กรุงเทพ 17 ก.ย. – สำนักงาน กสทช.ร่วมกับองค์กรภาคี เปิดตัว “Scam Alert” ศูนย์รวมข้อมูลเตือนภัยกลโกงมิจฉาชีพ โดยช่องทางเผยแพร่ในภาพรวมคือ Facebook และ ฟีเจอร์ (Feature) ของแอปพลิเคชั่น Whoscall ซึ่งแพลตฟอร์มฐานข้อมูลแบบรวมศูนย์จะช่วยแจ้งเตือนภัยกลลวงและรับมือการหลอกลวงจากมิจฉาชีพออนไลน์ในรูปแบบต่างๆได้ทันท่วงทีและทั่วถึง
ในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมาการหลอกลวงออนไลน์เป็นหนึ่งในปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อคนไทยหลายแสนคนต่อปี สถิติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติระหว่างเดือนมีนาคม 2565 ถึงกรกฎาคม 2567 พบว่าความเสียหาย จากการถูกหลอกลวงผ่านช่องทางออนไลน์มีมูลค่ารวมเกือบ 7 หมื่นล้านบาท หรือ เฉลี่ย 78 ล้านบาทต่อวัน โดยผลสำรวจเบื้องต้นจากรายงานขององค์กรต่อต้านกลโกงระดับโลก Global Anti-Scam Alliance (GASA) ประจำปี 2567 ยังพบว่ามีคนไทยเพียง 55% ที่มั่นใจว่า รู้เท่าทันมิจฉาชีพ และ 89% เผยว่าต้องรับมือกับมิจฉาชีพ อย่างน้อยเดือนละครั้ง สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันที่มิจฉาชีพได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อพัฒนา วิธีการหลอกลวงให้มีความแนบเนียนและก้าวล้ำมากยิ่งขึ้นด้วยการสร้างข่าวเท็จ และเว็บไซต์ปลอมอีกมากมาย นอกเหนือจากการหลอกลวงในรูปแบบเดิมผ่านการโทรเข้าและส่งข้อความสแปม โดยในช่วงหกเดือนแรกของปีนี้ Whoscall สามารถตรวจพบสายโทรเข้าจากมิจฉาชีพได้เกือบถึง 19 ล้านครั้ง ในขณะที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) สามารถปิดกับเว็บไซต์ที่บิดเบือน/หลอกลวง จำนวนกว่า 47,000 รายการ ระหว่างเดือนตุลาคม 2566 – สิงหาคม 2567
Whoscall จึงได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน 11 องค์กร นำโดยสำนักงานคณะกรรมการ กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เล็งเห็นถึงความสำคัญว่าอาชญากรรมไซเบอร์เป็นภัยคุกคามที่สำคัญซึ่งไม่เพียงส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคแต่รวมถึงภาครัฐ และธุรกิจด้วย จึงได้เปิดตัวฟีเจอร์ ‘Scam Alert’ (เตือนภัยกลโกง) ศูนย์รวมข้อมูล เพื่อป้องกันการหลอกหลวงจากมิจฉาชีพแห่งแรกของไทยแบบรวมศูนย์ เพื่อจัดการกับข้อมูลจำนวนมาก จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ แจ้งเตือนภัยและให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับการหลอกลวงที่อาจเกิดขึ้นในภาคส่วน ต่างๆ ได้รับทราบอย่างทั่วถึง
ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (ประธาน กสทช.) กล่าวว่า อาชญากรรมไซเบอร์เป็นภัยคุกคามที่สำคัญ ซึ่งไม่เพียงส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคแต่รวมถึงภาครัฐและธุรกิจด้วย ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กสทช. ได้ทำงาน เชิงรุกร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และองค์กรเอกชนชั้นนำเพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการป้องกัน อาชญากรรม ทางไซเบอร์ของประเทศ โดยได้ดำเนินการออกกฎระเบียบข้อบังคับและแนวปฏิบัติด้านความปลอดภัยเพื่อรับมือ กับภัยคุกคามทางไซเบอร์สำหรับภาคธุรกิจโทรคมนาคม โครงการ Scam Alert เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการ สร้างสภาพแวดล้อมดิจิทัลที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น ด้วยการแบ่งปันความรู้และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและ เอกชน เสริมความแข็งแกร่งให้ประชาชนได้รับข้อมูลและปกป้องจากภัยคุกคามของการหลอกลวงทางออนไลน์ ที่เพิ่มขึ้นซึ่งขณะนี้มีผู้ใช้งาน Scam Alert และ แอปพลิเคชั่น Whoscall แล้วประมาณ 20 ล้านคนในไทย
นายแมนวู จู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โกโกลุก (ประเทศไทย) กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทย ประสบปัญหากับ ภัยหลอกลวงออนไลน์ที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทุกฝ่ายต้องหันมาให้ความสำคัญ กับการเตือนภัยและการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจหลักของบริษัทโกโกลุก ที่พร้อมจะนำเสนอเครื่องมือป้องกันมิจฉาชีพ ที่ครอบคลุมสำหรับผู้บริโภคและภาคธุรกิจและพร้อมเดินหน้าติดอาวุธ ทางปัญญาเพื่อเพิ่มพูนความรู้ในการป้องกันภัยจากกลโกงให้แก่ประชาชนผ่านโครงการเพื่อสังคม เช่น โครงการ Cyber Vaccinated ที่ได้ร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อย่างไรก็ตาม การป้องกันการหลอกลวง จำเป็นต้องได้รับการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ดังนั้น การเปิดตัวฟีเจอร์ Scam Alert ในครั้งนี้ นอกจากจะสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการพัฒนา แอปพลิเคชัน Whoscall ให้เป็นโซลูชันป้องกัน การหลอกลวงแบบครบวงจร เพื่อปกป้องให้ผู้ใช้งานมีความรู้เท่าทันและอยู่เหนือกลโกงของมิจฉาชีพแล้ว ยังเป็น การเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนที่มีเป้าหมายร่วมกันในการส่งเสริมสังคมที่ปลอดภัยมั่นคง ปราศจากการหลอกลวงจากมิจฉาชีพให้เข็มแข็งมากยิ่งขึ้น
บริการบนฟีเจอร์ Scam Alert Scam Alert เป็นแพลตฟอร์มที่ถูกออกแบบให้เป็นฐานข้อมูลแบบรวมศูนย์สำหรับประชาชน โดยแบ่งเป็น การเตือนภัยโดยตรงจากหน่วยงานภาครัฐและข้อมูลเตือนภัยกลโกงในรูปแบบต่างๆ จากพันธมิตรภาคเอกชน ที่สามารถใช้ได้บน แอปพลิเคชัน Whoscall โดยไม่มีค่าใช้จ่ายทั้งเวอร์ชั่นฟรีและพรีเมียม
● เตือนภัยกลโกงล่าสุด (Scam Trending Alert) – ผู้ใช้งาน Whoscall สามารถเปิดการแจ้งเตือน อัตโนมัติบนแอปพลิเคชันเพื่อรับข้อมูลแจ้งเตือนภัยมิจฉาชีพที่สำคัญและเร่งด่วน เช่น การแอบอ้าง หน่วยงานที่สำคัญ การหลอกลวงที่มีมูลค่าความเสียหายขนาดใหญ่และก่อให้เกิดความเสียหายในวงกว้างและการโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคลจากองค์กรภาครัฐ เช่น กองบัญชาการตํารวจ สอบสวนกลาง ตำรวจไซเบอร์ กสทช. และ สกมช.
● เตือนภัยกลโกงรู้ทันมิจฉาชีพ (Scam Education Content) – ฟีเจอร์นี้จะเป็นแพลตฟอร์ม ที่รวมความรู้เกี่ยวกับ กลวิธีการหลอกลวง และเคล็ดลับการป้องกันต่างๆ จากภาคีเครือข่ายภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เช่น การหลอกลวงด้านการลงทุน การหลอกลวงการชำระบิล การหลอกลวง ในการซื้อของ การหลอกลวงทางอีคอมเมิร์ซ รวมถึงรายงานและข้อมูลเชิงลึกจาก Whoscall และ องค์กร Global Anti-Scam Alliance (GASA)
การป้องกันการหลอกลวงเริ่มต้นด้วยการได้รับข้อมูลอย่างทันท่วงทีจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ ซึ่งนอกเหนือจาก ผู้ใช้งานจะได้ รับทราบข้อมูลการเตือนภัย ผ่านฟีเจอร์ Scam Alert แล้ว Whoscall มีฟีเจอร์อื่นๆ เพื่อเป็นเกราะ ป้องกันความปลอดภัยเพิ่มเติม ให้แก่ผู้ใช้งานทุกคน เช่น Auto Web Checker เพื่อปกป้องผู้ใช้จากการคลิก ลิงก์ฟิชชิ่ง โดยไม่ได้ตั้งใจแบบอัตโนมัติ และ ID Security (เช็กข้อมูลรั่วไหม) เพื่อช่วยตรวจสอบความปลอดภัย ของข้อมูลส่วนบุคคลจากฟีเจอร์ที่ใช้งานได้ฟรีและแบบพรีเมียม นายแมนวู กล่าวทิ้งท้าย
นอกเหนือจากผู้ใช้งานจะได้รับทราบข้อมูลการเตือนภัยผ่านฟีเจอร์ Scam Alert แล้ว ประชาชนก็สามารถใช้ เครื่องมือต่าง ๆ ที่ภาครัฐและเอกชนพัฒนาขึ้นเป็นกลไกในการจัดการกับปัญหามิจฉาชีพ อาทิ การแจ้งความ ดำเนินคดีที่ศูนย์ AOC 1441 หรือ thaipolice.go.th หรือ ผ่านทางเว็บไซต์ตำรวจสอบสวนกลางที่ https://www.cib.go.th/e-service หรือการแจ้งเลขหมายที่เป็น มิจฉาชีพต่อ กสทช. ที่ 1200 โทรฟรี หรือแจ้งที่ผู้ให้บริการมือถือแต่ละรายและช่องทางในการสื่อสารต่างๆ ขององค์กรภาคีด้วย.-513-สำนักข่าวไทย