ประธาน​ ส.อ.ท.ชี้นายกฯ​ พ้นตำแหน่ง​ทำให้​เศรษฐกิจ​สะดุด

กรุงเทพฯ​ 14​ ส.ค. – ประธาน​ ส.อ.ท.​ ระบุ​ผลการตั​ดสินของ​ศาลรัฐธรรมนูญ​ที่​ให้​ “เศรษฐา” พ้นตำแหน่ง​นายกรัฐมนตรี​ จะทำให้เศรษฐกิจ​สะดุด​ เกิดช่วงเว้นวรรคทางการเมือง ​ซึ่ง​จะส่งผลต่อความเชื่อ​มั่นของ​ต่างประเทศ ด้านนักวิเคราะห์ มองตลาดหุ้นไทยซึมต่อ หวัง ครม.ชุดใหม่ปรับนโยบายที่ไม่มีประสิทธิภาพ


นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภา​อุตสาหกรรม​แห่ง​ประเทศไทย ​หรือ ​ส.อ.ท. กล่าว​ถึง​ผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญที่ให้นายเศรษฐา​ ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่า​ ภาคเอกชน​อยาก​ให้​ทุกอย่าง​ผ่าน​ไปด้วยดี​ โดยไม่ต้องการให้การเมืองเกิดภาวะสะดุด​ ไม่ว่าระยะสั้นหรือระยะยาวเนื่องจาก​จะส่งผลกระทบ​ต่อความเชื่อ​มั่น​ของ​นักลงทุน​ทั้งในประเทศ​และ​ต่างประเทศ​ คำถาม​ที่จะเกิดขึ้น​ตามมาคือ​ ใครจะมาเป​็นผู้​นำรัฐบาลคนต่อไป​ นโยบาย​ต่างๆ​ จะเปลี่ย​นแปลงหรือไม่​ ดังนั้น​การ​ลงทุน​ต้องเกิดการชะลอตัวเพื่อ​ดูความชัดเจน​ทางการเมือง​ ไทย​จะเสีย​โอกาสการแข่งขัน

ขณะนี้​มีปัจจัยแวดล้อมภายนอกกระทบต่อระบบเศรษฐกิจไทยอยู่แล้ว​ ทำให้ประชาชนขาดกำลังซื้อ มีหนี้สินภาคครัวเรือนที่สูง หากต้องเริ่มต้นกันใหม่ คงต้องใช้เวลาและกว่าจะถึงเป้าหมายก็ลำบาก​ การเปลี่ยนนายกรัฐมนตรี​ แม้จะไม่ใช่​เป็น​การ​นับหนึ่ง​ใหม่​ทั้งหมด​ แต่ทำให้​การขับเคลื่อน​เศรษฐกิจ​หยุดชะงัก​ เหมือน​ขับรถไปแล้วรถเสียต้องลงมาเข็น​แต่​ภาคเอกชนน้อมรับผลการตัดสิน ตามมิติของศาลรัฐธรรมนูญ​และ​ยังคงพยายาม​ขับเคลื่อน​เศรษฐกิจ​อย่า​งเต็มที่​และ​ดีที่สุด


นายเกรียงไกร​ กล่าว​ว่า​ แม้จะยังไม่มี ครม.​ใหม่ แต่เงินงบประมาณ​ที่กำลังจะเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจช่วงครึ่งปีหลัง 2567 ขอให้เดินหน้าต่อ​ อย่าหยุด ขอให้เบิกจ่ายได้ต่อเนื่อง “อย่าเกียร์ว่าง” ไม่เช่นนั้นเศรษฐกิจไทยจะยิ่งแย่ไปกันใหญ่ เพราะเคยมีประสบการณ์มาแล้วในรัฐบาลก่อนหน้าซึ่งการเบิกจ่าย​งบประมาณล่าช้าทำให้เศรษฐกิจหยุดชะงัก ส่งผล​สูญเสียโอกาสในทุกด้าน

ด้านนายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า ทำให้เกิดความไม่แน่นอนในตลาดหุ้น จากที่ผ่านมาตลาดหุ้นส่วนใหญ่มองว่า นายเศรษฐา ทวีสิน จะได้อยู่ต่อ แต่เมื่อผลออกมาแบบนี้ก็ต้องยอมรับว่า ทำให้มีความเสี่ยงเกิดขึ้นในแง่ของภาวะสุญญากาศทางการเมือง แม้ว่าจะมีนายกรัฐมนตรีรักษาการอยู่ แต่ก็อยู่ที่ว่าจะดำเนินนโยบายได้เต็มที่หรือไม่ และนอกจากนี้ก็ยังมีความเสี่ยงในเรื่องของการยุบสภาอยู่ แต่ก็เชื่อว่าจะไม่เกิดขึ้น ซึ่งก็ต้องดูว่าจะเลือกใครมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ และมาจากพรรคไหน รัฐมนตรีจะเปลี่ยนคนหรือไม่ และที่สำคัญที่สุดคือนโยบายที่ได้ทำมาจะทำต่อเนื่องหรือไม่ และมองว่าจะเกิดสุญญากาศทางการเมืองในระยะหนึ่ง แต่หากมีการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีเลย ก็อาจจะใช้เวลาไม่นานในการนำชื่อเข้าสภา แต่นั่นหมายถึงว่าต้องคุยกับพรรคร่วมให้ได้ก่อน

ส่วนผลกระทบต่อตลาดทุนไทย ถ้ามองในข้อดี หุ้นตกไม่แรง เพราะทุกคนรับสภาพแล้วว่าตลาดทุนไทยวันนี้ถูกเกินพื้นฐาน เพราะเราเป็นตลาดทุนที่เพอร์ฟอร์มได้แย่เกือบที่สุดในโลก ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และวันนี้แรงเทขายก็ไม่น่าจะมีมาก เพราะว่าราคาหุ้นหลายๆ บริษัทก็อยู่ในระดับต่ำกว่าพื้นฐานของตัวเองอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าปัจจัยทางด้านบรรยากาศทางการเมือง ปัจจัยทางด้านเซนทิเมนต์ต่างๆ ก็ยังไม่เอื้ออำนวยให้คนกล้าเข้ามาลงทุน ฉะนั้นวันนี้จึงคิดว่าตลาดหุ้นไทยก็ยังอยู่ในบรรยากาศซึมๆ ไม่เกิดแรงเทขายมากไปกว่านี้ เพราะว่าทิศทางการเมืองอาจจะพลิกอีก หรืออาจจะมีการคุยกันไม่ลงตัว มีการเปลี่ยนขั้ว ซึ่งก็เป็นความไม่แน่นอน ทั้งนี้ตนมองว่า นักลงทุนยังมองว่ารัฐบาลจะเป็นขั้วเดิม เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี เปลี่ยนตัวรัฐมนตรีบ้าง แต่ไม่เปลี่ยนนโยบาย ก็จะทำให้ทุกอย่างสานต่อได้ สิ่งที่ต้องการจะเห็นคือความต่อเนื่อง เพราะในครึ่งปีหลังเศรษฐกิจมีทีท่าจะฟื้นตัว ในบ้านเรากำลังซื้อก็ยังดีอยู่ แต่อาจจะมีโครงการที่หายไปหรือสะดุด เช่น โครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ที่ยังไม่มีความแน่นอน หากมองในแง่หนึ่งก็เป็นข้อดี หากรัฐบาลชุดใหม่ปรับเปลี่ยนเพื่อให้เม็ดเงินเข้าสู่ระบบได้ 4-5 รอบ มีเงินเข้าสู่ร้านค้าชุมชนได้จริง และขยายไปภาพใหญ่ ตามคอนเซปต์เดิมที่วางไว้ก็อาจจะเป็นหนทางหนึ่งที่จะฟื้นเศรษฐกิจไทยได้ แต่ขณะที่ปัจจุบันก็ยังมีหลายคำถามอยู่ ซึ่งตนคิดว่าถ้าทีมใหม่ปรับรูปแบบดำเนินการให้ง่ายขึ้น แต่ได้ผลในภาพกว้างตามคอนเซปต์ที่วางไว้ก็จะเป็นเรื่องที่ดี รวมถึงการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 ที่เหลือในระบบ 4 แสนกว่าล้านบาท ในช่วงเวลาที่อยู่เพียง 2 เดือน ก็ต้องหาวิธีการเร่งเบิกจ่ายออกมา


ส่วนกองทุน Thai ESG ไม่น่าจะมีผลกระทบ เพราะผ่านมติ ครม.ไปแล้ว ส่วนกองทุนวายุภักดิ์ ตนไม่แน่ใจเพราะยังไม่ได้เข้า ครม.ก็ต้องติดตามต่อว่ารัฐบาลชุดต่อไปจะทำเรื่องนี้หรือไม่

