รฟท.ลงนามสัญญาว่าจ้าง ผู้ว่าการการรถไฟฯ คนที่ 20

กรุงเทพ 19 ก.ย. – การรถไฟแห่งประเทศไทย ลงนามสัญญาว่าจ้าง นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย คนที่ 20 พร้อมชู 6 วิสัยทัศน์ ขับเคลื่อนการรถไฟฯ ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางรางของภูมิภาค


การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้จัดพิธีลงนามสัญญาว่าจ้าง ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทยคนใหม่ โดยมีนายจิรุตม์ วิศาลจิตร ประธานกรรมการรถไฟฯ เป็นผู้ลงนามในสัญญาว่าจ้าง นายวีริศ อัมระปาล ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย คนที่ 20 อย่างเป็นทางการ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา โดยมีผู้บริหารระดับสูง และพนักงานการรถไฟฯ ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

ในโอกาสนี้ นายจิรุตม์ ได้กล่าวแสดงความยินดี และมอบนโยบายการดำเนินงาน โดยระบุถึงการให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติงานตามแผนฟื้นฟูกิจการรถไฟ ตามมติคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ให้สำเร็จเป็นรูปธรรม ตลอดจนมุ่งขับเคลื่อนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานให้สำเร็จตามแผนงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบการขนส่งทางราง ให้เป็นระบบขนส่งหลักของประเทศ ที่มีประสิทธิภาพ สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย


ด้านนายวีริศ กล่าวภายหลังจากลงนามในสัญญาว่าจ้าง ว่า มีความพร้อมที่จะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ผู้ว่าการรถไฟฯ ทันที เนื่องจากตระหนักดีถึงความสำคัญของบทบาท และภารกิจของการรถไฟฯ ในฐานะองค์กรรัฐวิสาหกิจด้านการขนส่งที่ใหญ่สุดของประเทศ ซึ่งขณะนี้การรถไฟฯ มีภารกิจที่ต้องเร่งดำเนินการในหลายด้าน โดยเฉพาะการสานงานต่อ เริ่มงานใหม่ ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม และรัฐบาล ในการขับเคลื่อนโครงการลงทุนระบบโครงสร้างพื้นฐานขนส่งรางให้สำเร็จตามแผน อาทิ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 1 จำนวน 4 โครงการ และระยะที่ 2 อีก 6 เส้นทาง โครงการรถไฟทางคู่สายใหม่ โครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา รวมถึงโครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย

ตลอดจนการมุ่งพัฒนาอุตสาหกรรมระบบรางของไทยให้เติบโตต่อเนื่อง พร้อมกับขยายขีดความสามารถการขนส่งทางราง ให้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางรางในภูมิภาคอาเซียนให้ได้โดยเร็ว ภายใต้กรอบทิศทางการดำเนินงานสู่วิสัยทัศน์ “เพิ่มโอกาส เพิ่มคุณค่า ลดภาระของรัฐ พัฒนาบุคลากร” จำนวน 6 ด้าน ได้แก่ 1.ดำเนินกิจการเพื่อเพิ่มรายได้ 2.พัฒนาการให้บริการ 3.การลดรายจ่าย 4.บริหารจัดการด้านบุคลากร 5.สนับสนุนประสานงานติดตาม และเร่งรัดโครงการ โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญตามนโยบายรัฐบาล และ 6.ดำเนินโครงการด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม

นอกจากนี้จะให้ความสำคัญต่อการร่วมพบปะหารือกับพนักงานการรถไฟฯ และสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อร่วมรับฟังความคิดเห็นและนำมาปรับใช้ในการปฏิบัติงานร่วมกัน ตลอดจนดูแลด้านสวัสดิการต่าง ๆ ให้พนักงานการรถไฟฯ สร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งในส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค เพื่อนำข้อมูล ทุกความคิดเห็นจากคนรถไฟ มาสานต่องานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด


นายวีริศ กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า ในฐานะผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย คนที่ 20 มีความพร้อมที่จะเดินหน้าขับเคลื่อนภารกิจรถไฟอย่างเต็มศักยภาพ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งทางรางของไทยให้แข่งขันกับนานาประเทศ รวมถึงเป็นฟันเฟืองหลักในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งระดับบนและฐานราก ตลอดจนยกระดับคุณภาพชีวิตในการเดินทางขนส่งที่ดีต่อพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนต่อไป.-513-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย