กนอ.เปิดแคมเปญ “NOW THAILAND: The Golden Era” พร้อมรับการลงทุนจากทั่วโลก

กรุงเทพฯ​ 16​ ส.ค. ​- “ประธานบอร์ด กนอ.” ประกาศความพร้อมเดิน​หน้า “NOW THAILAND: The Golden Era” ชูโอกาสทองลงทุนไทย หนุนผู้ประกอบการสร้างความยั่งยืน ขอนายก​รัฐมนตรี​คน​ใหม่​ชูการส่งเสริมการลงทุน​เป็น​วาระเร่งด่วน​ ด้าน “วีริศ” ย้ำ กนอ.ยุคใหม่ วาง 3 กลยุทธ์ ลุยตลาดเชิงรุก เชื่อมนักลงทุนทั่วโลกเข้าถึงโอกาสทองลงทุนไทย


นายยุทธศักดิ์ สุภสร ประธานกรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย​ (กนอ.) เป็น​ประธาน​เปิดแคมเปญ “NOW THAILAND: The Golden Era” ประกาศความมุ่งมั่นในการฟื้นฟูและเร่งรัดการลงทุนในประเทศไทย โดยเฉพาะการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรม โดยระบุ​ว่า​ประเทศไทยพร้อมแล้ว “We are Ready” ที่จะต้อนรับนักลงทุนจากทั่วโลก โดยแคมเปญ “NOW THAILAND : The Golden Era” เป็นเสมือนสัญญาณบอกให้นักลงทุนทั่วโลกรับรู้ว่า นี่คือโอกาสทองของการลงทุน ไม่มีเวลาใดที่ดีไปกว่านี้แล้วที่จะลงทุนในประเทศไทย ด้วยรัฐบาลมีนโยบายชัดเจนในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

ทั้งนี้​ เห็น​ว่าการเปลี่ยนแ​ปลงรัฐบาล​จะไม่ส่งผล​กระทบ​ต่อนักลงทุน​ต่างชาติ​ในการ​มาลงทุน​ในประเทศ​ไทย​ เนื่องจาก​เชื่อ​ว่า​ ทุกรัฐบาล​เห็น​ความสำคัญ​ของ​การ​ส่งเสริม​การลงทุน​ พร้อม​ขอให้​นายกรัฐมนตรี​คน​ใหม่​วางนโยบาย​การ​ส่งเสริม​การลงทุน​เป็น​วาระเร่งด่วน​เพื่อทำให้​เศรษฐกิจ​ไทย​เติบโตอย่างยั่งยืน


ทั้งนี้ กนอ. มีนโยบาย​เร่งรัดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ด้วยมาตรการส่งเสริมการลงทุนที่ครอบคลุมทุกด้าน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจสู่ความยั่งยืนและสอดรับกับกระแสโลก ทั้งโครงสร้างพื้นฐานที่ได้มาตรฐานระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ที่สามารถรองรับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ และเป็นประตูการค้าสู่ภูมิภาคอาเซียน หรือโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ

นอกจากนี้ ในยุคที่การย้ายฐานการลงทุนกำลังเป็นกระแสทั่วโลก กนอ. ได้ประกาศก้าวสำคัญสู่ยุคใหม่แห่งการลงทุน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “We Moved” พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยกลยุทธ์ “ฟื้นการลงทุน หนุนผู้ประกอบการ สร้างความยั่งยืน” ด้วยการสร้างบริบทใหม่ที่มุ่งมั่น เพิ่มความทะเยอทะยาน สร้างมาตรฐานใหม่ที่ท้าทายและโปร่งใส เพื่อให้ทุกฝ่ายร่วมกันขับเคลื่อนแผนและนโยบายไปสู่ความสำเร็จ เปิดปฏิบัติการอย่างเต็มกำลัง เพื่อแสดงบทบาทนำของ กนอ. ในการเปลี่ยนความทะเยอทะยานให้เป็นจริงอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ภายใต้แคมเปญ “NOW THAILAND : The Golden Era” สะท้อนศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดของ กนอ. ใน 3 มิติ ประกอบด้วย

