นนทบุรี 14 ส.ค. – พาณิชย์จับมือเอกชนเตรียมจัดงานแสดงสินค้าเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น 2567 และงานแสดงสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 2567 ครบทุกความต้องการเพื่อทะยานสู่ Net Zero ระหว่างวันที่ 4-7 ก.ย.นี้ ที่ไบเทค ย้ำโลกร้อนขึ้นทุกปีและทั่วโลกมีความต้องการสินค้าเครื่องปรับอากาศเพิ่มโดยเฉพาะตลาดสหรัฐยุโรปและอาเซียน ทำให้ปีนี้ยอดอุตหกรรมนี้โตแน่ร้อยละ 2 หรือมีมูลค่ากว่า 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐได้
นางสาวณัฐิยา สุจินดา รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จับมือกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็นและกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เตรียมจัดงานแสดงสินค้าเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น 2567 (Bangkok RHVAC 2024) และงานแสดงสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 2567 (Bangkok E&E 2024) รวมนวัตกรรมใหม่ๆ ที่สนองตอบความต้องการของตลาดและสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โลกพร้อมสินค้าและบริการหลากหลายจากผู้ผลิตชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศ ภายใต้แนวคิด “One Stop Solutions for Net Zero Future” ครบทุกความต้องการเพื่อทะยานสู่ Net Zero ระหว่างวันที่ 4-7 กันยายน 2567 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา
“งานแสดงสินค้าเครื่องปรับอากาศ เครื่องทำความเย็น เครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจาก อุตสาหกรรมการผลิตสินค้าดังกล่าวของประเทศไทยมีการพัฒนา และคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ที่สนองตอบความต้องการของตลาดและสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โลก จนสินค้าของไทยเป็นที่ยอมรับจากผู้ซื้อทั่วโลก ส่งผลให้ประเทศไทยเป็น ผู้ผลิตและส่งออกชั้นนำมาโดยตลอด ซึ่งปีนี้กลับมาจัดเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรกหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายใต้แนวคิด “One Stop Solutions for Net Zero Future” ซึ่งจะเป็นการตอบสนองต่อแนวโน้มสำคัญของโลกที่อุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศ เครื่องทำความเย็น เครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ไทย ตั้งใจมุ่งหน้าไปสู่เป้าหมาย Net Zero emissions ในปี 2608” นางสาวณัฐิยา กล่าว
ทัังนี้ คาดว่าผู้เข้าร่วมงานจำนวนมากจาก 800 คูหา จากทั้งไทย อาเซียน จีน ฮ่องกง เกาหลี อินเดียตะวันออกกลาง และยุโรป และคาดว่าจะมีผู้สนใจเข้าร่วมชมงานจากทั่วโลกมากกว่า 10,000 ราย จะมีทั้งแบรนด์ผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศชั้นนำ ผู้ผลิตส่วนประกอบเครื่องปรับอากาศ ผู้ผลิตตู้เย็น ตู้แช่แข็ง ไปจนถึงผู้เชี่ยวชาญด้านออกแบบและก่อสร้างห้องเย็นและกิจกรรมอื่นๆภายในงานมากมายด้วยกัน
ดร.ณรัณ ศิริสันธนะ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศไทยยังเป็นฐานการผลิตเครื่องปรับอากาศหลักให้กับแบรนด์ใหญ่ๆ ในระดับสากล แต่ทั้งนี้ผู้ประกอบการไทยเองก็ต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อให้ทันกับแนวโน้มของโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง และเหมาะสมกับสถานการณ์ความต้องการของตลาดในประเทศและตลาดโลก เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูง ประหยัดพลังงานและใช้สารทำความเย็นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือใช้พลังงานทางเลือก เช่น พลังแสงอาทิตย์ ตามแนวทาง Net Zero การนำเทคโนโลยีทางด้าน IoT และ AI มาช่วยในการติดตามผลการทำงาน วิเคราะห์ และ ควบคุมระบบปรับอากาศให้ได้ประสิทธิภาพ สูงสุด หรือพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทางด้านสุขภาพต่างๆ เช่น PM2.5 คุณภาพอากาศในอาคาร เป็นต้น
อุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น ได้ให้ความสำคัญในการปรับตัวเพื่อมุ่งสู่สังคม Net Zero ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกผ่านหลายวิธี เช่น การเปลี่ยนไปใช้สารทำความเย็นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การพัฒนาอุปกรณ์ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นเพื่อลดการใช้พลังงาน รวมถึงใช้พลังงานทางเลือก เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ หรือการส่งเสริมการใช้เครื่องเย็นอย่างเหมาะสมเพื่อลดการสูญเสียอาหาร ซึ่งมีผลต่อการลดการปล่อยก๊าซมีเทนจากอาหารที่เสีย ซึ่งอุตสาหกรรมในประเทศไทยได้แสดงความตื่นตัวและมีการสนับสนุนเพื่อมีส่วนร่วมในแผน Net Zero ของประเทศอย่างจริงจัง ซึ่งทุกท่านสามารถติดตามและเยี่ยมชมนวัตกรรมต่างๆ ของอุตสาหกรรม เพื่อมุ่งสู่การเป็นสังคม Net Zero ได้ ในงาน Bangkok RHVAC 2024
นายสุรเดช บุณยวัฒน ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยกล่าว ว่า สถานการณ์อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทยในปัจจุบัน ตัวเลขคาดการณ์ส่งออกอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ภาพรวมปี 2567 คาดการณ์ส่งออกเติบโตประมาณร้อยละ 2-5 โดยเฉพาะอย่างยิ่งการยกระดับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเซมิคอนดักเตอร์ เพื่อเป็นฐานการลงทุนด้านเซมิคอนดักเตอร์ของโลก ตลอดจนเชื่อมโยงภาครัฐ ภาคการศึกษา และภาคการผลิตเข้าด้วยกัน
โดยตลาดสำคัญของอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ยังคงเป็นสหรัฐอเมริกา ยุโรป จีน ญี่ปุ่น และอาเซียน ส่วนโอกาสตลาดใหม่น่าจะเป็นโอกาสที่จีน หรือ สหรัฐอเมริกา ย้ายฐานมาใช้ไทยเป็นฐานผลิตเพื่อส่งออก โดยคาดว่าปี 67 นี้ มูลค่าส่งออกของอุตสาหกรรมดังกล่าวไปตลาดสำคัญจะมีมูลค่าสูงขึ้น เนื่องจากปัญหาโลกร้อนขึ้นทุกปี ความต้องการกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาสจะเพิ่มมากขึ้น จึงเชื่อยอดมูลค่าปีนี้จะเกินกว่า 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้อย่างแน่นอน. -514-สำนักข่าวไทย