เวทีสภาผู้บริโภคอาเซียน+3 ประกาศความสำเร็จ ลงนาม MOU ร่วมมือปราบภัยไซเบอร์ข้ามชาติ

กรุงเทพ 30 ส.ค. – องค์กรของผู้บริโภคในอาเซียนกังวลอย่างหนักถึงภัยไซเบอร์ที่สร้างความเสียหายลุกลามอย่างก้าวกระโดด กฎหมายที่มีอยู่ก้าวตามไม่ทันมิจฉาชีพจนเป็นภัยคุกคามเศรษฐกิจและชีวิตเผยข้อมูลเวียดนามเจ็บหนัก ปี 66 เสียหายสูง 3.6% ของจีดีพี ผู้บริโภคฮ่องกงสูญเงินไม่น้อยกว่า 25 ล้านเหรียญ ส่วนคนไทยไม่น้อยหน้าเงินหายจากกระเป๋าหรือบัญชีธนาคารวันละ 78 ล้านบาท พร้อมประกาศจับมือทำเอ็มโอยูรวมพลังเข้มแข็งเดินหน้าสู้ศึกภัยออนไลน์ปกป้องสิทธิผู้บริโภค


นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาองค์กรของผู้บริโภค หรือสภาผู้บริโภค เปิดเผยว่า เวทีการประชุม “สานพลังอาเซียนบวกสาม เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคในเศรษฐกิจดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์” ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในอาเซียน ภายใต้ความร่วมมือของ สภาผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค มูลนิธิผู้บริโภคแห่งอินโดนีเซีย (YLKI) และสหพันธ์องค์กรผู้บริโภคมาเลเซีย (FOMCA) รวมทั้งองค์กรของผู้บริโภคในภูมิภาคอาเซียน +3 ระหว่างวันที่ 29-30 สิงหาคม 2567 ประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะนอกจากการแลกเปลี่ยนข้อมูลองค์ความรู้การป้องกันและจัดการการละเมิดสิทธิผู้บริโภคทางไซเบอร์แล้ว ยังมีการลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ร่วมกัน เพื่อเป็นกรอบความร่วมมือระหว่างองค์กรผู้บริโภคอาเซียน ในการเสริมสร้างความเข้มแข็งต่อการแลกเปลี่ยนข้อมูลและองค์ความรู้ที่ทำให้สมาชิกทุกประเทศได้รับผลประโยชน์อย่างความเท่าเทียม เพื่อพัฒนาการคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภคในแต่ละประเทศ และเสริมสร้างศักยภาพในระดับเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  ซึ่งผู้บริโภคไทยจะได้รับประโยชน์อย่างมาก จากข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า ในช่วง 3 ปี (1 มี.ค.2565-31 ก.ค.2567) มีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับภัยออนไลน์สูงถึง 612,603 เรื่อง มูลค่าความเสียหายรวม 69,186 ล้านบาท หรือเฉลี่ยวันละกว่า 78 ล้านบาท

ดร.อัมรินทร์ พิมพ์หนู ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางในการควบคุมและส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า คณะกรรมาธิการฯ อยู่ระหว่างการพิจารณาอย่างเร่งด่วนต่อแนวทางในการกำกับดูแลการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ โดยการออกกฎหมายปัญญาประดิษฐ์ในประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเด็นที่ให้ความสนใจเช่นเดียวกับหลายๆ ประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมต่อการแก้ไขปัญหาในสถานการณ์ของเทคโนโลยีเอไอ รวมทั้งเทคโนโลยีเกิดใหม่และที่จะเกิดขึ้นอีกในอนาคต
 
นางสาวอลิซ แพม (Ms. Alice Pham) ผู้อำนวยการสำนักงานเอพีวิจัยประเทศเวียดนาม กล่าวถึง ภัยการหลอกลวงและการฉ้อโกงออนไลน์โดยใช้เอไอ ส่งผลต่อมูลค่าความสูญเสียของผู้บริโภคเวียดนามในปี 2566 กว่า 16,230 ล้านเหรียสหรัฐหรือเทียบเท่า 3.6% ของ GDP ในปีเดียวกันกระทรวงความมั่นคงสาธารณะได้ดำเนินคดีด้านนี้สูงถึง 1,500 คดี สูญเสียเงินรวม 318-398 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่กระทรวงสารสนเทศและการสื่อสารรายงานการร้องเรียนจากผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 17,400 กรณี มูลค่ากว่า 12 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยพบรูปแบบการหลอกลวงมากถึง 24 ประเภท รวมถึงการแอบอ้างชื่อตราสินค้า การแฮ็กบัญชี ซึ่งเกิดจากซิมการ์ดโทรศัพท์ที่ไม่เปิดเผยตัวตน บัญชีธนาคารที่ไม่ได้รับอนุญาต การรั่วไหลของข้อมูลส่วนตัว รวมถึงการเติบโตของเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น Al DeepFake เป็นต้น


