กรุงเทพฯ 14 ส.ค. – ค่าเงินบาทหลังจากเปิดตลาดเช้านี้ แข็งค่าหลุดระดับ 35 บาท/ดอลลาร์ฯ ลงไปที่ 34.88 บาท/ดอลลาร์ฯ แข็งค่ามากสุดในรอบ 7 เดือน ตลาดประเมิน บาทอาจอ่อนค่าลง หาก “เศรษฐา” นายกรัฐมนตรี ถูกถอดถอน
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า การแข็งค่าของเงินบาทดังกล่าว เป็นผลจากดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯ เดือน ก.ค. ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาด จึงกดดันบอนด์ยีลด์สหรัฐ และทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ อย่างไรก็ดี วันนี้ตลาดจับตาคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญคดีถอดถอนนายกรัฐมนตรี ซึ่งหากนายกรัฐมนตรีหลุดจากตำแหน่ง เงินบาทก็มีโอกาสอ่อนค่ากลับมาอยู่ในระดับ 35 บาท/ดอลลาร์ฯ แต่หากนายกรัฐมนตรี ยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ตามเดิม เงินบาทก็มีโอกาสแข็งค่าได้ตามทิศทางดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่า
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ตลาดรอลุ้นคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในคดีถอดถอนนายกรัฐมนตรี “เศรษฐา ทวีสิน” ซึ่งจะทยอยรับรู้ในช่วงเวลา 15.00 น. เป็นต้นไป โดยควรระวังความผันผวนในตลาดการเงิน หากตลาดกังวลต่อสถานการณ์ความไม่แน่นอนของการเมืองไทยมากขึ้น
“เราปรับมุมมองต่อแนวโน้มเงินบาท จาก Sideways Up เป็นเพียง Sideways แต่เงินบาทยังมีโอกาสผันผวนอ่อนค่าลงได้บ้าง โดยเฉพาะในช่วงวันนี้ หาก CPI สหรัฐฯ ออกมาสูงกว่าคาด หรือตลาดต่างกังวลต่อสถานการณ์การเมืองไทยมากขึ้น หลังรับรู้คำวินิจฉัยคดีถอดถอนนายกฯ ซึ่งอาจส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติทยอยขายสินทรัพย์ไทยเพิ่มเติม กดดันให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าลงได้” นายพูน กล่าว. -511-สำนักข่าวไทย