“เผ่าภูมิ” เผยคลังเตรียมใช้ภาษีกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปี

กรุงเทพฯ 3 ต.ค. – นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงานสัมมนา เปิดงาน Fitch on Thailand 2024 จัดโดย Fitch Ratings ว่า รัฐบาลมุ่งหาแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านมาตรการทางภาษีในช่วงปลายปี เพื่อให้จีดีพีเติบโตต่อเนื่องไปถึงต้นปีหน้าให้ได้ร้อยละ 3 ยอมรับ การใช้เงินจากโครงการดิจิทัลวอลเล็ตบวกกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่จะทำให้เกิดเงินหมุนเวียนมากขึ้น หลังจากคาดการณ์จีดีพีในปี 67 ขยายตัวร้อยละ 2.7 เป็นผลการโอนเงินให้กลุ่มเปราะบาง 10,000 บาท วงเงิน 1.45 แสนล้านบาท ทำให้จีดีพีเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 จากเป้าหมายเดิมจีดีพีโตร้อยละ 2.6


นายเผ่าภูมิ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงคลังอยากให้บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Rating Agency) รวมถึงบรรดานักลงทุน มองเห็นถึงศักยภาพของไทย รวมถึงฐานะด้านการเงิน และด้านการคลัง นับเป็นจุดแข็งสำคัญของไทย เพื่อให้เหล่าบรรดา Rating Agency นำไปใช้ประกอบการพิจารณาจัดอันดับประเทศไทย พิจารณาจาก 3 ด้านหลักสำคัญ คือ 1.การเติบโตทางเศรษฐกิจ 2.หนี้สาธารณะ และ 3.ความสามารถในการระดมทุน โดยการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) อยู่ในทิศทางการเติบโตที่ดีขึ้น

ยอมรับว่าจีดีพีของไทยน่าพอใจในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ปีนี้ รวมทั้งระยะต่อไป ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ในการทำมาตรการต่าง ๆ แม้จะมีข้อจำกัดเรื่องความล่าช้าของงบประมาณที่ออกมา แต่รัฐบาลได้พยายามดำเนินการเท่าที่ทำได้ ซึ่งเริ่มผลิดอกออกผลต่อ GDP ในปีนี้ สำหรับหนี้สาธารณะ ปัจจุบันหนี้สาธารณะของไทย ประมาณร้อยละ 63-64 ต่อ GDP แต่ในการคำนวณหนี้สาธารณะของไทย แตกต่างจากนิยามของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) พบว่าหนี้สาธารณะของไทยร้อยละ 57 ต่อ GDP นับว่าไทยมีความสามารถในการระดมทุนในตลาดทุนที่มีศักยภาพ.-515- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย