วอนรัฐเปิดโอกาสให้สุราชุมชนไทย โกอินเตอร์

กรุงเทพฯ 10 ต.ค.-นักวิชาการ ภาคเอกชน ประสานเสียง ผบักดันสุราชุมชนไทย บุกตลาดโลก แนะจัดเก็บภาษีสุราเป็นธรรม ให้ความรู้แก่ผู้ผลิตเพื่อการส่งออก

นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ เปิดเผยว่า หลังจากปี2563 มีประชาชนเริ่มขยับมาทำสุราชุมชนมากขึ้น จากพื้นเพเดิมที่ประเทศไทยสามารถทำสุราได้ เช่น สาโท เหล้าอุ ขณะที่ต่างชาติ เช่น จีนมีเหมาไถ ญี่ปุ่นมีสาเก เกาหลีใต้มีโซจู ซึ่งไทยมีประชาชนที่ได้รับรางวัลจากการผลิตสุราชุมชน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมีการพิจารณากฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อสนับสนุนให้มีการผลักดันสุราชุมชนมีโอกาสทางเศรษฐกิจ และสร้างการรู้จักมากยิ่งขึ้น


“ย้อนกลับไปในสมัยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีนโยบายทำโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ซึ่งสุราก็เป็นสินค้าที่ทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่เกิดรายได้มากขึ้น รวมถึงมีการจัดงานอีเวนต์ต่างๆ ให้กับผู้ประกอบการเกี่ยวกับสุราชุมชนเข้าร่วมงาน และเริ่มแก้ไขกฎหมายเรื่อยมา”นายวิสารกล่าว

นายสุทธิกร กิ่งแก้ว ผู้บริหารโครงการวิจัยสถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยว่า ความท้าทายของอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในขณะนี้ คือ การทำธุรกิจในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัว กฎระเบียบในการจัดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่สมเหตุสมผล อาทิ การกำหนดเวลาขาย ไม่สมเหตุสมผล และยังห้านในวันสำคัญทางศาสนา ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นประเด็นสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ


ทั้งนี้ ในมุมนักท่องเที่ยวต่างชาติ ระบุว่า ตนเป็นผู้ดื่มอย่างมีความรับผิดชอบและการได้ดื่มจะช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ที่ดี เมื่อได้ดื่มอย่างปกติ และเข้าถึงได้ในราคาที่เหมาะสม ดังนั้น ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าเครื่อง ดื่มแอลกอฮอล์เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมของนักท่องเที่ยว ขณะที่กฎหมายการโฆษณา ก็เป็นประเด็นสำคัญเช่นกัน เพราะกฎหมายที่ไม่ชัดเจน นำไปสู่การเปิดให้ทางเจ้าหน้าที่บางรายใช้เรียกสินบนจากผู้ประกอบการ

ส่วนโครงสร้างภาษีสรรพสามิตที่เกี่ยวข้องกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยังมีความไม่สมเหตุสมผลหลายประการ เช่น การเก็บภาษีสรรพสามิตที่มีฐานทั้งจากปริมาณแอลกอฮอล์และมูลค่าของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น สุราขาว ที่มีปริมาณการขายสูงสุด แถมมีแอลกอฮอล์ที่เก็บภาษีได้ในระดับที่ต่ำมาก ซึ่งการเน้นที่ปริมาณแอลกอฮอล์จะช่วยลดผลกระทบข้างเคียง เช่น การเมาแล้วขับ จนเกิดอุบัติเหตุ การทะเลาะวิวาท

“การปรับลดภาษีอย่างเหมาะ จะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่ม และเกิดซอฟต์พาวเวอร์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดย เฉพาะเครื่องดื่มแบบค็อกเทล ที่ในแต่ละร้าน มีสูตรและส่วนผสมค็อกเทลที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว จะช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยว พร้อมทั้งเกิดการหมุนเวียนรายได้ภายในประเทศ และการจ้างงาน ตามลำดับ


