ปลัดคลังสั่งคลังจังหวัดร่วมออกมาตรการขับเคลื่อนเศษฐกิจระดับภูมิภาค

กรุงเทพฯ 
6 ก.ย. –ปลัดกระทรวงการคลังสั่งคลังจังหวัดร่วมออกมาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภูมิภาค
โดยเฉพาะการพัฒนาท้องถิ่นต่าง ๆ รวมทั้งการส่งเสริมให้ท้องถิ่นมีการใช้บัตรเดบิตแทนเงินสดในพื้นที่


นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง
กล่าวระหว่างเป็นประธานมอบรางวัล คณะผู้บริหารการคลัง (คบจ.) ดีเด่น
ประจำปีงบประมาณ
2559 ว่า รัฐบาลมีนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค
จึงได้ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด คบจ.และหน่วยงานต่าง ๆ
ศึกษามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคให้สอดคล้องกับพื้นที่
ผ่านการใช้เงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่มีอยู่ในปัจจุบัน
100,000-200,000 ล้านบาท โดยใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามศักยภาพของพื้นที่
เช่น กลุ่มจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ต้องพัฒนาด้านถนน สาธารณูปโภค
การอบรมพัฒนาไกด์นำเที่ยว ดูแลคุณภาพบริการ อาหาร โรงแรมที่พัก
สินค้าชุมชนที่ดึงดูดการท่องเที่ยว โดยมาตรการระดับจังหวัดคาดว่าจะประกาศได้ในเร็ว
ๆ นี้  และหากร่วมกันเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณให้ดีต่อเนื่อง
เพื่อให้เงินลงทุนโครงการรัฐออกสู่ระบบและดูแลเงินลงทุนทุกโครงการ
คาดว่าในปีนี้จีดีพีของไทยจะขยายตัวได้ร้อยละ
4 อย่างแน่นอน

นายสมชัย กล่าวว่า เพื่อการรองรับนโยบายThailand.4.0. จึงสนับสนุนให้หน่วยงานภาครัฐและร้านค้าในจังหวัดติดตั้งเครื่องรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์
(
EDC) เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนใช้บัตรเดบิตแทนเงินสด
จึงมอบหมายให้คบจ.คัดเลือกพื้นที่เพื่อจัดตลาดนัด หรือถนนคนเดินในจังหวัด
ให้เป็นพื้นที่หรือถนนไร้เงินสด เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนในต่างจังหวัดเริ่มใช้จ่ายแบบไร้เงินสด
แม้จะอยู่ในตลาดพื้นที่ต่างจังหวัด และยังจัดทำโปรโมทการท่องเที่ยว
หากนักท่องเที่ยวมาเยือนสามารถใช้จ่ายเงินผ่าน
QR Code หรือใช้บัตรเดบิตรูดเงินผ่านเครื่อง EDC เป็นตลาดคนเดินยุคใหม่
นอกจากนี้ยังต้องการเน้นให้คลังจังหวัด ส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้น (
Startup)  ประสานหน่วยงานภาคเอกชนและสถาบันการศึกษา
เพื่อจัดตั้งโครงการ
Startup.Club ในโรงเรียนระดับมัธยมและอาชีวศึกษา พัฒนาทักษะให้เยาวชนเป็นผู้ประกอบการ
สร้างสรรค์ผลงานนวัตกรรม และดึงภาคเอกชนเข้ามาร่วมส่งเสริม
มีการจัดเวทีประกวดแข่งขันในระดับจังหวัด ระดับประเทศ


นายสมชัย กล่าวด้วยว่า กระทรวงการคลังเตรียมเสนอแนวคิดการระดมทุนผ่านกองทุน
Socail Bond ต่อคณะกรรมการประชารัฐด้านสังคม
เพื่อดึงให้บริษัทเอกชนเข้ามาร่วมโครงการในการดูแลสังคม โดยมีมาตรการต่าง ๆ จูงใจในการระดมทุน
Socail Bond จากภาคเอกชนผ่านโครงการสังคม
เช่น การสร้างที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ
หากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใดต้องการระดมทุนในการพัฒนาโครงการสามารถยื่นขอระดมทุนได้-  สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง