จุฬาฯ จัดเสวนา “ระดมคิด พลิกวิกฤตคางดำ”

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – จุฬาฯ จัดเสวนา “ระดมคิด พลิกวิกฤตคางดำ” ชี้วิกฤติปลาหมอคางดำกระทบเศรษฐกิจ-ระบบนิเวศ พบมีการนำเข้ามากกว่า 1 ครั้ง จากหลายพื้นที่ ยากที่จะกำจัด แต่ยังมีความหวัง เสนอวิธีช็อตด้วยไฟฟ้า-ปรับแต่งจีโนมเปลี่ยนเพศปลา


จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยศูนย์สื่อสารองค์กร จุฬาฯ ร่วมกับสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ จุฬาฯ (ARRI Chula) จัดงานเสวนาวิชาการ Chula the Impact ครั้งที่ 24 “ระดมคิด พลิกวิกฤตคางดำ” โดยเชิญนักวิชาการที่เกี่ยวข้องจากหลากหลายสถาบันและหน่วยงาน เพื่อร่วมกันหาทางออกและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำในประเทศไทย พร้อมตอบข้อสงสัยต่าง ๆ ซึ่งกำลังได้รับความสนใจจากสังคม ณ เรือนจุฬานฤมิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมี ศ.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร รักษาการอธิการบดีจุฬาฯ และ ศ.ดร.วรณพ วิยกาญจน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ จุฬาฯ กล่าวเปิดงาน

ศ.ดร.วิเลิศ เปิดเผยว่า ปัญหาปลาหมอคางดำเป็นปัญหาวิกฤตที่ส่งผลทางเศรษฐกิจและระบบนิเวศของประเทศไทย ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีบทบาทในการให้คำตอบแก่สังคมเมื่อเกิดปัญหาขึ้นในประเทศ การเสวนาในครั้งนี้เป็นการบูรณาการความคิดจากทุกภาคส่วนและผนึกความร่วมมือระหว่างผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายศาสตร์ เช่น นักวิทยาศาสตร์ ผู้ที่มีความรู้ทางด้านทรัพยากรทางน้ำ วิศวกร ฯลฯ มาแก้ไขวิกฤตในครั้งนี้ เป็นการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ข้อมูลจากมุมมองทางวิชาการทางด้านปลาหมอคางดำในหลากหลายมิติจากการเสวนาครั้งนี้จะนำเสนอต่อภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการเรื่องปลาหมอคางดำอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป


ศ.ดร.สุชนา ชวนิชย์ รองผู้อำนวยการ สถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ จุฬาฯ (ARRI Chula) และอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวถึงชนิดพันธุ์ต่างถิ่นในประเทศไทย ที่เราคิดว่าเป็นเรื่องที่ใหม่ แต่จริง ๆ เป็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ในต่างประเทศพูดกันมานานเป็น 20 ปี แล้ว ถึงภัยคุมคามและผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นทั้งแบบรุนแรงและไม่รุนแรงต่อระบบนิเวศตามธรรมชาติ ประเทศไทยมีการนำชนิดพันธุ์ต่างถิ่นเข้ามาในประเทศนานแล้ว ส่วนใหญ่ชนิดพันธุ์ต่างถิ่นจะถูกนำเข้ามาเพื่อการเกษตรและการเพาะเลี้ยง แต่ช่วงหลังมีการนำเข้ามาเพื่อเป็นปลาสวยงาม แต่เนื่องจากชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่ประเทศไทยนำเข้ามา ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจและปากท้อง จึงทำให้เรามองข้ามผลกระทบที่มีต่อระบบนิเวศ อย่างเช่น กุ้งขาว เป็นต้น 

“สัตว์ชนิดพันธุ์ต่างถิ่น เมื่อนำเข้ามาในพื้นที่ที่ไม่เคยมีพวกเค้ามาก่อน อาจจะก่อให้เกิดผลกระทบที่อาจจะรุนแรงมากหรือน้อย และอาจจะใช้เวลาให้เห็นผลกระทบช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่กับจำนวนของชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่ถูกนำเข้ามาในพื้นที่ด้วย คงที่จะถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยควรที่จะให้ความสำคัญและกำหนดกฎเกณฑ์ และมาตรการเกี่ยวกับเรื่องการนำเข้ามาของชนิดพันธุ์ต่างถิ่นทั้งแบบถูกต้องและไม่ถูกต้อง มีการป้องกันมากกว่าการแก้ไข เพราะถ้าชนิดพันธุ์ต่างถิ่นสามารถตั้งรกรากอยู่ในบริเวณใดบริเวณหนึ่งได้แล้ว โอกาสที่จะกำจัดให้หมดไปคงเป็นไปได้ยาก” ศ.ดร.สุชนา กล่าว

รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ จากภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า จากแผนปฏิบัติการ 7 มาตรการ เพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดปลาหมอคางดำ พ.ศ. 2567-2570 ของคณะคณะรัฐมนตรี ซึ่งมีมาตรการที่ 5 ที่ระบุว่า สร้างความรู้ ความตระหนัก และการมีส่วนร่วมในการกำจัด จัดทำคู่มือประชาชนและเจ้าหน้าที่เพื่อรับมือการแพร่ระบาด แต่จะเห็นได้ว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมา มีการเผยแพร่ข่าวสารที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับปลาหมอคางดำเป็นจำนวนมาก และส่งผลกระทบต่อการจัดการกับการแพร่ระบาด


“เช่น บอกว่า ไม่เหมาะเป็นอาหารมนุษย์ ไข่ปลาตากแดดไว้ 2 เดือน ยังฟักเป็นตัวได้ นกกินไข่ปลาเข้าไป ถ่ายออกมาแพร่พันธุ์ได้ ปลานิลกลายพันธุ์ผสมพันธุ์กับปลาหมอคางดำ กลายเป็นปลานิลคางดำ ฯลฯ หรือแม้แต่กรณีของการสื่อสารออกไปคลาดเคลื่อน ว่าปลาหมอคางดำในประเทศไทยมีดีเอ็นเอเหมือนกันหมด ฟันธงว่ามาจากบริษัทเอกชนรายหนึ่ง ซึ่งความจริงแล้ว ไม่สามารถระบุได้เช่นนั้น เพราะขาดตัวอย่างลูกปลาที่เคยนำเข้ามาในอดีต มาวิเคราะห์เทียบเคียง แต่ก็ยังมีความหวัง ด้วยการนำเอาลำดับดีเอ็นเอของปลาหมอคางดำในประเทศไทย มาวิเคราะห์เทียบกับปลาหมอคางดำในประเทศอื่น ๆ ของทวีปแอฟริกา ก็จะเข้าใกล้คำตอบมากขึ้นถึงที่มาของการแพร่ระบาด ว่าเป็นปลาที่นำเข้ามาจากประเทศใด” รศ.ดร.เจษฎา กล่าว

ผศ.ดร.วันศุกร์ เสนานาญ ภาควิชาวาริชศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวว่า จากการศึกษาดีเอ็นเอของปลาหมอคางดำ ที่รายงานโดยกรมประมง เมื่อปี 2561-2563 พบว่ามีการรุกรานระลอกแรกที่พบพื้นที่สมุทรสงคราม สมุทรสาคร เพชรบุรี สมุทรปราการ ประจวบฯ ชุมพร และ ระยอง บ่งชี้ว่าปลาจากทั่วประเทศ อาจมาจากการนำเข้าพื้นที่มากกว่า 1 ครั้ง นอกจากนี้ การกระจายต่างพื้นที่ที่อยู่ห่างกัน น่าจะไปโดยการนำพาเข้าไปของมนุษย์ มากกว่าที่จะไปโดยธรรมชาติ  

“บทเรียนสำคัญที่ได้จากการรุกรานของปลาหมอคางดำและความเสียหายที่เกิดขึ้น ทำให้เห็นจำเป็นของการประเมินความเสี่ยงและวางมาตรการรับมืออย่างเหมาะสม โดยอาจต้องพิจารณาผลกระทบอย่างรอบด้าน รวมถึงการนำเข้าด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์” ผศ.ดร.วันศุกร์ กล่าวเพิ่มเติม

