ประธาน​ ส.อ.ท.ชี้นายกฯ​ พ้นตำแหน่ง​ทำให้​เศรษฐกิจ​สะดุด

กรุงเทพฯ​ 14​ ส.ค. – ประธาน​ ส.อ.ท.​ ระบุ​ผลการตั​ดสินของ​ศาลรัฐธรรมนูญ​ที่​ให้​ “เศรษฐา” พ้นตำแหน่ง​นายกรัฐมนตรี​ จะทำให้เศรษฐกิจ​สะดุด​ เกิดช่วงเว้นวรรคทางการเมือง ​ซึ่ง​จะส่งผลต่อความเชื่อ​มั่นของ​ต่างประเทศ ด้านนักวิเคราะห์ มองตลาดหุ้นไทยซึมต่อ หวัง ครม.ชุดใหม่ปรับนโยบายที่ไม่มีประสิทธิภาพ


นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภา​อุตสาหกรรม​แห่ง​ประเทศไทย ​หรือ ​ส.อ.ท. กล่าว​ถึง​ผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญที่ให้นายเศรษฐา​ ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่า​ ภาคเอกชน​อยาก​ให้​ทุกอย่าง​ผ่าน​ไปด้วยดี​ โดยไม่ต้องการให้การเมืองเกิดภาวะสะดุด​ ไม่ว่าระยะสั้นหรือระยะยาวเนื่องจาก​จะส่งผลกระทบ​ต่อความเชื่อ​มั่น​ของ​นักลงทุน​ทั้งในประเทศ​และ​ต่างประเทศ​ คำถาม​ที่จะเกิดขึ้น​ตามมาคือ​ ใครจะมาเป​็นผู้​นำรัฐบาลคนต่อไป​ นโยบาย​ต่างๆ​ จะเปลี่ย​นแปลงหรือไม่​ ดังนั้น​การ​ลงทุน​ต้องเกิดการชะลอตัวเพื่อ​ดูความชัดเจน​ทางการเมือง​ ไทย​จะเสีย​โอกาสการแข่งขัน

ขณะนี้​มีปัจจัยแวดล้อมภายนอกกระทบต่อระบบเศรษฐกิจไทยอยู่แล้ว​ ทำให้ประชาชนขาดกำลังซื้อ มีหนี้สินภาคครัวเรือนที่สูง หากต้องเริ่มต้นกันใหม่ คงต้องใช้เวลาและกว่าจะถึงเป้าหมายก็ลำบาก​ การเปลี่ยนนายกรัฐมนตรี​ แม้จะไม่ใช่​เป็น​การ​นับหนึ่ง​ใหม่​ทั้งหมด​ แต่ทำให้​การขับเคลื่อน​เศรษฐกิจ​หยุดชะงัก​ เหมือน​ขับรถไปแล้วรถเสียต้องลงมาเข็น​แต่​ภาคเอกชนน้อมรับผลการตัดสิน ตามมิติของศาลรัฐธรรมนูญ​และ​ยังคงพยายาม​ขับเคลื่อน​เศรษฐกิจ​อย่า​งเต็มที่​และ​ดีที่สุด


นายเกรียงไกร​ กล่าว​ว่า​ แม้จะยังไม่มี ครม.​ใหม่ แต่เงินงบประมาณ​ที่กำลังจะเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจช่วงครึ่งปีหลัง 2567 ขอให้เดินหน้าต่อ​ อย่าหยุด ขอให้เบิกจ่ายได้ต่อเนื่อง “อย่าเกียร์ว่าง” ไม่เช่นนั้นเศรษฐกิจไทยจะยิ่งแย่ไปกันใหญ่ เพราะเคยมีประสบการณ์มาแล้วในรัฐบาลก่อนหน้าซึ่งการเบิกจ่าย​งบประมาณล่าช้าทำให้เศรษฐกิจหยุดชะงัก ส่งผล​สูญเสียโอกาสในทุกด้าน

