กรุงเทพฯ 16 ส.ค. - “ประธานบอร์ด กนอ.” ประกาศความพร้อมเดินหน้า “NOW THAILAND: The Golden Era” ชูโอกาสทองลงทุนไทย หนุนผู้ประกอบการสร้างความยั่งยืน ขอนายกรัฐมนตรีคนใหม่ชูการส่งเสริมการลงทุนเป็นวาระเร่งด่วน ด้าน “วีริศ” ย้ำ กนอ.ยุคใหม่ วาง 3 กลยุทธ์ ลุยตลาดเชิงรุก เชื่อมนักลงทุนทั่วโลกเข้าถึงโอกาสทองลงทุนไทย
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ประธานกรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เป็นประธานเปิดแคมเปญ “NOW THAILAND: The Golden Era” ประกาศความมุ่งมั่นในการฟื้นฟูและเร่งรัดการลงทุนในประเทศไทย โดยเฉพาะการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรม โดยระบุว่าประเทศไทยพร้อมแล้ว “We are Ready” ที่จะต้อนรับนักลงทุนจากทั่วโลก โดยแคมเปญ “NOW THAILAND : The Golden Era” เป็นเสมือนสัญญาณบอกให้นักลงทุนทั่วโลกรับรู้ว่า นี่คือโอกาสทองของการลงทุน ไม่มีเวลาใดที่ดีไปกว่านี้แล้วที่จะลงทุนในประเทศไทย ด้วยรัฐบาลมีนโยบายชัดเจนในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
ทั้งนี้ เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลจะไม่ส่งผลกระทบต่อนักลงทุนต่างชาติในการมาลงทุนในประเทศไทย เนื่องจากเชื่อว่า ทุกรัฐบาลเห็นความสำคัญของการส่งเสริมการลงทุน พร้อมขอให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่วางนโยบายการส่งเสริมการลงทุนเป็นวาระเร่งด่วนเพื่อทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ กนอ. มีนโยบายเร่งรัดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ด้วยมาตรการส่งเสริมการลงทุนที่ครอบคลุมทุกด้าน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจสู่ความยั่งยืนและสอดรับกับกระแสโลก ทั้งโครงสร้างพื้นฐานที่ได้มาตรฐานระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ที่สามารถรองรับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ และเป็นประตูการค้าสู่ภูมิภาคอาเซียน หรือโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ
นอกจากนี้ ในยุคที่การย้ายฐานการลงทุนกำลังเป็นกระแสทั่วโลก กนอ. ได้ประกาศก้าวสำคัญสู่ยุคใหม่แห่งการลงทุน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “We Moved” พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยกลยุทธ์ “ฟื้นการลงทุน หนุนผู้ประกอบการ สร้างความยั่งยืน” ด้วยการสร้างบริบทใหม่ที่มุ่งมั่น เพิ่มความทะเยอทะยาน สร้างมาตรฐานใหม่ที่ท้าทายและโปร่งใส เพื่อให้ทุกฝ่ายร่วมกันขับเคลื่อนแผนและนโยบายไปสู่ความสำเร็จ เปิดปฏิบัติการอย่างเต็มกำลัง เพื่อแสดงบทบาทนำของ กนอ. ในการเปลี่ยนความทะเยอทะยานให้เป็นจริงอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ภายใต้แคมเปญ “NOW THAILAND : The Golden Era” สะท้อนศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดของ กนอ. ใน 3 มิติ ประกอบด้วย
- N: New horizons of Investment – กนอ. พร้อมเปิดรับทุกการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมแห่งอนาคตหรือธุรกิจรูปแบบใหม่
- O: Opportunity Unlimited – เปิดโอกาสทางธุรกิจอย่างเต็มที่ ไร้ข้อจำกัด สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโต
- W: Wealth-packing Districts – เนรมิตนิคมอุตสาหกรรมให้เป็นศูนย์กลางความมั่งคั่งที่ยั่งยืน สร้างประโยชน์ให้กับทั้งผู้ประกอบการและชุมชนโดยรอบ
กนอ. คือผู้ดูแลนิคมฯ ทั่วประเทศ มีข้อมูลครบถ้วน พร้อมให้คำแนะนำเชิงลึกแก่นักลงทุน ช่วยเลือกทำเลที่ตั้งโรงงานในนิคมฯ ที่เหมาะสมที่สุด ตอบโจทย์ทุกความต้องการทางธุรกิจ ซึ่งการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมของ กนอ. ไม่เพียงช่วยประหยัดเวลาและลดความยุ่งยากในการขออนุญาตต่างๆ ระบบสาธารณูปโภคครบครัน แต่ยังมาพร้อมสิทธิประโยชน์มากมาย ทำให้ผู้ประกอบการสามารถมุ่งเน้นไปที่การสร้างธุรกิจให้เติบโตได้อย่างเต็มที่
