กรุงเทพฯ 11 ก.ย.- การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคหรือ PEA แถลงผลงานในโอกาสครบรอบ 64 ปี 28 กันยายน 2567 เดินหน้าบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพด้วยระบบไฟฟ้าอัจฉริยะ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอยู่คู่กับชุมชนอย่างยั่งยืน มุ่งมั่นสร้างความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้า ควบคู่กับความยั่งยืน
นายศุภชัย เอกอุ่นผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) แถลงข่าวผลงานของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในโอกาสครบรอบ 64 ปี 28 กันยายน 2567 มุ่งสู่องค์กรที่เป็นเลิศด้านธุรกิจพลังงานไฟฟ้า ร่วมสร้างคุณค่าสู่สังคมและสิ่งแวดล้อม ตามวิสัยทัศน์ “ไฟฟ้าอัจฉริยะ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน”
PEA นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาให้บริการ ยกระดับระบบจำหน่ายแรงต่ำ นำร่องใช้ Advanced Metering Infrastructure ในเมืองพัทยากว่า 1 แสนเครื่อง สับเปลี่ยน e-Meter ทดแทนมิเตอร์จานหมุนทั่วประเทศ นำ IoT sensors มาติดตั้งและใช้งานในหม้อแปลงระบบจำหน่าย พร้อมระบบบริหารจัดการหม้อแปลง DTMS เสริมความมั่นคงการจ่ายไฟ
PEA ติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้ารถ EV กว่า 400 สถานี ครอบคลุม 75 จังหวัดและให้บริการเครื่องชาร์จไฟฟ้าพิกัดสูง สามารถใช้งานผ่าน PEA Volta Application มีฟังก์ชันค้นหาสถานีชาร์จ ควบคุมการเริ่มหรือหยุดชาร์จ และชำระค่าบริการ ในอนาคตจะเพิ่มการบริการสถานี PEA Volta ให้กลุ่มลูกค้าองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน
PEA มีโครงการส่งเสริมพลังงานทดแทน โดยสนับสนุนโรงอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อใช้อบแห้งผลผลิตทางการเกษตรแก่วิสาหกิจชุมชน สำหรับภาคประชาชน สนับสนุนการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ SOLAR ROOFTOP ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายประเทศที่มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน
PEA ยังมีนโยบาย Green Finance เป็นรัฐวิสาหกิจด้านพลังงานแห่งแรกที่จัดทำ ESG BOND อายุพันธบัตร 5 ปี วงเงินรวม 1,000 ล้านบาท โดยนำไปลงทุนในโครงการก่อสร้างสายเคเบิลใต้น้ำไปยังเกาะเต่าและโครงการพัฒนาระบบไฟฟ้าแบบโครงข่ายไฟฟ้าขนาดเล็กมากบนพื้นที่เกาะพะลวย จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ก้าวต่อไปของ PEA ยังคงมุ่งเน้นระบบโครงข่ายและระบบจำหน่ายที่มั่นคง รองรับการขยายตัวของลูกค้าอุตสาหกรรมและการเพิ่มขึ้นของพลังงานสะอาด เดินหน้าพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่องด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม. -512-สำนักข่าวไทย