ด้านนายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า ทำให้เกิดความไม่แน่นอนในตลาดหุ้น จากที่ผ่านมาตลาดหุ้นส่วนใหญ่มองว่า นายเศรษฐา ทวีสิน จะได้อยู่ต่อ แต่เมื่อผลออกมาแบบนี้ก็ต้องยอมรับว่า ทำให้มีความเสี่ยงเกิดขึ้นในแง่ของภาวะสุญญากาศทางการเมือง แม้ว่าจะมีนายกรัฐมนตรีรักษาการอยู่ แต่ก็อยู่ที่ว่าจะดำเนินนโยบายได้เต็มที่หรือไม่ และนอกจากนี้ก็ยังมีความเสี่ยงในเรื่องของการยุบสภาอยู่ แต่ก็เชื่อว่าจะไม่เกิดขึ้น ซึ่งก็ต้องดูว่าจะเลือกใครมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ และมาจากพรรคไหน รัฐมนตรีจะเปลี่ยนคนหรือไม่ และที่สำคัญที่สุดคือนโยบายที่ได้ทำมาจะทำต่อเนื่องหรือไม่ และมองว่าจะเกิดสุญญากาศทางการเมืองในระยะหนึ่ง แต่หากมีการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีเลย ก็อาจจะใช้เวลาไม่นานในการนำชื่อเข้าสภา แต่นั่นหมายถึงว่าต้องคุยกับพรรคร่วมให้ได้ก่อน

ส่วนผลกระทบต่อตลาดทุนไทย ถ้ามองในข้อดี หุ้นตกไม่แรง เพราะทุกคนรับสภาพแล้วว่าตลาดทุนไทยวันนี้ถูกเกินพื้นฐาน เพราะเราเป็นตลาดทุนที่เพอร์ฟอร์มได้แย่เกือบที่สุดในโลก ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และวันนี้แรงเทขายก็ไม่น่าจะมีมาก เพราะว่าราคาหุ้นหลายๆ บริษัทก็อยู่ในระดับต่ำกว่าพื้นฐานของตัวเองอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าปัจจัยทางด้านบรรยากาศทางการเมือง ปัจจัยทางด้านเซนทิเมนต์ต่างๆ ก็ยังไม่เอื้ออำนวยให้คนกล้าเข้ามาลงทุน ฉะนั้นวันนี้จึงคิดว่าตลาดหุ้นไทยก็ยังอยู่ในบรรยากาศซึมๆ ไม่เกิดแรงเทขายมากไปกว่านี้ เพราะว่าทิศทางการเมืองอาจจะพลิกอีก หรืออาจจะมีการคุยกันไม่ลงตัว มีการเปลี่ยนขั้ว ซึ่งก็เป็นความไม่แน่นอน ทั้งนี้ตนมองว่า นักลงทุนยังมองว่ารัฐบาลจะเป็นขั้วเดิม เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี เปลี่ยนตัวรัฐมนตรีบ้าง แต่ไม่เปลี่ยนนโยบาย ก็จะทำให้ทุกอย่างสานต่อได้ สิ่งที่ต้องการจะเห็นคือความต่อเนื่อง เพราะในครึ่งปีหลังเศรษฐกิจมีทีท่าจะฟื้นตัว ในบ้านเรากำลังซื้อก็ยังดีอยู่ แต่อาจจะมีโครงการที่หายไปหรือสะดุด เช่น โครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ที่ยังไม่มีความแน่นอน หากมองในแง่หนึ่งก็เป็นข้อดี หากรัฐบาลชุดใหม่ปรับเปลี่ยนเพื่อให้เม็ดเงินเข้าสู่ระบบได้ 4-5 รอบ มีเงินเข้าสู่ร้านค้าชุมชนได้จริง และขยายไปภาพใหญ่ ตามคอนเซปต์เดิมที่วางไว้ก็อาจจะเป็นหนทางหนึ่งที่จะฟื้นเศรษฐกิจไทยได้ แต่ขณะที่ปัจจุบันก็ยังมีหลายคำถามอยู่ ซึ่งตนคิดว่าถ้าทีมใหม่ปรับรูปแบบดำเนินการให้ง่ายขึ้น แต่ได้ผลในภาพกว้างตามคอนเซปต์ที่วางไว้ก็จะเป็นเรื่องที่ดี รวมถึงการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 ที่เหลือในระบบ 4 แสนกว่าล้านบาท ในช่วงเวลาที่อยู่เพียง 2 เดือน ก็ต้องหาวิธีการเร่งเบิกจ่ายออกมา


ส่วนกองทุน Thai ESG ไม่น่าจะมีผลกระทบ เพราะผ่านมติ ครม.ไปแล้ว ส่วนกองทุนวายุภักดิ์ ตนไม่แน่ใจเพราะยังไม่ได้เข้า ครม.ก็ต้องติดตามต่อว่ารัฐบาลชุดต่อไปจะทำเรื่องนี้หรือไม่

“ผมคาดหวังว่า มติศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้จะเป็นโอกาสให้ ครม.ชุดใหม่ ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงบางนโยบายที่ทำได้ช้า หรือไม่มีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันก็ถือเป็นข้อดี เพราะที่ผ่านมาแม้ว่าดูเหมือนเศรษฐกิจจะฟื้นตัว แต่ก็ไปได้ไม่สุดเหมือนที่ควรจะเป็น ครั้งนี้ก็อาจจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่ทิศทางที่ดีขึ้น หากมีการปรับรูปแบบบ้าง” นายไพบูลย์ กล่าว. -512, 517-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

ทบ.ส่งทหารช่างเก็บกู้ทุ่นระเบิดชายแดนไทย-กัมพูชา

20 ก.ค.- ทหารช่างปฏิบัติภารกิจเก็บกู้ทุ่นระเบิดพื้นที่ช่องบก ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะที่กองทัพบกเตรียมมาตรการตอบโต้ทางทหารอย่างเหมาะสม จากกรณีทหารไทยประสบเหตุเหยียบกับระเบิด บาดเจ็บ 3 นาย ขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ล่าสุดเช้านี้ (20 ก.ค. 68) กองทัพภาคที่ 2 เสริมกำลังทหารช่างลงพื้นที่ทันที เพื่อตรวจพื้นที่และเก็บกู้ทุ่นระเบิดตลอดแนวชายแดน โดยใช้ยุทโธปกรณ์หนัก รถแทรกเตอร์หุ้มเกราะ ชุดตรวจค้นทุ่นระเบิดชำนาญการ กำลังชุดทหารช่างตรวจค้นกวาดล้างทุ่นระเบิด (Mine Clearing) เขตทางพื้นที่สงสัยให้ปลอดภัย พร้อมใช้รถโกยตัก ถางขุดตอ และรถถากถางติดตั้งเกราะเหล็กป้องกันพลขับในการทำงานในพื้นที่เสี่ยงภัย ปฏิบัติการดังกล่าว นอกจากดูแลความปลอดภัยของกำลังพลที่จะออกลาดตระเวนในพื้นที่เขตแดนไทยแล้ว ยังเป็นการเก็บหลักฐานเพื่อแสดงให้เห็นว่ากัมพูชามีพฤติการณ์ที่ขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล แม้ทางฝ่ายกัมพูชาจะไม่ยอมรับ แต่กระทรวงการต่างประเทศ จะทำหนังสือเพื่อประท้วงอย่างเป็นทางการผ่านสหประชาชาติ (UN) และทางกองทัพบก จะมีมาตรการตอบโต้ทางทหารอย่างเหมาะสม.-สำนักข่าวไทย

พฐ.เตรียมตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงงานแปรรูปยางพารา

20 ก.ค.- เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเตรียมตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงงานแปรรูปยางพารา จ.บุรีรัมย์ เบื้องต้นไม่มีผู้บาดเจ็บ คาดเสียหายหลายสิบล้านบาท เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานรับซื้อและแปรรูปยางพาราขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ริมถนนสาย 24 โชคชัย-เดชอุดม ตำบลโคกม้า อ.ประโคกชัย จ.บุรีรัมย์ โดยต้นเพลิงเป็นโกดังเก็บยางพาราอัดแท่ง จัดว่าเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้เพลิงลุกไหม้รวดเร็วและรุนแรง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตอนเกิดเหตุช่วงแรก พนักงานช่วยกันดับแต่เอาไม่อยู่ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าช่วยเหลือ ตำรวจ สภ.ประโคนชัย พร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ลงพื้นที่ตรวจสอบและประสานรถดับเพลิงกว่า 20 คัน เข้าฉีดสกัดนานกว่า 2 ชั่วโมง จึงคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่ยังต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไว้ตลอดป้องกันไม่ให้ไฟปะทุลามไปจุดอื่นในโรงงาน พร้อมเคลื่อนย้ายถังแก๊ส ถังน้ำมัน จากอาคารใกล้เคียงไปไว้ยังจุดปลอดภัย เบื้องต้นไม่มีพนักงานได้รับบาดเจ็บ ด้านนายจำเริญ แหวนเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่าแม้จะควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว แต่รถดับเพลิงก็ยังต้องฉีดน้ำเพื่อหล่อความเย็นจนกว่าไฟจะดับสนิท ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้ยังไม่ทราบ ต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบ สำหรับมูลค่าความเสียหายอยู่ระหว่างการประเมิน คาดหลายสิบล้านบาท ทั้งนี้ โรงงานดังกล่าวเคยเกิดเหตุไฟไหม้มาแล้ว เมื่อปี 63 -สำนักข่าวไทย

จับตา! กัมพูชาพาทัวร์เขมรเยือน “ตาเมือนธม”

สุรินทร์ 20 ก.ค.- จับตา! กัมพูชาพาทัวร์เขมรเยือนปราสาท “ตาเมือนธม” ด้านทหารไทย-ฝ่ายปกครอง จัดกำลังดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวไทยใกล้ชิด บรรยากาศการท่องเที่ยวช่วงวันหยุดที่ปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ วันนี้ ถูกจับตามองเป็นพิเศษ หลังมีรายงานว่าทางกัมพูชาเตรียมเกณฑ์นักท่องเที่ยวชาวเขมรขึ้นมาเยือนปราสาทตาเมือนธม ซึ่งขณะนี้ทราบว่า มวลชนมาด้วยรถโดยสารประจำทางของฝั่งกัมพูชาเกือบ 23 คันรถ โดยจอดอยู่ข้างล่างฝั่งกัมพูชาและเริ่มทยอยขึ้นมายังปราสาทตาเมือนธมอย่างต่อเนื่อง บรรยากาศภายในตัวปราสาทฯ ยังคงเนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งไทยและกัมพูชา ท่ามกลางการดูแลอำนวยความสะดวกของเจ้าที่ทหารไทยเป็นอย่างดี ขณะนี้ยังไม่มีปัญหาเกิดขึ้นแต่อย่างใด -สำนักข่าวไทย

Vietnam's Halong Bay boat disaster

พายุ “วิภา” ทำเรือท่องเที่ยวล่มในเวียดนาม

ฮานอย 20 ก.ค.- เกิดอุบัติเหตุเรือนักท่องเที่ยวล่มในอ่าวฮาลองหรือฮาลองเบย์ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของเวียดนามที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ท่ามกลางสภาพอากาศเลวร้าย มีผู้เสียชีวิตแล้ว 38 คน และยังไม่พบตัวอีก 5 คน หนังสือพิมพ์วีเอ็นเอ็กซ์เพรสส์ของเวียดนามรายงานว่า เรือท่องเที่ยวชื่อวันเดอร์ซี (Wonder Sea) พลิกคว่ำในอ่าวฮาลองเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.วันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลาเดียวกันในไทย เป็นช่วงที่พายุโซนร้อนวิภา (Wipha) เคลื่อนตัวข้ามทะเลจีนใต้เข้าใกล้เวียดนาม มีรายงานกระแสลมแรง ฝนตกหนัก และฟ้าผ่าในพื้นที่ดังกล่าว ขณะเกิดเหตุบนเรือมีชาวเวียดนามทั้งหมด 53 คน เป็นลูกเรือ 5 คน และผู้โดยสาร 48 คน ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากกรุงฮานอย ซึ่งอยู่ห่างจากอ่าวฮาลองไปทางตะวันตกราว 165 กิโลเมตร และในจำนวนนี้เป็นเด็ก 20 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยชีวิตผู้ประสบเหตุได้ 10 คน และพบศพใกล้จุดที่เรืออับปาง โดยพบศพเด็กแล้ว 8 คน และยังคงค้นหาผู้สูญหายอยู่ 5 คน ท่ามกลางฝนที่ตกหนักต่อเนื่องเป็นอุปสรรคต่อภารกิจค้นหาและกู้ภัย นายกรัฐมนตรีฝั่ม มิงห์ […]