NT ชี้แจงให้บริการ NSW ตอบโจทย์ทุกภาคส่วน

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – NT แจงคิดค่าบริการ NSW กับผู้ให้บริการเชื่อมโยงข้อมูลทุกรายด้วยมาตรฐานเดียวกันตามหลักเกณฑ์หน่วยงานกำกับดูแล ย้ำนำรายได้ไปพัฒนาบริการตามมาตรฐานสากลตอบโจทย์การแลกเปลี่ยนข้อมูลทุกภาคส่วน


พ.อ.สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เปิดเผยเกี่ยวกับกรณีที่บริษัท เน็ตเบย์ ได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมเรื่องการคิดค่าบริการ National Single Window หรือ NSW ว่า บริการ NSW เป็นบริการแลกเปลี่ยนเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างผู้ประกอบการที่เกี่ยวกับการนำเข้าส่งออกกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งนี้ระบบ NSW เริ่มให้บริการโดยกรมศุลกากรมาตั้งแต่ปี 2551 ก่อนที่จะมอบให้ NT ดำเนินการในปี 2563 ตามมติ ครม. ซึ่งโครงสร้างการให้บริการ NSW เดิมที่ให้บริการโดยกรมศุลกากรนั้น ผู้ประกอบการนำเข้าส่งออกเกือบทั้งหมดจะไม่ได้เชื่อมต่อโดยตรงกับระบบ NSW แต่จะเชื่อมต่อผ่านผู้ให้บริการ VAN/VAS (Value Added Network/Value Added Service) หรือ Gateway ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงข้อมูลกับระบบ NSW โดยผู้ให้บริการ VAN/VAS หรือ Gateway มีการคิดค่าบริการเชื่อมโยงข้อมูลกับผู้ประกอบการนำเข้าส่งออกอ้างอิงตามอัตราที่กรมศุลกากรกำหนด อย่างไรก็ตามกรมศุลกากรไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายกับผู้ให้บริการ VAN/VAS หรือ Gateway เนื่องจากกรมศุลกากรได้ขอรับการสนับสนุนด้านงบประมาณจากรัฐบาลในการพัฒนาและให้บริการระบบ NSW ทั้งนี้ต่อมา ครม. ได้มีมติให้ NT เป็นผู้ให้บริการระบบ NSW แทนกรมศุลกากรเพื่อลดภาระด้านงบประมาณของภาครัฐ โดยให้ NT ลงทุนจัดหาระบบ NSW ใหม่ทดแทนระบบเดิมของกรมศุลกากร และให้คิดค่าใช้บริการระบบ NSW เพื่อให้ระบบสามารถดำเนินการและพัฒนาขีดความสามารถได้อย่างต่อเนื่อง

พ.อ.สรรพชัยย์ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า NT ได้พัฒนาระบบ NSW ใหม่ทดแทนระบบเดิมของกรมศุลกากรและเริ่มทดลองให้บริการโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายมาตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2564 โดยระหว่างการทดลองให้บริการนั้น NT ได้เปิดให้ผู้สนใจร่วมให้บริการ NSW กับ NT ซึ่งรวมถึงกลุ่มผู้ให้บริการ VAN/VAS และ Gateway เดิมที่เคยให้บริการอยู่บนระบบ NSW ของกรมศุลกากร สมัครเป็นผู้ให้บริการเชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ (NSP : NSW Service Provider) เพื่อทำหน้าที่เชื่อมโยงข้อมูลระหว่างผู้ประกอบการนำเข้าส่งออกเข้ากับระบบ NSW ใหม่ โดย NT ได้นำเสนออัตราค่าบริการ NSW ต่อคณะอนุกรรมการพัฒนานโยบายและกำกับดูแลระบบ National Single Window เพื่อประกาศใช้ รวมถึงได้หารือกับชมรมข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์และบริการแห่งประเทศไทย ซึ่งประกอบด้วยผู้ให้บริการ VAN/VAS และ Gateway เดิมถึงความเหมาะสมในการคิดอัตราค่าบริการ ซึ่งผู้ให้บริการเกือบทั้งหมดเห็นด้วยกับอัตราค่าบริการดังกล่าวและได้ลงทะเบียนเป็น NSP พร้อมปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านคุณสมบัติและหน้าที่ต่าง ๆ ที่คณะอนุกรรมการพัฒนานโยบายและกำกับดูแลระบบ National Single Window กำหนด ซึ่งปัจจุบันมีผู้ให้บริการ NSP ให้บริการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างผู้ประกอบการนำเข้าส่งออกและระบบ NSW ที่ขึ้นทะเบียนแล้วจำนวน 8 รายได้ ได้แก่ 1) บริษัท ทิฟฟ่า อีดีไอ เซอร์วิสเซส จำกัด 2) บริษัท อี-คัสตอม เซอร์วิส จำกัด 3) บริษัท เค-ซอฟท์แวร์ จำกัด 4) บริษัท คอมพิวเตอร์ ดาต้า ซิสเต็ม จำกัด 5) บริษัท ไทยเทรดเน็ท จำกัด 6) บริษัท อีดีไอ สยาม จำกัด 7) บริษัท ขวัญชัย เทคโนโลยี แอนด์ คอนซัลแตนท์จำกัด 8) บริษัท เทรด สยาม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด โดยหลังจากที่ NT เปิดให้บริการ NSW อย่างเป็นทางการตั้งแต่เดือน ก.พ 2566 นั้น NSP ทุกรายที่ขึ้นทะเบียนแล้วชำระค่าใช้บริการ NSW มาโดยตลอดและไม่ได้มีปัญหากับผู้ประกอบการการนำเข้าส่งออกแต่อย่างใด


