กรุงไทย เปิดจองซื้อ “กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง” ผ่าน Krungthai NEXT และสาขา 16-20 ก.ย.นี้

กรุงเทพฯ 13 ก.ย. – ธนาคารกรุงไทย เปิดจองซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง ประเภท ก. ที่เสนอขายแก่ผู้ลงทุนทั่วไป ผ่าน Krungthai NEXT และสาขาทั่วประเทศ เปิดโอกาสคนไทยเข้าถึงสินทรัพย์มั่นคง เพิ่มทางเลือกในการออมพลิกเงิน ลงทุนให้งอกเงย รับผลตอบแทนสม่ำเสมอ โดยมีกลไกในการคุ้มครองเงินลงทุนและผลตอบแทน ดีเดย์ 16-20 ก.ย.นี้


​ตามที่กระทรวงการคลัง มีนโยบายเปิดขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง โดยเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. แก่ผู้ลงทุนทั่วไปมูลค่า 100,000 – 150,000 ล้านบาท ธนาคารกรุงไทย ในฐานะธนาคารพาณิชย์ของรัฐมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทางการเงิน ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มในทุกมิติ สนับสนุนการออมและการลงทุน เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนการขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง หน่วยลงทุนประเภท ก. เตรียมเปิดให้ลูกค้าประชาชนจองซื้อหน่วยลงทุนประเภท ก. ของกองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง เพื่อเปิดโอกาสให้คนไทย เข้าถึงการลงทุนในสินทรัพย์มั่นคง พลิกเงินลงทุนให้งอกเงย โดยเปิดจองซื้อผ่าน 2 ช่องทางคือ จองซื้อผ่านช่องทางสาขา ของธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศ และจองซื้อออนไลน์ผ่าน Money Connect บนแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ของวันที่ 16 กันยายน ถึง เวลา 16.00 น. ของ วันที่ 20 กันยายนนี้

กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง (VAYU 1) เสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. แก่ผู้ลงทุนทั่วไป เพื่อเป็นทางเลือก ในการออมให้กับประชาชน และโอกาสรับผลตอบแทนที่สม่ำเสมอตลอดระยะเวลาลงทุน ระยะเวลาลงทุนเบื้องต้น 10 ปี ราคาเสนอขาย 10 บาทต่อหน่วย รวมประมาณ 100,000-150,000 ล้านบาท แบ่งเป็นบุคคลธรรมดาสัญชาติไทย ที่มีถิ่นที่อยู่ในไทยและมีอายุไม่น้อยกว่า 20 ปีบริบูรณ์ หรือนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย หรือกองทุนส่วนบุคคลของผู้ลงทุนรายย่อย สัดส่วนเสนอขาย 30,000-50,000 ล้านบาท และกลุ่มที่ 2 ผู้ลงทุนสถาบันและนิติบุคคลเฉพาะกลุ่ม สัดส่วนเสนอขาย 100,000-120,000 ล้านบาท โดยบุคคลทั่วไปจองซื้อขั้นต่ำ 10,000 บาท (1,000 หน่วย) เพิ่มขึ้นครั้งละ 1,000 บาท (100 หน่วย) จัดสรรด้วยวิธี Small Lot First (ผู้จองซื้อที่จำนวนขั้นต่ำได้รับจัดสรรก่อน) โดยจะประกาศผลการจัดสรรภายในวันที่ 25 กันยายน 2567 ผ่าน www.settrade.com และคาดว่าจะนำหน่วยลงทุนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้


กองทุนฯ มีนโยบายลงทุนแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ หลักทรัพย์สภาพคล่อง หลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และหลักทรัพย์อื่นๆ ที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยมีนโยบายจ่ายเงินปันผลอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เฉพาะกรณี ที่กองทุนรวมมีกำไรของกองทุนรวม และ/หรือสำรองเงินปันผลตามอัตราผลตอบแทนที่เกิดขึ้นจริงของกองทุนรวม แต่ไม่ น้อยกว่าอัตราขั้นต่ำที่กำหนดไว้ร้อยละ 3 ต่อปี และไม่เกินอัตราขั้นสูงที่กำหนดไว้ร้อยละ 9 ต่อปี โดยคำนวณ จากราคา พาร์ที่ 10 บาทต่อหน่วย ซึ่งกำหนดเป็นอัตราคงที่ตลอด 10 ปี

อย่างไรก็ดี กองทุนรวมฯ ไม่มีผู้รับประกันหรือค้ำประกันเงินลงทุน หากมูลค่าทรัพย์สินที่กองทุนรวมเข้าไป ลงทุน ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ หรือดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับตัวลงอย่างรุนแรง อาจส่งผลกระทบในเชิงลบต่อมูลค่าทรัพย์สิน สุทธิของกองทุนรวมจนทำให้กลไกในการคุ้มครองเงินลงทุนไม่เพียงพอที่จะรองรับผลประทบเชิงลบดังกล่าวและทำให้ผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ก. อาจไม่ได้รับเงินต้นคืนบางส่วนหรือทั้งหมด นอกจากนี้ กองทุนรวมไม่มีผู้รับประกันหรือค้ำประกัน ผลตอบแทน โดยในกรณีที่มีเหตุการณ์ใดๆ ที่ส่งผลทำให้กำไรของกองทุนรวม และสำรองเงินปันผลของกองทุนรวม ลดลง จนไม่เพียงพอที่จะจ่ายเงินปันผล ในอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ก.ผู้ถือหน่วยลงทุนอาจได้รับ เงินปันผลจริงในอัตราที่ต่ำกว่าอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำร้อยละ 3 ต่อปี หรืออาจไม่ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนเลย ในกรณีที่กำไรของกองทุนรวม และสำรองเงินปันผลของกองทุนรวมหมดไป

ทั้งนี้ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน กองทุนฯ มี นโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจบริษัทจัดการ ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือ ได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ และกองทุนฯนี้ ไม่ใช่กองทุนรวมมีประกันเงินลงทุนและผลตอบแทน สามารถ ดาวน์โหลดหนังสือชี้ชวนเพื่อศึกษารายละเอียดก่อนทำการจองซื้อหน่วยลงทุนจากเว็ปไซต์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ www.sec.or.th หรือเว็ปไซต์บริษัทจัดการที่ www.ktam.co.th และ www.mfcfund.com สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Krungthai Contact Center 02-111-1111. -516-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

แม่คะนิ้งโผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดอุทยานฯ พรุ่งนี้

จังหวัดเลย อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ “แม่คะนิ้ง” โผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดให้ท่องเที่ยวพรุ่งนี้ (23 ธ.ค.) หลังปิดมา 9 วัน จากเหตุช้างป่า

อุตุฯ เผยไทยตอนบน อุณหภูมิขยับลงอีก 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศหนาวเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลงอีก 1 – 2 องศาฯ ยอดดอยและยอดภูหนาวจัด มีน้ำค้างแข็งบางแห่ง

ยิงพรานล่าหมูป่า

เพื่อนรับเป็นคนยิงนายพรานวัย 52 อ้างคิดว่าเป็นหมูป่า

เพื่อนเปิดปากรับสารภาพเป็นคนใช้อาวุธปืนยิงนายพรานวัย 52 ปี เสียชีวิตในสวนผลไม้ อ้างคิดว่าเป็นหมูป่า ยืนยันไม่ได้มีปัญหาหรือมีเรื่องกันมาก่อน