สำหรับการควบคุมและกำจัด ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดุสิต สุขสวัสดิ์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มองว่าวิธีการจัดการด้วยการใช้ไฟฟ้าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจและมีประสิทธิภาพในการยุติการแพร่กระจายของปลาหมอคางดำที่กำลังวิกฤตในขณะนี้ เดิมทีประเทศไทยเคยมีคำพูดที่ว่าในน้ำมีปลาในนามีข้าว แต่มาตอนนี้ในน้ำของเรามีแต่ปลาหมอคางดำ แม้กระทั่งบ่อเกษตรกรก็ไม่รอด ในกรณีศึกษาจากต่างประเทศที่เผชิญกับการรุกรานของปลาเอเลี่ยนสปีชีส์ จะมีวิธีการจัดการด้วยการใช้ไฟฟ้าอย่างแพร่หลาย เช่น การจัดการด้วยเรือช็อตไฟฟ้า เครื่องช็อตไฟฟ้าแบบสะพายหลัง และตะแกรงช็อตไฟฟ้า เพราะเป็นวิธีการที่ปลอดภัย ไม่ทิ้งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม และสร้างความยั่งยืนในระยะยาว เพราะหากไม่มีปลาหมอคางดำแล้ว ก็จะสามารถสร้างระบบนิเวศน์สัตว์น้ำขึ้นมาได้ใหม่ โดยการปล่อยและเพาะพันธ์สัตว์น้ำคืนตามธรรมชาติ เพื่อทำให้ในน้ำของเรากลับมามีปลาอย่างเช่นเคย

ด้าน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อนงค์ภัทร สุทธางคกูล อาจารย์ประจำภาควิชาพันธุศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เสนออีกทางเลือกหนึ่งในการควบคุมประชากรปลาหมอคางดำทางชีวภาพสามารถทำได้โดยการปรับแต่งจีโนม (genome editing) ซึ่งเป็นเทคนิคที่แก้ไขรหัสพันธุกรรมในตำแหน่งที่ต้องการอย่างจำเพาะ และไม่ถือเป็นสิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรม (GMO) หากไม่มีสารพันธุกรรมจากสิ่งมีชีวิตอื่นหลงเหลืออยู่ เทคนิคนี้สามารถใช้เปลี่ยนเพศปลาได้ ซึ่งได้รับการทดสอบแล้วในปลานิล นอกจากนี้ยังมีการใช้เทคนิคดังกล่าวในการสร้างระบบ gene drive ที่ควบคุมประชากรยุงได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่การใช้ระบบ gene drive นี้จะเป็นการปล่อย GMO สู่สิ่งแวดล้อม จากข้อมูลข้างต้น แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ในการปรับแต่งจีโนมเพื่อเปลี่ยนเพศ ร่วมกับการนำระบบ gene drive มาใช้ในการจัดการการระบาดของปลาหมอคางดำ ซึ่งต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมทั้งในด้านเทคโนโลยี และแนวทางในการป้องกันหรือลดทอนผลกระทบต่อระบบนิเวศ อีกอย่างน้อย 2-3 ปี

นายคงภพ อำพลศักดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านพันธุกรรมสัตว์น้ำ (นักวิชาการประมงเชี่ยวชาญ) กองวิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำ กรมประมง กล่าวว่า ปัจจุบันการควบคุมปลาหมอคางดำด้วยชีววิธี (Biological control) ที่กรมประมงเลือกใช้มี 2 วิธีได้แก่ 1) การปล่อยปลาผู้ล่าได้แก่ปลากะพงขาว ปลาอีกง ปลาช่อน ปลากดแก้ว เป็นต้น 2) การปล่อยปลาหมอคางดำโครโมโซม 4 ชุด (4n) เพื่อให้ไปผสมกับปลาที่อยู่ในแหล่งน้ำแล้วได้ลูกที่เป็นหมัน ไม่สามารถสืบพันธุ์ต่อได้ วิธีควบคุมปลาหมอคางดำทั้ง 2 วิธีนี้มีเป้าหมายทำให้ประสิทธิภาพการขยายพันธุ์ของปลาหมอคางดำลดลง ทั้งนี้กรมประมงคำนึงถึงปริมาณปลา(ปลาผู้ล่า และปลา 4 n) และช่วงเวลาที่จะดำเนินการปล่อยให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด และส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน้อยที่สุด

สำหรับงานเสวนาวิชาการ Chula the Impact ครั้งที่ 24 “ระดมคิด พลิกวิกฤตคางดำ” ผู้สนใจสามารถรับชมการถ่ายทอดสดย้อนหลังได้ทาง Facebook Live : Chulalongkorn University  https://www.facebook.com/ChulalongkornUniversity .-516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดปมสามียิงภรรยาดับคารถ ปัญหาเรื่องเงิน

