กรุงเทพฯ 18 ต.ค. – คลังสั่งสรรพากร ตรวจสอบภาษี “บอส ดิไอคอน” สศค.รับลูก ตั้งทีมหารือกับหลายหน่วยงานแก้ไขกฎหมายแชร์ลูกโซ่ ฉ้อโกง
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีสั่งการให้หลายหน่วยงาน ร่วมกันเข้าไปแก้ปัญหา ทั้ง สคบ., สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กระทรวงการคลัง จึงรับนโยบายไปศึกษาแนวทางแก้ไขกฎหมายแชร์ลูกโซ่ และการฉ้อโกง เพราะบังคับใช้มายาวนานตั้งแต่คดีแม่ชม้อย ในส่วนของกรมสรรพากรได้เข้าไปตรวจสอบการยื่นภาษีเสียภาษี ทั้งตัวบริษัท และบุคคลธรรมดา “บอส ดิไอคอน” พบว่าบางคนไม่ได้ยื่นแบบเสียภาษี จึงต้องดูว่าจะเสียภาษีย้อนหลังตามขั้นอย่างไร รวมทั้งดูว่ายื่นแบบครบถ้วน และถูกต้องหรือไม่
ขณะนี้ได้ออกหมายเรียกไปยังธนาคารเพื่อส่งข้อมูลทางการเงินของกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้อง “บอส ดิไอคอน” ทุกคน และออกหมายเรียก เพื่อตรวจสอบการเสียภาษีทั้งนิติบุคคลและบุคคลธรรมดา หากหน่วยงานหลัก รับผิดชอบคดีความประสานขอข้อมูล คลังพร้อมให้ความร่วมมือทุกด้าน
นายพรชัย ฐีระเวช โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ต้องพิจารณาดูว่า “บอส ดิไอคอน” ที่เกี่ยวข้องเข้าข่ายเงื่อนไขความผิดการฉ้อโกงและกฎหมายแชร์ลูกโซ่นั้น ต้องดูองค์ประกอบความผิด ตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนอย่างไรบ้าง โดยต้องเข้าข่ายความผิดทั้ง 3 ข้อ ไม่ใช่เพียงข้อใดข้อหนึ่ง คือ 1.ต้องมีการลงนามด้านการเงินกับประชาชนเป็นกลุ่มหลายคน 2.การให้ผลตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยตามกฎหมาย 3.ทำกิจกรรมที่ไม่ได้ผลิตจริง เหมือนกับการผลิตสินค้าในโรงงานทั่วไป เพียงแต่นำเงินลงทะเบียนของสมาชิกไปจ่ายเป็นผลตอบแทนให้กับสมาชิกรายอื่น หมุนเวียนไปอีกหลายหลายรอบ
ดังนั้น สศค.พนักงานสอบสวน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องแสวงหาหลักฐาน ข้อเท็จจริงในทุกด้าน เพื่อหาข้อสรุปว่า บอส ดิไอคอน กระทำผิดครบทั้ง 3 ข้อ อย่างไรบ้าง จึงต้องเดินหน้าสอบสวน เก็บข้อมูล เอกสารหลักฐาน พยานแวดล้อมทุกด้าน สศค.ยินดีให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ รัฐบาลมอบนโยบายมาแล้วว่าให้กระทรวงการคลัง กลับไปศึกษาว่า มีแนวทางปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน อย่างไรบ้าง เพื่อดำเนินการเอาผิดได้อย่างฉับไว
กระทรวงการคลัง โดย สศค.ได้ตั้งทีมงานด้านกฎหมาย เตรียมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานกฤษฎีกา กระทรวงยุติธรรม ดีเอสไอ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หารือร่วมกันเพื่อหารือร่วมกันดูว่าจะปรับปรุงแก้ไขกฎหมายด้านใดบ้าง เพื่อนำเสนอรัฐบาลพิจารณาในขั้นต่อไป.-515 สำนักข่าวไทย