  • N: New horizons of Investment – กนอ. พร้อมเปิดรับทุกการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมแห่งอนาคตหรือธุรกิจรูปแบบใหม่
  • O: Opportunity Unlimited – เปิดโอกาสทางธุรกิจอย่างเต็มที่ ไร้ข้อจำกัด สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโต
  • W: Wealth-packing Districts – เนรมิตนิคมอุตสาหกรรมให้เป็นศูนย์กลางความมั่งคั่งที่ยั่งยืน สร้างประโยชน์ให้กับทั้งผู้ประกอบการและชุมชนโดยรอบ

กนอ. คือผู้ดูแลนิคมฯ ทั่วประเทศ มีข้อมูลครบถ้วน พร้อมให้คำแนะนำเชิงลึกแก่นักลงทุน ช่วยเลือกทำเลที่ตั้งโรงงานในนิคมฯ ที่เหมาะสมที่สุด ตอบโจทย์ทุกความต้องการทางธุรกิจ ซึ่งการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมของ กนอ. ไม่เพียงช่วยประหยัดเวลาและลดความยุ่งยากในการขออนุญาตต่างๆ ระบบสาธารณูปโภคครบครัน แต่ยังมาพร้อมสิทธิประโยชน์มากมาย ทำให้ผู้ประกอบการสามารถมุ่งเน้นไปที่การสร้างธุรกิจให้เติบโตได้อย่างเต็มที่


นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการ กนอ. กล่าวถึงก้าวสำคัญของ กนอ. สู่ยุคใหม่แห่งการลงทุนว่า กนอ.ประสบความสำเร็จในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมมากว่า 50 ปี วันนี้เราพร้อมเดินเกมรุก เพื่อดึงดูดการลงทุนจากทั่วโลก และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมา กนอ. จึงสร้างเครือข่ายนิคมอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง ครอบคลุม 68 แห่งใน 16 จังหวัด ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนสะสมกว่า 17.04 ล้านล้านบาท สร้างงานกว่า 953,630 คน

ทั้งนี้ กนอ. ปรับตัวและพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุนยุคใหม่ รวมทั้งรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ซึ่งนอกจากการปรับองค์กรด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลไปสู่การพัฒนานิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะ (Smart Industrial Estate and Smart Eco Industrial Estate) แล้ว กนอ. ยังวางกลยุทธ์เชิงรุก เพื่อเร่งรัดให้เกิดการลงทุนในประเทศไทยในระยะเวลา 1-3 ปี ผ่าน 3 กลยุทธ์หลักด้วย คือ

  1. Global Supply Chain: เชื่อมโยงประเทศไทยเข้ากับห่วงโซ่อุปทานระดับโลก ดึงดูดการลงทุนที่มีศักยภาพสูง และสร้างโอกาสในการเติบโตให้กับธุรกิจไทยในตลาดโลก
  2. Competitiveness: เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย มุ่งเน้นการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve และ New S-Curve) ทั้ง อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ, ยานยนต์สมัยใหม่, การแพทย์ครบวงจร, ดิจิทัล, หุ่นยนต์, อาหารแปรรูป, การบินและโลจิสติกส์, และพลังงานสะอาด เพื่อสร้าง “New Engine of Growth” ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในอนาคต
  3. Sustainability: ส่งเสริมการลงทุนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) สร้างความสมดุลระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจและการรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน

“กนอ. พร้อมเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่ง สู่ความสำเร็จของนักลงทุน ด้วยพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมรวม 190,212 ไร่ โดยขณะนี้ยังมีพื้นที่คงเหลือสำหรับขายหรือให้เช่าเพื่อรองรับการลงทุนประมาณ 20,341 ไร่ มีระบบสาธารณูปโภคที่ครบครัน และมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก กนอ. พร้อมเคียงข้างนักลงทุนในทุกย่างก้าว ตั้งแต่การให้คำปรึกษา การอำนวยความสะดวก ไปจนถึงการสร้างความมั่นใจในการลงทุน เพื่อนำพาธุรกิจไปสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน ด้วยวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกล และกลยุทธ์ที่เฉียบคม กนอ. จะเป็น สะพานเชื่อมโยงนักลงทุนทั่วโลกสู่โอกาสทองในประเทศไทย นำพาประเทศก้าวสู่ยุคทองของการลงทุน และสร้างความมั่งคั่งที่ยั่งยืนให้กับทุกภาคส่วน