นายเก่งการ เหล่าวิโรจนกุล ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จํากัด กล่าวว่า ฐานะผู้นําเข้า และจัดจําหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากต่างประเทศ นั้น ดีใจที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับสุราชุมชน อย่างไรก็ดี ยังมีประเด็นที่ต้องแก้ไขคือ 1.คือกฎหมายที่เอื้ออำนวยกับการให้รายย่อยผลิตสุราได้ 2.กฎหมายที่เอื้อต่อการขาย ทั้งการปลดล็อกกำหนดเวลาการจำหน่าย และการโฆษณา และ 3.ความร่วมมือ และการพัฒนาให่สุราไทยโกอินเตอร์ได้

อย่าง บริษัท ดิอาจิโอ ของนั้น เป็นแบรนด์ที่อยู่มา 200 ปีแล้ว เมื่อก่อนก็เป็นสุราพื้นบ้านของสกอตแลนด์ ซึ่งสกอตแลนด์เก่งในเรื่องของการ ผลิตวิสกี้ ซึ่งบ้านเราก็สามารถผลิตทุกแบบ แต่สิ่งสำคัญคือคุณภาพ แพคเกจจิ้งการทำตลาด และทำไงให้เขานึกถึงแบรนด์เราได้ ส่วนตัวถ้ามองให้คะแนน 0-100 คิดว่า ไทยยังไม่ถึง 10 คะแนน โดยไทยเรานับว่า อยู่ในช่วงตั้งไข่ แต่เชื่อว่าเป็นสิ่งที่พยายามช่วยกันสร้างให้ดีขึ้นได้

ทั้งนี้ ดิอาจิโอ สามารถสนับสนุนอุตสาหกรรมสุราพื้นบ้านไทยได้โดย 1.การพัฒนาสถานที่ผลิตให้มันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวได้ด้วย อีกตัวอย่างหนึ่ง ที่สกอตแลนด์ มี Johnnie Walker Princes Street และ 2.การตลาด ที่หากรัฐบาลได้เจรจาความตกลงการค้าเสรี หรือ FTA กับยุโรปและอังกฤษ รวมทั้งนำภาษีบรรจุไปในสินค้าที่ได้รับยกเย้นภาษี ก็จะเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยไปเปิดตลาดในยุโรปได้ แต่ในระยะอันใกล้นี้ จากที่มีไทยเขตการค้าเสรีอาเซียน หรือ AFTA ก็ลองส่งออกไป10 ประเทศ เพื่อนบ้านก่อนก็ได้

นางสาวประภาวี เหมทัศน์ กรรมการบริหาร บริษัท กรุ๊ปบี จำกัด และเลขาธิการสมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจคราฟเบียร์ เปิดเผยว่า ในช่วงปี 2 ปีที่ผ่านมา มีผู้ให้ความสนใจอยากนำเหล้า สุราชุมชน หรือ คราฟเบียร์ ส่งออกไปขายต่างประเทศเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นเกาหลี ไต้หวัน ฮ่องกง ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา หรือยุโรปก็มี ซึ่งแปลว่า สินค้าไทย โดยเฉพาะอาหารไปได้ไกล และคิดว่า เครื่องดื่มไทย ก็มีโอกาสที่จะไปได้ไกลระดับโลกเหมือนกัน

แต่สิ่งที่เป็นปัญหาคือ ผู้ผลิตเหล้าชุมชนนั้น คือรายย่อย ที่ไม่มีความเข้าใจหรือความรู้เรื่องการส่งออก สิ่งแรกคือต้องการให้ภาครัฐให้ช่วยเหลือให้เข้าแนะนำและสร้างความเข้าใจ ขณะที่ สมาคมจัดตั้งขึ้นเพื่อเข้าไปทำเรื่องกฎหมายที่ช่วยปลดล็อกคราฟเบียร์ รวมถึงสุราชุมชน โดยการเข้าไปนั่งคณะกรรมาธิการในการแก้กฎหมาย เนื่องจาก สมาชิกต่างมองเห็นว่า กฎหมายที่เป็นอุปสรรคหลัก ที่ทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยไม่สามารถพัฒนาสินค้าและธุรกิจได้ ส่วนเรื่องของภาษีสรรพสามิตนั้น เป็นต้นทุนที่ทำให้ คราฟเบียร์ ราคาสูงจน คนไม่ค่อยกิน ดังนั้น เรื่องภาษีก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ ที่สมาคมฯ พยายามจะเรียกร้องให้เกิดการแก้ไขต่อไป.-515.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นักร้องดัง “ติ๊ก ชิโร่” ซิ่งรถตู้ชน จยย.ดับ 1 สาหัส 1

