ธ.ก.ส. ผลักดันธนาคารต้นไม้ 9 ชุมชน จ. ฉะเชิงเทรา

กรุงเทพฯ 2 ต.ค.- ธ.ก.ส. ผลักดันธนาคารต้นไม้ 9 ชุมชน ใน จ. ฉะเชิงเทรา สู่การซื้อ-ขายคาร์บอนเครดิต ภายใต้โครงการ BAAC Carbon Credit


ธ.ก.ส. ผลักดัน 9 ชุมชนในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา สู่การซื้อ-ขายคาร์บอนเครดิตภาคป่าไม้ผ่านโครงการ BAAC Carbon Credit พร้อมขยายผลไปยังธนาคารต้นไม้อีกกว่า 6,800 ชุมชนทั่วประเทศ ตั้งเป้าสร้างคาร์บอนเครดิตสะสม 5.10 แสนตันคาร์บอน ภายในปี 2571 และสร้างรายได้ให้ชุมชน มูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท

นายเกียรติศักดิ์ พระวร ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. เร่งขับเคลื่อนโครงการธนาคารต้นไม้และชุมชนไม้มีค่าจนปัจจุบันมีชุมชนเข้าร่วมโครงการ 6,814 ชุมชน มีต้นไม้ขึ้นทะเบียนกว่า 12.4 ล้านต้น มีสมาชิกกว่า 120,000 คน มูลค่าต้นไม้ในโครงการกว่า 43,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังส่งเสริมการนำต้นไม้ที่ปลูกมาแปลงเป็นสินทรัพย์ เพิ่มมูลค่าให้กับที่ดินและนำมาใช้เป็นหลักประกันเงินกู้กับ ธ.ก.ส. ทำให้สมาชิกในชุมชนมีรายได้จากผลิตภัณฑ์ที่ได้จากต้นไม้/ป่าไม้ ปีละ 116 ล้านบาท เพื่อต่อยอดการดำเนินงานให้ตอบโจทย์เป้าหมายการขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี ค.ศ. 2050 และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emission) ในปี ค.ศ. 2065


โดย ธ.ก.ส. ได้จัดตั้งโครงการ BAAC Carbon Credit ขับเคลื่อนการซื้อ – ขายคาร์บอนเครดิตภาคป่าไม้อย่างเป็นทางการในประเทศไทยตามโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานประเทศไทย (Thailand Voluntary Emission Reduction Program: T-VER) ซึ่งมีการซื้อ-ขายครั้งแรกไปแล้วที่ชุมชนธนาคารต้นไม้บ้านท่าลี่และบ้านแดง จังหวัดขอนแก่น จำนวน 400 ตันคาร์บอน โดย ธ.ก.ส. รับซื้อในราคากึ่ง CSR ตันละ 3,000 บาท คิดเป็นเงินรวม 1.2 ล้านบาท

นายเกียรติศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องจากช่วงนี้มีมิจฉาชีพที่แอบอ้างขายกิ่งพันธุ์ พร้อมบอกว่าจะรับซื้อคาร์บอนเครดิต หรือสามารถนำเข้าร่วมโครงการ BAAC Carbon Credit ขอให้ประชาชนผู้สนใจปลูกต้นไม้ระมัดระวัง เนื่องจาก ธ.ก.ส. ไม่มีนโยบายขายกิ่งพันธุ์ใดๆทั้งสิน รวมถึงไม่มีนโยบายในการคิดค่าธรรมเนียมหรือค่าใช่จ่ายใดๆในการเข้าร่วมโครงการกับ ธ.ก.ส. หากมีข้อสงสัยสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ Call Center 02 555 0555​

ธ.ก.ส. พร้อมสนับสนุนธนาคารต้นไม้จังหวัดฉะเชิงเทราจำนวนทั้ง 9 ชุมชน ประสงค์ที่เข้าร่วมโครงการ T-VER ประกอบด้วย 1.ธนาคารต้นไม้ บ้านหลุมมะขาม 2. ธนาคารต้นไม้ บ้านเกาะบรเพชร 3. ธนาคารต้นไม้ บ้านแปลงนกเป้า 4. ธนาคารต้นไม้ บ้านวังเย็น 5. ธนาคารต้นไม้ บ้านหนองไม้แก่น 6. ธนาคารต้นไม้ บ้านวังกะจะ 7. ธนาคารต้นไม้ บ้านห้วยหิน อ.สนามชัยเขต 8. ธนาคารต้นไม้ บ้านวังหิน อ.ท่าตะเกียบ และ 9. ธนาคารต้นไม้ บ้านอ่างเตย อ.ท่าตะเกียบ มีสมาชิกทั้งสิน 61 คน มีพื้นที่ 81 แปลงรวมพื้นที่ 1,226 ไร่ 2 งาน 75 ตารางวา มีจำนวนต้นไม้ที่เข้าร่วมโครงการ 32,155 ต้น คิดเป็นปริมาณคาร์บอนเครดิต 305.47 ตันคาร์บอนต่อปี


ปัจจุบันโครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างการยื่นเอกสาร เพื่อดำเนินการขึ้นทะเบียน T-VER กับองค์การบริหาร ก๊าซเรือนกระจก พร้อมมุ่งขับเคลื่อนภารกิจการซื้อ-ขายคาร์บอนเครดิตภาคป่าไม้ผ่านโครงการ BAAC Carbon Credit เตรียมขยายผลไปยังชุมชนธนาคารต้นไม้อีกกว่า 6,800 ชุมชนทั่วประเทศ หนุนการปลูกป่าเพิ่มอีกปีละ 108,000 ต้น และวางเป้าหมายสร้างปริมาณการ ซื้อ – ขายคาร์บอนเครดิตอีกกว่า 510,000 ตันคาร์บอน ภายในปี 2571​​

นายวินัย สุวรรณไตร ผู้นำชุมชนไม้มีค่า ธนาคารต้นไม้บ้านหลุมมะขาม จังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันโครงการธนาคารต้นไม้ จังหวัดฉะเชิงเทรา มีชุมชนสนใจเข้าร่วมโครงการ 9 ชุมชน เพื่อนำไปใช้เป็นหลักประกันเงินกู้กับ ธ.ก.ส รวมถึงการสร้างรายได้เสริมจากผลิตภัณฑ์ที่ได้จากต้นไม้อย่างต้นยางนา นำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เช่น สบู่ยางนา เซรั่มบำรุงผิวจากยางนา น้ำบำรุงผิวสกัดจากใบยางนา น้ำมันยางนา เพื่อสร้างรายได้ควบคู่กับการขายคาร์บอนเครดิต

​สำหรับบ้านหลุมมะขาม เป็นกลุ่มธนาคารต้นไม้ที่ ธ.ก.ส. ได้มีการส่งเสริมและสนับสนุนปลูกไม้เศรษฐกิจที่มีคุณค่าทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน และการปลูกต้นไม้สามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและคาร์บอนไดออกไซค์ ซึ่งช่วยลดภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และยังมีหลักประกันจากไม้ใหญ่ที่ปลูกไว้เป็นทุนสะสมใช้ยามฉุกเฉินหรือเมื่ออายุมากขึ้น.-515 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทหารทำร้าย

ทบ.ตั้ง กก.สอบปมกรมยุทธศึกษาทหารบก ทำร้ายผู้ใต้บังคับบัญชา

“ธนเดช” เผย กมธ.ทหาร รับเรื่องร้องเรียนเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา ขณะ ทบ. ตั้งกรรมการสอบแล้ว หวังเป็นตัวอย่างการลงโทษผู้บังคับบัญชาระดับสูงหากพบผิดจริง

“บิ๊กแจ๊ส” ลั่นพร้อมดูแลสนามกอล์ฟธูปะเตมีย์ ให้เป็นปอดประชาชน

“บิ๊กแจ๊ส” ลั่นหากได้รับถ่ายโอน อบจ.ปทุมฯ พร้อมจัดงบดูแลสนามกอล์ฟธูปะเตมีย์ ให้เป็นปอดประชาชน หลังขาดพื้นที่ออกกำลังกาย แต่จะกระทบความมั่นคงหรือไม่เป็นเรื่องละเอียดอ่อนต้องคุยกันต่อ

ข่าวแนะนำ

กฎหมายเปิดช่อง ริบรถพวกหัวร้อนบนถนนได้

จากคลิปรถเทสล่า ขับปาดหน้าบนทางด่วน ศาลสั่งจำคุก 1 เดือนคนขับ โทษจำรอลงอาญา 1 ปี แต่ที่สังคมต้องตระหนัก คือ ศาลยังสั่งริบรถเทสล่า มูลค่าเกือบ 2 ล้านคันนี้ด้วย วันนี้คนขับออกมาเปิดใจ พร้อมขอโทษคู่กรณี ขณะที่อัยการระบุ กฎหมายเปิดช่องให้ริบรถได้ เตือนผู้ขับขี่ใช้สติมากกว่าอารมณ์

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

นายกฯ ถก ก.ตร. จับตาแต่งตั้งนายพลสีกากี 25 ตำแหน่ง

นายกฯ นั่งประธานประชุม ก.ตร. จับตาแต่งตั้งนายพล ระดับ “รอง ผบ.ตร.-ผู้ช่วย ผบ.ตร.-ผู้บัญชาการ” รวม 25 ตำแหน่ง กำชับพิจารณาให้รอบคอบ-ตรงกรอบกฎหมาย