กรุงเทพฯ 9 ต.ค. – “พิชัย” หารือ สปป.ลาว ร่วมผลักดันการค้าสองฝ่ายให้บรรลุเป้าหมายการค้า 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2568 และเพิ่มเวลาการอนุญาตนำเข้า-ออก ยานพาหนะชั่วคราวจาก 15 วัน เป็น 30 วัน
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า วานนี้ (8 ต.ค.) ได้ประชุมทวิภาคีกับนายมะไลทอง กมมะสิด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของ สปป.ลาว ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว โดยแสดงความยินดีในความสำเร็จของ สปป.ลาว ในการเป็นประธานอาเซียนในปี 2567 และขอให้ทาง สปป.ลาว พิจารณากลับมาเปิดทำการด่านชายแดนที่ยังปิดอยู่และอำนวยความสะดวกบริเวณด่านชายแดน ที่ในปี 2566 การค้ารวมไทย-สปป.ลาว มีมูลค่าสูงถึง 7,634.39 ล้านดอลลาร์ และขอให้ สปป.ลาว อำนวยความสะดวกการส่งออกสินค้าของไทยผ่านแดนไปจีนและเวียดนามผ่านเส้นทาง R3A R9 R12 และรถไฟลาว-จีน
ในช่วงกลางปีที่ผ่านมา ต้องขอขอบคุณ สปป.ลาว ที่ได้มีการผ่อนปรนมาตรการให้รถบรรทุกสินค้าของไทยผ่านเข้า สปป.ลาว ทำให้ไทยได้รับความสะดวกในการขนส่งผลไม้จากไทยไปสู่จีนได้อย่างดี และขอให้พิจารณาทบทวนระยะเวลาการขออนุญาตนำเข้า-ออก ยานพาหนะชั่วคราว ในรูปแบบของการท่องเที่ยวและขนส่งสินค้าจาก 15 วันเป็น 30 วัน นอกจากนี้ ในส่วนของการเร่งเจรจาจัดทำกรอบความตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียน (ASEAN Digital Economy Framework Agreement: DEFA) ทั้งสองประเทศจะร่วมมือกันให้มีคืบหน้าการเจรจาร้อยละ 50 ในปีนี้ ซึ่งจะเป็นการพัฒนา MSME ของ สปป.ลาว ให้เข้าถึง E-Commerce มากขึ้น อันจะเป็นช่องทางทำให้เพิ่มมูลค่าการค้าของลาวได้ โดยไทยจะช่วยหยิบยกประเด็นให้ลาวร่วมสนับสนุนการเจรจา DEFA ด้วย
“ไทยยินดีสนับสนุนและความช่วยเหลือ สปป.ลาว ในการแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการฝุ่นควันข้ามแดนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการทำการเกษตรที่ยั่งยืน สำหรับสินค้าเกษตร สปป.ลาว ขอให้ไทยรับซื้อสินค้าเกษตรจากลาวเพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร อันจะทำให้เศรษฐกิจของลาวขยายตัวและเพื่อจะมีการนำเข้าสินค้าจากไทยเพิ่มมากขึ้น” นายพิชัย กล่าว.-511- สำนักข่าวไทย