นักร้องดัง “ติ๊ก ชิโร่” ซิ่งรถตู้พุ่งชนรถจักรยานยนต์ของ 3 พี่น้อง บนสะพานข้ามถนนเทพรักษ์ เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บสาหัส 1 ราย เจ้าตัวยืนรอมอบตัวกับตำรวจ เผยไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น

ธุรกิจขายตรง

ชำแหละธุรกิจขายตรงยักษ์ใหญ่-ดาราดังมีเอี่ยว

ผู้เสียหายลั่น “หมดตัวเพราะขายตรง” แฉธุรกิจขายตรงยักษ์ใหญ่ ชวนลงทุนแต่ทำกำไรไม่ได้จริง พบมีดาราระดับเบอร์ต้นๆ ของเมืองไทยเป็นผู้บริหาร ด้าน ปคบ. เร่งตรวจสอบโมเดลธุรกิจ

“แซม ยุรนันท์” ยันไม่ได้เป็นกรรมการหรือหุ้นส่วน

“แซม ยุรนันท์” ยันไม่ได้เป็นกรรมการหรือหุ้นส่วนของบริษัท รายได้แบ่งเปอร์เซ็นต์จากยอดขายผลิตภัณฑ์ที่คิดค้น พร้อมเข้าให้ปากคำหากตำรวจเรียก

ข่าวแนะนำ

นายกฯ หารือทวิภาคีกับผู้นำหลายประเทศ

วันที่ 2 ของการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 44-45 นายกรัฐมนตรี นอกจากเข้าร่วมประชุมอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาแล้ว ยังพบหารือทวิภาคีกับผู้นำหลายประเทศ เดินหน้าเพิ่มความร่วมมือรอบด้านครอบคลุม เศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคง โดยเฉพาะความมั่นคงรูปแบบใหม่และความมั่นคงทางอาหาร โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยรายงาน

ย้อนเส้นทางรวย อาณาจักร “The iCon Group”

ก่อนจะถึงวันนี้ ที่ผู้เสียหายหลายร้อยคนตบเท้าเข้าแจ้งความกับตำรวจคุ้มครองผู้บริโภค ให้ดำเนินคดีกับผู้บริหารธุรกิจบริษัทยักษ์ใหญ่ ในช่วง 5 ปี ธุรกิจนี้วางแผนกลยุทธ์ การตลาด ผ่านการขายตรง คอร์สออนไลน์ ยิงแอดโฆษณาเพื่อหาคนมาเข้าเรียน สร้างภาพทำแล้วรวย แต่การขายสินค้าไม่ใช่เป้าหมายหลัก นำดาราดังมาถือสินค้า และแต่งตั้งให้เป็นทีมบริหาร สร้างความน่าเชื่อถือ

“บิ๊กต่าย” สั่งระดมเร่งสอบปากคำผู้เสียหายจากบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป

“บิ๊กต่าย” สั่งระดมตำรวจสอบสวนกลาง เร่งสอบปากคำผู้เสียหายจากบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป เพื่อนำมาศึกษาว่าเข้าข่ายความผิดใดบ้าง และหน่วยงานใดจะเป็นผู้รับผิดชอบ พร้อมประสาน ปปง. ใช้อำนาจอายัดทรัพย์เจ้าของบริษัทก่อน