“ผมคาดหวังว่า มติศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้จะเป็นโอกาสให้ ครม.ชุดใหม่ ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงบางนโยบายที่ทำได้ช้า หรือไม่มีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันก็ถือเป็นข้อดี เพราะที่ผ่านมาแม้ว่าดูเหมือนเศรษฐกิจจะฟื้นตัว แต่ก็ไปได้ไม่สุดเหมือนที่ควรจะเป็น ครั้งนี้ก็อาจจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่ทิศทางที่ดีขึ้น หากมีการปรับรูปแบบบ้าง” นายไพบูลย์ กล่าว. -512, 517-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” เมินกัมพูชาร้องยูเอ็น เย้ยไม่มีการถกเรื่องนี้

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 13 ส.ค.- “มาริษ” เมินกัมพูชาร้องยูเอ็นอ้างไทยละเมิดข้อตกลงหยุดยิง เย้ยไม่มีการถกเรื่องนี้ เชื่อยูเอ็นเข้าใจ เผยคุยมิตรประเทศ บอก พฤติกรรมเขมรวางทุ่นระเบิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เร่งประชุมร่วมรัฐภาคี-หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมเก็บหลักฐานให้คณะทำงานดูข้อมูลจริงจากพื้นที่ ขอช่วยผลักดันเขมรร่วมวงเก็บกู้ทุ่นระเบิด-ทำตามอนุสัญญาออตตาวา นายมาริษ เสงี่ยมพงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาส่งจดหมายร้องเลขาฯ UN และ UNSC อ้างไทยละเมิดอธิปไตยและข้อตกลงหยุดยิงว่า เป็นการกล่าวอ้าง ซึ่งตนยังไม่เห็นหลักฐานที่ชัดเจน ของกัมพูชาว่าเราละเมิดตรงไหน ในขณะที่ทางกัมพูชาเองใช้วิธีที่ไม่จริงใจต่อความพยายามในการแก้ไขปัญหา ตามกรอบข้อตกลงหยุดยิงที่ได้ทำร่วมกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการยั่วยุด้วยสงครามข่าวสาร ไม่ว่าจะเป็นการใช้ โอกาสในการมาฝังลูกระเบิดสังหารบุคคลในดินแดนของประเทศไทย ในขณะที่ประเทศไทยมีหลักฐานที่ชัดเจน ที่ชี้ให้เห็นว่ากัมพูชาไม่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาให้เป็นไปตามความตกลงหยุดยิงระหว่างกัน อย่างไรก็ตามการที่กัมพูชาส่งหนังสือไปถึงยูเอ็น ทางฝ่ายยูเอ็นก็ไม่ได้มีการเปิดประชุมเพื่อพิจารณาในเรื่องนี้ ในขณะเดียวกัน ไทยก็ได้มีหนังสือชี้แจง เลขาธิการสหประชาชาติไปในทุกโอกาส และทุกกรณีที่มีการขัดแย้งเกิดขึ้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวด้วยว่า ในเรื่องของอนุสัญญาออตตาวา ทางกระทรวงการต่างประเทศได้มีหนังสือผลักดันในเรื่องนี้ไปถึง ทูต ญี่ปุ่น ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก และเจนีวา ในฐานะที่เป็นประธานของรัฐภาคีอนุสัญญาออตาวา 3 ฉบับและอีกหนึ่งฉบับก็กำลังจะส่งตามไป เพื่อกดดันหรือผลักดันให้รัฐภาคี ดำเนินตามมาตรการ อนุสัญญาออตตาวาโดยเร็ว ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบขอข้อมูลหลักฐาน ที่ชัดเจนซึ่งตรงนี้รัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศ และกองทัพได้ร่วมมือกันอย่างดี และสนับสนุน […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณอีสาน-ตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคอีสาน ภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะบริเวณ จ.จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดจันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาว เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาว และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง […]

“ภูมิธรรม” นำจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568

สนามหลวง 12 ส.ค.- “ภูมิธรรม” และภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 เวลา 20.05 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางอภิญญา เวชยชัย ภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 โดยมีประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกาและคู่สมรส ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง เมื่อรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และภริยา ถึงบริเวณพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกา […]

จากแม่ถึงลูกทหารบาดเจ็บ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

ขอนแก่น 12 ส.ค. – ครอบครัวตระกูลบุญธรรมในอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ที่ลูกชายทหารเกณฑ์บาดเจ็บจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา แม้สื่อสารกันน้อย แต่ความรักของแม่ลูก ไม่ได้ลดน้อยลง และพร้อมสนับสนุนลูกชายสู่เส้นทางทหารอาชีพตามความตั้งใจ หลังไปเป็นรั้วของชาติ แล้วเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย