21 ส.ค. – นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. ปตท. เปิดเผยว่า บอร์ด ปตท.ได้เห็นชอบกลยุทธ์ใหม่ภายใต้วิสัยทัศน์ “ปตท. แข็งแรงร่วมกับสังคมไทยและเติบโตในระดับโลกอย่างยั่งยืน” หรือ “TOGETHER FOR SUSTAINABLE THAILAND, SUSTAINABLE WORLD” เร่งสร้างความแข็งแรงและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในธุรกิจ Hydrocarbon ที่เป็นธุรกิจหลัก ที่มีความเชี่ยวชาญ ควบคู่กับการลดก๊าซเรือนกระจก และลดสินทรัพย์ที่ไม่สร้างผลกำไร โดยธุรกิจ Downstream จะปรับตัวรับความเปลี่ยนแปลง และสร้างความแข็งแรงร่วมกับพันธมิตร โดย ปตท. เตรียมลดสัดส่วนการลงทุน ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาเพื่อหาพาร์ทเนอร์เข้ามาร่วมลงทุนในธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมี อย่างไรก็ตาม ปตท. ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่ และจะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับบริษัทลูก
ธุรกิจน้ำมันและการค้าปลีกจะต้องมุ่งหน้า ใน Mobility Partner ของคนไทย ปรับพอร์ตการลงทุนให้แข็งแกร่งรวมถึงการรักษาการเป็นผู้นำตลาด ส่วนธุรกิจ EV จะมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจสถานีชาร์จ EV เนื่องจากมีจุดแข็งจาก OR ที่มีสถานีบริการน้ำมันอยู่ทั่วประเทศ ในขณะที่สภาพคล่องของ ปตท.ขณะนี้มีราว 1 แสนล้านบาท และหากรวมทั้งกลุ่มมีราว 4.5 แสนล้านบาท เป็นวงเงินที่เตรียมพร้อมในการบริหารหากเกิดผลกระทบทางวิกฤติภูมิรัฐศาสตร์โลก รวมทั้งเป็นวงเงินที่พร้อมหาโอกาสสำหรับการลงทุน
สำหรับผลดำเนินงานครึ่งแรกของปีนี้ มีกำไรสุทธิ 64,437 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.4% บอร์ด ปตท. ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ที่ 0.80 บาทต่อหุ้น และส่งผลให้ กลุ่ม ปตท. นำเงินส่งรัฐรวม 35,684 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจไทย .- สำนักข่าวไทย