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการ กนอ. กล่าวถึงก้าวสำคัญของ กนอ. สู่ยุคใหม่แห่งการลงทุนว่า กนอ.ประสบความสำเร็จในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมมากว่า 50 ปี วันนี้เราพร้อมเดินเกมรุก เพื่อดึงดูดการลงทุนจากทั่วโลก และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมา กนอ. จึงสร้างเครือข่ายนิคมอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง ครอบคลุม 68 แห่งใน 16 จังหวัด ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนสะสมกว่า 17.04 ล้านล้านบาท สร้างงานกว่า 953,630 คน
ทั้งนี้ กนอ. ปรับตัวและพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุนยุคใหม่ รวมทั้งรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ซึ่งนอกจากการปรับองค์กรด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลไปสู่การพัฒนานิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะ (Smart Industrial Estate and Smart Eco Industrial Estate) แล้ว กนอ. ยังวางกลยุทธ์เชิงรุก เพื่อเร่งรัดให้เกิดการลงทุนในประเทศไทยในระยะเวลา 1-3 ปี ผ่าน 3 กลยุทธ์หลักด้วย คือ
- Global Supply Chain: เชื่อมโยงประเทศไทยเข้ากับห่วงโซ่อุปทานระดับโลก ดึงดูดการลงทุนที่มีศักยภาพสูง และสร้างโอกาสในการเติบโตให้กับธุรกิจไทยในตลาดโลก
- Competitiveness: เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย มุ่งเน้นการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve และ New S-Curve) ทั้ง อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ, ยานยนต์สมัยใหม่, การแพทย์ครบวงจร, ดิจิทัล, หุ่นยนต์, อาหารแปรรูป, การบินและโลจิสติกส์, และพลังงานสะอาด เพื่อสร้าง “New Engine of Growth” ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในอนาคต
- Sustainability: ส่งเสริมการลงทุนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) สร้างความสมดุลระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจและการรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน
“กนอ. พร้อมเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่ง สู่ความสำเร็จของนักลงทุน ด้วยพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมรวม 190,212 ไร่ โดยขณะนี้ยังมีพื้นที่คงเหลือสำหรับขายหรือให้เช่าเพื่อรองรับการลงทุนประมาณ 20,341 ไร่ มีระบบสาธารณูปโภคที่ครบครัน และมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก กนอ. พร้อมเคียงข้างนักลงทุนในทุกย่างก้าว ตั้งแต่การให้คำปรึกษา การอำนวยความสะดวก ไปจนถึงการสร้างความมั่นใจในการลงทุน เพื่อนำพาธุรกิจไปสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน ด้วยวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกล และกลยุทธ์ที่เฉียบคม กนอ. จะเป็น สะพานเชื่อมโยงนักลงทุนทั่วโลกสู่โอกาสทองในประเทศไทย นำพาประเทศก้าวสู่ยุคทองของการลงทุน และสร้างความมั่งคั่งที่ยั่งยืนให้กับทุกภาคส่วน
ภายในงานยังมีการเสวนาในหัวข้อ “กุญแจความสำเร็จการลงทุนในไทย” โดยมีผู้บริหารจากบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท มูราตะ อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) โดยนายชญาน์ จันทวสุ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานความยั่งยืนองค์กร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้บริษัทในกลุ่มปตท. ประสบความเร็จในการลงทุนคือ การวิจัยและพัฒนาให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในราคาที่เหมาะสม ผลตอบแทนของกิจการเติบโตอย่างพอเหมาะ นอกจากนี้การมีพันธมิตรที่สนับสนุนซึ่งกันและกันก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างเช่นที่ กนอ. สนับสนุนสถานที่ในการจัดตั้งสถานประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ การคำนึงถึงทุกภาคส่วนถือเป็นการประกอบกิจการที่ดีซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้การลงทุนประสบความเร็จ. -512-สำนักข่าวไทย