ภายใน​งานยังมีการเสวนาในหัวข้อ “กุญแจ​ความสำเร็จ​การ​ลงทุน​ในไทย” โดยมีผู้บริหาร​จากบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด​ บริษัท มูราตะ อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด​ บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด​ บริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด​ และบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) โดยนายชญาน์ จันทวสุ​ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานความยั่งยืนองค์กร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) กล่าว​ว่า​ ปัจจัย​ที่​ทำให้​บริษัท​ในกลุ่ม​ปตท.​ ประสบความเร็จ​ในการ​ลงทุน​คือ​ การวิจัย​และ​พัฒนา​ให้​ได้ผลิตภัณฑ์​ที่​ตอบสนอง​ความต้องการ​ของผู้บริโภค​ในราคาที่เหมาะสม​ ผลตอบแทน​ของ​กิจการเติบโตอย่างพอเหมาะ​ ​นอกจากนี้​การมีพันธมิตร​ที่สนับสนุน​ซึ่งกันและกัน​ก็​เป็น​สิ่ง​สำคัญ​อย่าง​เช่นที่​ กนอ.​ สนับสนุน​สถานที่ในการจัดตั้ง​สถานประกอบการ​ในนิคมอุตสาหกรรม​ต่าง​ๆ​ การ​คำนึงถึง​ทุกภาค​ส่วน​ถือเป็น​การประกอบกิจการ​ที่ดีซึ่งเป​็นสิ่งหนึ่งที่ทำให​้การ​ลงทุน​ประสบความเร็จ​. -512-สำนักข่าว​ไทย​

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน

2 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน ลั่นมีเอกภาพ แจงรัฐบาลเชื่อมั่นท่าที 2 ประเทศลดความรุนแรงได้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม โพสต์ข้อความชี้แจงทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าเรียน สื่อมวลชน ทุกท่าน ตามที่มีข่าวกระจายกันในแวดวงสื่อสังคมออนไลน์ เรื่องความขัดแย้งระหว่างฝ่ายการเมืองกับฝ่ายทหาร ในการจัดการปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดต่อปัญหาการจัดการระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการปิดด่านชายแดน ผมขอยืนยันว่า ผมกับกองทัพได้หารือร่วมกันหลายครั้ง และเห็นตรงกันว่าสถานการณ์ปัจจุบัน รัฐบาลทั้งสองประเทศต่างพยายามหาทางออกในการคลี่คลายวิกฤติ โดยยึดผลประโยชน์ประชาชนและอธิปไตยของชาติเป็นสำคัญ เราจึงกำหนดขอบเขตในการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และพยายามลดเงื่อนไขที่จะระงับยับยั้งมิให้เหตุการณ์ความขัดแย้งขยายตัวมากไปกว่านี้ สำหรับเรื่องการปิดชายแดนขณะนี้ รัฐบาลเห็นว่าท่าทีและการแสดงออกของทั้งสองประเทศ ยังเป็นการแสดงออกที่สามารถลดระดับความรุนแรงได้ เพราะการปิดด่านชายแดนแม้ไม่ใช่เรื่องการสู้รบทางตรง แต่กลับจะเกิดปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ที่จะกระทบกับวิถีชีวิตประชาชน ทำให้สถานการณ์ยากต่อการคลี่คลาย แต่ขณะเดียวกัน กองทัพก็ตั้งอยู่ในความระมัดระวังและไม่ได้ละเลยในการปกป้องตนเองและอธิปไตยเหนือดินแดน ขณะนี้รัฐบาล ร่วมกับกำลังเหล่าทัพและกระทรวงต่างประเทศ กำลังใช้กลไก JBC เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาตามขั้นตอนอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้เกิดเวทีถกเถียงตามข้อเท็จจริงตามกฎหมาย ผมจึงขอเรียนชี้แจงยืนยันว่า รัฐบาลและกองทัพมีความเป็นเอกภาพ และมีพันธะสัญญาที่มั่นคงในการรักษาความสงบสุขให้ประชาชนได้รับประโยชน์ และความปลอดภัยมากที่สุด ขอให้มั่นใจว่าเราจะหลีกเลี่ยงการยกระดับความขัดแย้งที่จะนำไปสู่ความสูญเสียทั้งสองฝ่ายในทุกด้าน ที่ผ่านมา เราร่วมกันใช้ความพยายามอย่างยิ่ง ทั้งการประชุม หารือ […]

แผ่นดินไหวเชียงใหม่ ขนาด 4.5 รอยเลื่อนแม่ทาขยับ

เชียงใหม่ 2 มิ.ย.- ระทึก! แผ่นดินไหว ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ลึก 1 กม. ประชาชนแจ้งรู้สึกสั่นไหว 4 จังหวัด สาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง แผ่นดินไหวที่ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ฉบับที่ 1/2568 กอง​เฝ้า​ระวัง​แผ่นดินไหว​ กรม​อุตุนิยม​วิทยา​รายงาน​ว่า​ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2568 เวลา 14.07 น. เกิดแผ่นดินไหว จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ความลึก 1 กิโลเมตร ได้รับแจ้งรู้สึกสั่นไหวบริเวณ จังหวัดเชียงใหม่ พะเยา ลำปาง และแม่ฮ่องสอน โดยสาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ สั่งการอำเภอพร้าว และอำเภอใกล้เคียง ลงพื้นที่ตรวจสอบผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือน เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตและความเสียหาย […]

ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง

2 มิ.ย.- ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง ย่านท่าเรือคลองเตย ส่วนคนขับรถชน รปภ. เสียชีวิต โดนฆ่าคนตาย เพิ่มอีก 1 ข้อหา 13.00 น. ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา การดำเนินคดี 6 ทรชนผู้ก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้าของกลางของกรมศุลกากรและก่อเหตุถอยรถตู้พุ่งชนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิต โดย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ข้อมูลว่า ศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับทั้ง 6 คนถูกดำเนินคดีในข้อหา 4 ข้อหา ในแก่ ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นการจับกุม ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน โดยใช้กำลังประทุษร้าย และกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และซ่องโจร ขณะที่นายสิทธิศักดิ์ หรือแบงค์ ถูกดำเนินคดีเพิ่มอีกหนึ่งข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดของตนหรือหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนกระทำไว้ ทั้งนี้ หลังศาลอนุมัติออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว […]

โควิด-19 ระบาดปักธงชัย ตายแล้ว 2

นครราชสีมา 2 มิ.ย.- เชื้อโควิด-19 แพร่ระบาดที่ อ.ปักธงชัย จ.นคราชสีมา รุนแรงถึงขั้นมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย รัฐบาลเตือนระวังสายพันธุ์ใหม่ NB.1.8.1 แพร่กระจายไว ที่ อ.ปักธงชัย พบผู้เสียชีวิตจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 รอบนี้แล้ว 2 ราย ผู้ป่วยรายแรกเป็นชายเสียชีวิตเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ส่วนรายที่ 2 เสียชีวิตช่วงค่ำวานนี้ เป็นชายอายุ 72 ปี ที่โรงพยาบาลปักธงชัย ไปประกอบพิธีทางศาสนา โควิด-19 แม้จะกลายเป็นโรคประจำถิ่น ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก แต่ต้องรู้จักวิธีการป้องกันตัวเองและดูแลบุคคลในครอบครัวอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย โดยเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แจ้งว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกประกาศเตือนหลังพบพฤติกรรมของเชื้อ SARS-CoV-2 สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญใน 3 ภูมิภาคทั่วโลก ได้แก่ แปซิฟิกตะวันตก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก จากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ NB.1.8.1 ที่กำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว และเชื้อโควิด-19 […]