บริษัทที่ร้องเรียนเป็นผู้ให้บริการ Gateway เดิมซึ่งให้บริการเชื่อมโยงข้อมูลผู้ประกอบการนำเข้าส่งออกกับระบบ NSW เดิมของกรมศุลกากร ลักษณะคล้ายกับผู้ให้บริการ VAN/VAS หรือ Gateway รายอื่นที่มาขึ้นทะเบียนเป็น NSP บนระบบ NSW ใหม่ อย่างไรก็ตามผู้ร้องเรียนปฏิเสธไม่ลงทะเบียนและปฏิบัติตามข้อกำหนดการเป็นผู้ให้บริการ NSP บนระบบ NSW ใหม่ แต่ยังมีการใช้บริการ NSW ต่อเนื่องมาตั้งแต่ NT เปิดทดลองให้บริการโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่ง NT ได้พยายามเจรจากับผู้ร้องเรียนมาโดยตลอดเพื่อให้ผู้ร้องเรียนขึ้นทะเบียนเป็น NSP และปฏิบัติตามข้อกำหนดเพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกันกับ NSP รายอื่นและไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำในการแข่งขันระหว่าง NSP ด้วยกัน ตามที่มี NSP บางรายแจ้งปัญหาเข้ามา แต่การเจรจาไม่บรรลุผล ผู้ร้องเรียนยังไม่ขึ้นทะเบียนเป็น NSP และไม่ชำระค่าบริการทำให้สูญเสียรายได้ที่จะต้องนำส่งรัฐ NT จึงต้องดำเนินการทางกฎหมาย อย่างไรก็ตามเพื่อไม่ให้กระทบกับผู้ประกอบการนำเข้าส่งออก NT ยังคงรักษาคุณภาพการให้บริการตามมาตรฐานมาโดยตลอด

“NT นำรายได้ที่ได้จากการให้บริการ NSW มาเพื่อรักษามาตรฐานการให้บริการและพัฒนาบริการอย่างต่อเนื่อง โดยนับตั้งแต่ได้รับโอนระบบมาจากกรมศุลกากร เราได้พัฒนาบริการเพิ่มเติมทั้งระบบรายงานเรือและใบขนสินค้าชายฝั่ง (e-Coasting Trade) ระบบนำเข้าส่งออกพืชกระท่อม ระบบใบรับรองสุขอนามัยพืช (e-Phyto) ระบบใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (e-C/O) และอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบ Single Submission เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถยื่นขอใบอนุญาตหน่วยงานรัฐต่าง ๆ ผ่าน NSW ณ จุดเดียวได้ รวมถึงระบบให้บริการใบสั่งปล่อยสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ (e-D/O) ระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างภาคธุรกิจในรูปแบบ B2B ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ นอกจากนี้ NT ยังได้พัฒนาคุณภาพบริการ NSW จนผ่านการตรวจรับรองมาตรฐานสากลทั้งด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ ISO27001 ด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ISO27701 และด้านการบริหารความต่อเนื่องบริการ ISO22301 สร้างความมั่นใจระบบไม่มีความเสี่ยง ซึ่งจะเห็นได้ว่า NT มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาบริการ NSW ให้เป็นแพลตฟอร์มกลางในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่สะดวก ปลอดภัย ตอบโจทย์และเป็นธรรมกับทุกภาคส่วน”. -513-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]

“ปราสาทตาเมือนธม” วุ่น ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย

กทม. 15 ก.ค.-ทบ.อยู่ระหว่างตรวจสอบปมความวุ่นวาย “ปราสาทตาเมือนธม” หลังมีข่าวทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย ด้าน มทภ.2 ยันสถานการณ์ปกติ อย่าตื่นตระหนก 15 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล หลังเกิดเหตุความไม่เรียบร้อยที่ปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ จากกรณีหญิงชาวกัมพูชา ตะโกนใส่ทหารไทยว่าล้ำเส้นเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชา และมีการทะเลาะกันเสียงดัง ทำให้ทหารไทยและทหารกัมพูชาที่อยู่ในจุดนั้นต้องเข้ามาห้าม แต่เหตุการณ์ลุกลาม ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย วิ่งเข้ามาในบริเวณฝั่งไทย ตรงบันไดทางขึ้นปราสาทตาเมือนธม ทางด้านทหารไทยก็ได้เข้าไปอยู่ในจุดดังกล่าวด้วย โดยสถานการณ์มีการผลักอกกัน ตะโกนโวยวาย ล่าสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 แจงว่า ปราสาทตาเมือนธม เหตุการณ์ปกติ ไม่มีอะไร ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตกใจ.-313.-สำนักข่าวไทย