กรุงเทพฯ 3 ต.ค. – รมว.คลัง ถกผู้ว่าการ ธปท. ร่วมแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนกลุ่มเปราะบาง หวังหาก ธปท.ลดดอกเบี้ย ส่งผลดีต่อรายย่อย-เอสเอ็มอี เข้าถึงแหล่งทุน
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การหารือกับผู้ว่าการ ธปท. คลังยืนยันเกี่ยวกับนโยบายขอให้ลดดอกเบี้ยลง ยอมรับเป็นหน้าที่ของ กนง. ซึ่งจะประชุมในวันพุธที่ 16 ต.ค.นี้ จึงแลกเปลี่ยนความเห็นและให้ข้อมูลว่า เฟด และธนาคารกลางยุโรป ได้ลดดอกเบี้ย รวมทั้งจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ทำให้เงินทุนไหลเข้าไทย ส่งผลต่อเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง แม้วันนี้จะอ่อนค่าลงมาบ้าง คาดว่า กนง.จะนำปัจจัยเหล่านี้ไปพิจารณา เพราะหากลดดอกเบี้ยลงมาได้จะส่งผลดีต่อคนกู้ใหม่
ยอมรับว่า แม้จะลดดอกเบี้ย คงไม่ทำให้เงินบาทอ่อนค่าลงมากนัก และไม่ได้กระตุ้นการส่งออกในเชิงปริมาณมากเท่าใด โดยปกติในช่วงปลายปีจะมียอดส่งออกขยับตัวดีขึ้น อีกทั้งไตรมาส 4 การท่องเที่ยวจากต่างชาติเข้ามาจำนวนมาก ยังเป็นปัจจัยช่วยหนุนเศรษฐกิจปลายปี แต่สิ่งสำคัญที่สุด คือ การดูแลสภาพคล่อง เพื่อให้รายย่อย เอสเอ็มอี เข้าถึงแหล่งทุน นับเป็นเรื่องสำคัญที่สุด
นอกจากนี้ยังหารือเกี่ยวกับแนวทางแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง หลังจากแบงก์รัฐช่วยเหลือไปแล้วบางส่วน ยังเหลือลูกหนี้ในส่วน Non Bank และสถาบันการเงินอื่น เพื่อนำมาช่วยปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อให้รายย่อยมีต้นทุนดอกเบี้ยลดลง เพื่อให้โอกาสคนมีศักยภาพมีโอกาสได้เงินกู้ ไม่ใช่ลดดอกเบี้ยโดยไม่มีเหตุผล
รวมทั้งแนวทางดูแลลูกหนี้กลุ่มเปราะบาง เนื่องจากเป็นกลุ่มรายย่อย ยอดเงินกู้ไม่สูงมากนัก แต่มีจำนวนสูงถึง 7-8 แสนบัญชี แตกต่างจากปัญหาหนี้ในช่วงวิกฤติปี 40 ซึ่งเป็นหนี้เอกชนรายใหญ่ จำนวนบัญชีไม่มากนักต่อมูลหนี้ต่อรายจำนวนมาก ยืนยันไม่ใช่การแฮร์คัด แต่เป็นการลดหย่อนผ่อนปรนหนี้ ให้รายย่อยเดินหน้าต่อไปได้ คลังและแบงก์ชาติ จึงพร้อมร่วมมือแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างใกล้ชิด สำหรับเรื่องกรอบเงินเฟ้อ เตรียมนัดหารือเพิ่มเติมอีกครั้งหนึ่ง. -515- สำนักข่าวไทย