กทม. 11 มิ.ย. – เปิดปมเหตุสามียิงภรรยาดับคารถ พี่ชายกับเพื่อนรุ่นน้องเผยว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาเรื่องเงิน พบช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไป จากกรณีนายมีนาพัฒน์ อายุ 40 ปี ก่อเหตุยิงนางสาวนันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยาของตัวเอง แล้วทิ้งศพไว้ในรถ ในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เขตบางแค และหลังก่อเหตุปิดล็อกประตูเงียบอยู่ในบ้านพัก เจ้าหน้าที่ล้อมจับนาน 4 ชั่วโมง จนยอมมอบตัวเมื่อคืนวานนี้ (10 มิ.ย.) ต่อมาพี่ชายของนายมีนาพัฒน์ มาเยี่ยมผู้ก่อเหตุที่ สน.เพชรเกษม เปิดใจยอมรับว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัญหาเรื่องเงิน เมื่อช่วงเดือนเมษายน น้องสะใภ้ (ผู้ตาย) บอกว่า น้องชายนำบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดกไปเข้าธนาคาร 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งผิดจากปกติที่น้องไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินมาก่อน เพราะแม่ยกสมบัติให้เยอะมาก ครั้งสุดท้ายที่คุยกับน้องชายคือเมื่อวานนี้ช่วง 19.30 น. น่าหลังจากก่อเหตุฆ่าภรรยาแล้ว คุยกันประมาณครึ่งชั่วโมงสังเกตได้ว่าน้องชายมีอาการสับสน พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มีบางประโยคที่น้องชายพูดออกมาแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจ เรื่องบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดก บอกว่า “บ้านหลังนี้ครอบครัวเราจะต้องได้อยู่” […]

ตำรวจภาค 8 รวบ 3 ราย ขบวนการส่งยาขนมากับรถทัวร์

กระบี่ 11 มิ.ย. – รวบขบวนการค้ายาบ้า ขนมากับรถทัวร์ สายเชียงใหม่-ภูเก็ต 3 แสนเม็ด แวะลงกระบี่ ส่งให้เอเย่นต์สาขาสุราษฎร์ฯ ตำรวจรวบทีเดียวทั้งคนส่งและคนรับ นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผบช.ภ.8 รักษาการ ผบ.ภ.จ.กระบี่ แถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ได้ผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า 300,000 เม็ด ประกอบด้วย นายสัมพันธ์ อายุ 54 ปี นายสุรพล อายุ 30 ปี และนางสาวสุนารี อายุ 27 ปี พร้อมยึดรถเก๋ง 1 คัน และแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน การจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการส่งมอบยาบ้ากันบริเวณสามแยกเขาต่อ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เมื่อถึงเวลาก็มีรถทัวร์สายเชียงใหม่-ภูเก็ต […]

‘ฮุน มาเนต’ ย้ำทหารกัมพูชาไม่ได้ถอยออกจากพื้นที่

ปารีส 10 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่งสารจากฝรั่งเศสถึงชาวกัมพูชา ยืนยันจุดยืนกองทัพไม่ได้ถอนออกจากพื้นที่ภายใต้อธิปไตย พร้อมร่วมมือกับไทยปักปันเขตแดน ตามกลไกเจบีซี ยกเว้น 4 จุดที่จะส่งศาลโลกตัดสิน ฮุน มาเนต ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าร่วมการประชุมว่าด้วยมหาสมุทรของสหประชาชาติ ครั้งที่ 3 ที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Hun Manet ส่งสารถึงชาวกัมพูชา มีใจความดังนี้ กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางแก้ไขปัญหานี้โดยสันติ แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการพยายามรุกรานใดๆ กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะเข้าร่วมสนับสนุนกลไกการเจรจาชายแดนกับไทยที่มีคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม เพื่อดำเนินงานรังวัดและปักปันเขตแดนที่เหลือระหว่าง 2 ประเทศต่อไป ยกเว้นประเด็นที่กัมพูชาจะส่งให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ไอซีเจ (ICJ) พิจารณา

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ดูบังเกอร์หลบภัย ถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ มท.

11 มิ.ย.- นายกฯ ดูชาวบ้านทำบังเกอร์ ร้องโถ่ ก่อนถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ ก.มหาดไทย หลังรายงานขอรับบริจาคมาใช้แทนยางรถยนต์ วันนี้ (11 มิ.ย. 68) เวลา 13.40 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ต่อมายังหมู่บ้านสกลพัฒนา ตำบลตะเคียน อำเภอกาบเชิง เพื่อพบปะชาวบ้าน มอบสิ่งของ และตรวจดูการทำบังเกอร์หลบภัย โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้มีชาวบ้านนำผ้าขาวม้ามามอบให้ ซึ่งนายกฯ รับมาก่อนจะหันไปหานายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า “ผูกกันเป็นทีม” ก่อนจะมอบสิ่งของอุปโภค – บริโภค เพื่อให้กำลังใจชาวบ้านในพื้นที่ จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมการสร้างบังเกอร์ โดยมีนายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านสกลพัฒนา รายงาน โดยนายกรัฐมนตรี ถามผู้ว่าฯ ว่า ขอเข้าไปดูได้หรือไม่ และถามชาวบ้านบ้านว่า “ทำมานานหรือยัง” โดยชาวบ้านบอกว่า […]

คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา-ค้านประกันตัว

กรุงเทพฯ 11 มิ.ย. – คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ ตำรวจคัดค้านการประกันตัว ส่วนผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวฝากขังพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 1 ควบคุมตัวหมอแอร์ ไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากการกระทำความผิดมีอัตราโทษสูง เกรงว่าจะมีการหลบหนีและยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ในระหว่างควบคุมตัว หมอแอร์สวมหมวก แว่นตาดำ และแมสก์ปิดบังใบหน้า พยายามแอบอยู่หลังเจ้าหน้าที่ โดยไม่ตอบคำถามของสื่อมวลชนแต่อย่างใด สำหรับผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ วันพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) .-สำนักข่าวไทย

เปิดขบวนการ “หมอแอร์” สวมชื่อคนตายซื้อยาเสียสาว

11 มิ.ย. – ผู้ช่วย ผบ.ตร. นำแถลงกรณี “หมอแอร์” พร้อมพวกรวม 7 คน แอบอ้างชื่อคลินิก 12 แห่ง สั่งซื้อยายาเสียสาว นำมาขายต่อ นาน 3 ปี และยังสวมชื่อคนตาย 370 คน รับยา ขณะที่ รพ.ตำรวจ มีคำสั่งให้ “หมอแอร์” ออกจากราชการไว้ก่อน หลังเมื่อวานนี้ (10 มิ.ย.68) เจ้าหน้าที่บุกจับ “หมอแอร์” คุณหมอชื่อดัง สังกัดโรงพยาบาลตำรวจ พร้อมพวก แอบอ้าง 12 คลินิก สั่งซื้อยาควบคุม (ยาเสียสาว) นำมาขายต่อ นาน 3 ปี วันนี้ (11 มิ.ย.68) มีการแถลงข่าวเรื่องนี้ นำโดย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย […]

เปิดภาพความจริง! อดีต-ปัจจุบันชายแดนช่องบก

11 มิ.ย. – ‘กองทัพไทย’ เปิดภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศ ชายแดนช่องบก อุบลราชธานี เปรียบเทียบอดีต-ปัจจุบัน พบการทำกิจกรรมทางทหาร-ขุดคูเลต-ทำถนนส่งกำลังบำรุง ก่อนเหตุปะทะช่องบก 28 พ.ค.2568 ทีมโฆษกกองทัพไทย เปิดข้อมูลแผนที่ทางอากาศ จัดทำโดยกองบัญชาการกองทัพไทย จากกรณีไทย และกัมพูชา มีข้อสังเกตหลายประเด็นที่ปรากฏในภาพถ่ายทางอากาศตรงจุดปะทะ โดยภาพถ่ายทางอากาศ เริ่มตั้งแต่ปี 2497 ช่วงแรกถ่ายไว้จนถึงปี 2520, 2527 และมีการถ่ายภาพทางอากาศอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีที่อ้างถึงการยึดครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่ที่มีปัญหานานมากแล้วนั้น หากมองตามภาพถ่ายทางอากาศ จะยืนยันได้ว่า ไม่มีการเข้าไปใช้พื้นที่อย่างที่อ้าง ข้อมูลของกองทัพไทย ยังได้เปรียบเทียบเส้นสีแดงในแผนที่ เป็นเส้นแนวที่ไทยยึดถือ ใช้แบ่งแนวเขตระหว่างไทย กัมพูชา และลาว ส่วนจุดปะทะที่เกิดขึ้นนั้น เป็นพื้นที่ที่เข้ามาทางฝั่งไทย ทั้งนี้ กองทัพไทยยังมีการถ่ายทางอากาศต่อเนื่องยาวมาถึงปี 2539, 2546, 2553 และ 2561 เป็นที่สังเกตได้ว่า ช่วง 70 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2497 ไม่มีใครเข้ามาถือครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่นั้น หากมองถึงกิจกรรมของประเทศเพื่อนบ้านที่ประเด็นในปัจจุบันนั้น เห็นได้อย่างชัดเจนตามภาพถ่ายทางอากาศว่า มีการเคลื่อนไหวทางการทหารที่แตกต่าง […]