ชำระหนี้ต่อเนื่องครบ 3 งวด ประกอบกับผลกระทบจากส่วนสูญเสียจากการขาย NPL ลดลง เนื่องจากการปรับแผนลดการขาย NPL ตามคุณภาพหนี้ที่ดีขึ้น นอกจากนี้ ธนาคารฯ ยังคงรักษาประสิทธิภาพในการควบคุมสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ที่ระดับร้อยละ 4.5 ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 ซึ่งยังอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถบริหารจัดการได้
 
กำไรต่อหุ้นของธนาคารฯ ในไตรมาส 3 ปี 2567 อยู่ที่ 0.94 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นจาก 0.67 บาทต่อหุ้น ในไตรมาส 2 และจาก 0.85 บาทต่อหุ้น ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิสำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี 2567 อยู่ที่ 2,431.6 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 13.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากผลขาดทุน ECL ที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในไตรมาส 1 ส่งผลให้กำไรต่อหุ้นสำหรับงวด 9 เดือน ยังคงอยู่ที่ 1.99 บาทต่อหุ้น.-516-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร

เชิญชวนร่วมงาน “มหานคร คัลเลอร์ฟูล ปาร์ตี้ 2025”

“กำภู-รัชนีย์” พาทัวร์งาน “มหานคร คัลเลอร์ฟูล ปาร์ตี้ 2025” ณ ลานจอดรถ บมจ.อสมท พบปะผู้ประกาศ ดีเจ และอินฟลูเอนเซอร์ รวมไปถึงศิลปินที่จะมาร่วมสนุกในงาน “มหานคร คัลเลอร์ฟู ปาร์ตี้ 2025”