ทั้งนี้ รัฐบาลเวียดนามมีความพยายามแก้ไขปัญหาหลอกลวงและการฉ้อโกงออนไลน์ ผ่านเครื่องมือที่ผสมผสาน ทั้งการบังคับใช้กฎหมายความคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคหลายฉบับ รวมทั้งร่างกฎหมายว่าด้วยอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัล รวมทั้งการให้การศึกษาและการสร้างความตระหนักรู้แก่ผู้บริโภค ตลอดจนการดำเนินคดีและการแสวงหาความร่วมมือระหว่างประเทศ เป็นต้น

นายอัง จง ซิน วิลเฟรด (Mr. Ang Zhong Xin Wilfred) รองหัวหน้าฝ่ายผู้บริโภคสัมพันธ์ สมาคมผู้บริโภคแห่งสิงคโปร์ กล่าวว่า สิงคโปร์มีความกังวลอย่างยิ่งในการเผชิญปัญหาการใช้เอไอที่มีความทันสมัยและเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการหลอกหลวงผู้บริโภคในสิงคโปร์ โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของกรณีการปลอมแปลงเสียงพูดเพื่อนำไปสู่การหลอกลวง รวมทั้งการทุจริตโดยใช้ระบบแชทบอท ซึ่งได้สร้างปัญหาใหญ่ให้กับธนาคารและตำรวจ เนื่องจากสิงคโปร์ยังมีข้อมูลด้านนี้ไม่เพียงพอและไม่มีกฎหมายที่ทันสมัยต่อการควบคุมอย่างเข้มข้น โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 พบข้อร้องเรียนเกี่ยวกับอีคอมเมิร์ซ 2,611 กรณี  ซึ่งเกินครึ่งเมื่อเทียบกับช่วงเวลาตลอดทั้งปี 2566 ที่มีข้อร้องเรียน 3,711 กรณี ปัญหา 5 อันดับแรก คือปัญหาการปฏิเสธจากผู้ให้บริการ 922 กรณี รองลงคือความล่าช้าในการคืนเงิน 363 กรณี บริการที่ไม่น่าพึ่งพอใจ 332 กรณี การชดเชย 278 กรณี และสินค้าค้ามีตำหนิหรือไม่เป็นไปตามข้อกำหนด 242 กรณี โดยส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมบันเทิง 559 กรณี อาหารและเครื่องดื่ม 266 กรณี ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 183 กรณี โทรคมนาคม 139 กรณี และสายการบิน 125 กรณี ในขณะที่การแก้ไขปัญหาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสิงคโปรได้ร่วมมือกับผู้ค้าในเว็บไซต์และแอพลิเคชันอีมาร์เก็ตสำคัญ เช่น ลาซาด้า และช้อปปี้ ในการระงับข้อพิพาท และแสวงหาความร่วมมือที่เข้มแข็งระหว่างประเทศทั้งในและนอกภูมิภาค เนื่องจากภัยไซเบอร์ที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มาจากนอกประเทศ
 
