fbpx

แนะ รมว.พาณิชย์ ลดราคาอาหารสัตว์ แก้ปัญหา “หมูแพง”

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ แย้งรัฐมนตรีพาณิชย์ หมูไทยแพง มาจากนโยบายกระทรวงพาณิชย์ที่ทำไว้ให้วัตถุดิบอาหารสัตว์แพงที่สุดในโลก สวนทาง “บราซิล” ต้นทุนต่ำมาก


นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ แก้ข้อสงสัย กรณี นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ระบุเนื้อสุกรลักลอบนำเข้าจากประเทศบราซิลทำไมราคาถูก ทั้ง ๆ ที่เสียค่าใช้จ่ายใต้โต๊ะ และมาวางขายในตลาดเมืองไทยมีราคาถูกกว่าหมูในประเทศ ว่า ข้อเท็จจริงคือเป็นเพราะต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ของบราซิลต่ำมาก ขณะที่โครงสร้างต้นทุนการผลิตสุกรของประเทศไทยที่มีต้นทุนส่วนใหญ่ 65-70% มาจากวัตถุดิบอาหารสัตว์ ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลนโยบายโดยกระทรวงพาณิชย์นั้นมีราคาสูงมาก ทั้งกลุ่มพืชโปรตีน ได้แก่ กากถั่วเหลือง มีการบวกกำไรเกินกว่าเหตุ จนทำให้วัตถุดิบอาหารสัตว์กลุ่มโปรตีนของไทยเป็นกลุ่มที่มีราคาสูงที่สุดในโลก รวมถึงข้าวโพดในไทยที่แพงถึงกว่า 10 บาทต่อกิโลกรัม ในขณะที่ราคาข้าวโพดต่างประเทศอ่อนตัวลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉลี่ยอยู่ในระดับราคา 5-6 บาทต่อกิโลกรัมเท่านั้น

“อาหารสัตว์ไทยมีราคาแพง นี่คือสาเหตุหลักที่ รมว.พาณิชย์ ควรต้องเข้าไปดูโครงสร้างการกำหนดราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ ที่ถือว่าแตะต้องไม่ได้มาเป็นเวลา 7 ปี ซึ่งมีมาตรการ 3 ต่อ 1 ที่ยังคงทำให้ราคาข้าวโพดสูงอย่างต่อเนื่องและมีเงื่อนงำ ปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาใหญ่ที่กลุ่มเกษตรกรมีการเรียกร้องเรื่องนี้มาตลอด ซึ่งคาดว่ากลุ่มเกษตรกรรายย่อยน่าจะมีการใช้มาตรการทางกฎหมาย เช่น การยื่นร้องเรียนการประพฤติมิชอบต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ จากการไม่ได้รับคำตอบหรือการแก้ไข ในกรณีเรื่องนี้ต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ปปช. ในเร็วๆนี้ เช่นกัน”นายสิทธิพันธ์กล่าว


ด้านนายเดือนเด่น ยิ้มแย้ม ประธานชมรมผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า รัฐบาลควรพิจารณาปรับเปลี่ยนนโยบายอาหารสัตว์เพื่อลดต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกร หากปัญหานี้ได้รับการแก้ไขเชื่อว่าผู้เลี้ยงสามารถทำต้นทุนเฉลี่ยได้ 60 บาทต่อกิโลกรัม แข่งขันกับบราซิลได้แน่นอน ที่สำคัญเนื้อหมูไทยคุณภาพดี ปลอดภัยจากสารเร่งเนื้อแดง และสดสะอาดกว่าหมูที่มาจากบราซิล

“รัฐบาลควรมองมุมกลับ แทนที่จะนำเข้าหมูจากบราซิลหรือขายหมูไทยให้ถูกเท่ากับบราซิล เปลี่ยนเป็นการส่งเสริมให้ผู้เลี้ยงหมูไทยผลิตเพื่อการส่งออกเหมือนกับบราซิลจะเป็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน นอกจากจะช่วยนำเงินตราเข้าประเทศแล้วยังช่วยให้คนไทยได้บริโภคเนื้อหมูในราคาที่เหมาะสม ช่วยลดค่าครองชีพของประชาชนตามเป้าหมายของรัฐบาล และยังช่วยสร้างเศรษฐกิจไทยให้เติบโตจากการส่งออกเนื้อสัตว์” นายเดือนเด่น กล่าวย้ำ. -511 สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

ชายแดนแม่สายยังเละจมโคลน จับตาพายุลูกใหม่

แม้จะผ่านน้ำท่วมใหญ่ในรอบร้อยปีมาหลายวันแล้ว แต่ตอนนี้ชายแดนแม่สายยังเต็มไปด้วยความเสียหายและดินโคลนจำนวนมาก ชาวบ้านหลายคนยังไม่สมารถกลับเข้าบ้านได้

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค การซ้อมเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 7 ณ โรงเรือพระราชพิธี ท่าวาสุกรี และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ขณะที่ “เจ้าอาวาสวัดอรุณฯ” ให้กำลังใจทำหน้าที่ได้เต็มที่-ประสบความสำเร็จ

พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนตกหนัก 76 จังหวัด 19-23 ก.ย.

พายุดีเปรสชันบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “ซูลิก” แล้ว คาดขึ้นฝั่งเวียดนามคืนนี้ หัวพายุส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกมีฝนแล้ว ช่วงระหว่างวันที่ 19-23 ก.ย.67 มีพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมาก 76 จังหวัด