นางสาวกิลลี วอฟัง-ฮาน (Ms. Gilly Wong Fung-han) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสภาผู้บริโภคฮ่องกง เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวว่า ฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางทางการเงินระดับโลก และผู้นำนวัตกรรมดิจิทัล กำลังดำเนินกลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลกว่า 100 โครงการ ซึ่งเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2567 ที่ผ่านมา ได้จัดตั้งสำนักนโยบายดิจิทัลเพื่อกำหนดนโยบายและแนวทางการคุ้มครองผู้บริโภคต่อภัยทางด้านเทคโนโลยีเอไอที่เข้มเข็งและทันต่อสถานการณ์ โดยในปี 2566 พบว่า การหลอกหลวงการซื้อขายออนไลน์เป็นปัญหาใหญ่อันดับหนึ่งของผู้บริโภคฮ่องกงในสัดส่วนสูงถึง 32.28% ขณะที่ล่าสุดในเดือนพฤษภาคม 2567 พบการปลอมแปลงคลิปวิดีโอออนไลน์โดยการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือคนดังสูงถึง 21 คลิป และคนฮ่องกงถูกหลอกให้จ่ายเงินถึง 25 ล้านเหรียญสหรัฐ หลังถูกหลอกให้หลงเชื่อว่า ได้วิดีโอคอลกับรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินของบริษัทข้ามชาติในอังกฤษ ในส่วนของการป้องกัน ได้ใช้การผสมผสานมาตรการที่หลากหลาย เช่น การใช้เครื่องมือที่เรียกว่า“สแกมเตอร์ (Scameter)” เพื่อค้นหาการหลอกลวงแบบครบวงจรในระบบออนไลน์ การส่งเสริมความรู้แก่ผู้บริโภค การเฝ้าระวังตลาดออนไลน์และออฟไลน์ เช่น การจัดทำเว็บไซต์ Online Price Watch และ Oil Price Watch เพื่อตรวจสอบราคาสินค้าและน้ำมันเพิ่มความโปร่งใส่ต่อการกำหนดราคา และการประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ เป็นต้น.-513-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 14 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร […]

พระปรางค์วัดอรุณ

ข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.- “แพทองธาร” เผยข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลกของยูเนสโกแล้ว นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า “ข่าวดีของคนไทย “พระปรางค์วัดอรุณ ราชวรารามราชวรมหาวิหาร” ได้รับการบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก (Tentative List) ของยูเนสโกแล้วค่ะ ดิฉันได้รับรายงานจากคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ณ กรุงปารีส แจ้งว่า ที่ประชุมได้รับทราบว่าพระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นหนึ่งในรายชื่อบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการยกระดับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่างสมบูรณ์ในอนาคต กระทรวงวัฒนธรรมมอบหมายให้กรมศิลปากรดำเนินการจัดทำเอกสารเสนอชื่อ (Nomination Dossier) ควบคู่กับการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และจัดการพื้นที่ตามหลักสากล เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ขั้นตอนต่อไป ความคืบหน้านี้เป็นมากกว่าการอนุรักษ์สถานที่ แต่คือการยืนยันอัตลักษณ์ไทยที่งดงามและทรงคุณค่าในสายตาชาวโลก นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่นี้” .-316 สำนักข่าวไทย

ตรวจสอบรายรับรายจ่ายวัดใหญ่จอมปราสาท

สมุทรสาคร 13 ก.ค. – เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรายรับรายจ่ายของวัดใหญ่จอมปราสาท นำมาเทียบกับเส้นเงินของของเจ้าอาวาสที่หนีไป หลังตรวจพบโอนเงินให้สีกา ก. กว่า 1 ล้านบาท ที่วัดใหญ่จอมปราสาท ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำคณะเข้าพบ พระครูสาครสุตกิจ เจ้าคณะตำบลท่าฉลอม เจ้าอาวาสวัดน้อยนางหงษ์ คณะพระสงฆ์ (พระลูกวัด) วัดใหญ่จอมปราสาท ผู้นำชุมชน และคณะกรรมการวัด เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ระบบการเงินในวัดใหญ่จอมปราสาท เพื่อนำไปเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระมหาทิวากร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ตรวจพบว่าได้โอนเงินกว่า 1 ล้านบาทไปให้สีกา ก. แต่ยังไม่มีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง ประเด็นที่ต้องการทราบเพิ่มเติมคือ เงินที่โอนให้สีกาเป็นเงินส่วนไหน แล้วเงินวัดมีรายรับจากที่ใดบ้าง มีรายจ่ายอย่างไร รวมถึง เงินวัดนั้นเข้าบัญชีใคร มีไวยาวัจกรณ์เบิกจ่ายหรือไม่ หรือใครเป็นผู้ทำหน้าที่รับและเบิกจ่ายเงินทั้งหมด ผู้ใหญ่บ้านชี้แจงว่า ทางวัดยังไม่มีไวยาวัจกรวัดคนใหม่ หลังจากคนเก่าลาออกไปเล่นการเมืองท้องถิ่น ส่วนเงินวัดนั้นเจ้าอาวาสเป็นผู้บริหารแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเงินวัดก็จะมีรายรับมาจากให้ที่จอดเรือบริเวณหน้าวัด ประมาณเดือนละ […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]