NT ชี้แจงให้บริการ NSW ตอบโจทย์ทุกภาคส่วน

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – NT แจงคิดค่าบริการ NSW กับผู้ให้บริการเชื่อมโยงข้อมูลทุกรายด้วยมาตรฐานเดียวกันตามหลักเกณฑ์หน่วยงานกำกับดูแล ย้ำนำรายได้ไปพัฒนาบริการตามมาตรฐานสากลตอบโจทย์การแลกเปลี่ยนข้อมูลทุกภาคส่วน


พ.อ.สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เปิดเผยเกี่ยวกับกรณีที่บริษัท เน็ตเบย์ ได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมเรื่องการคิดค่าบริการ National Single Window หรือ NSW ว่า บริการ NSW เป็นบริการแลกเปลี่ยนเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างผู้ประกอบการที่เกี่ยวกับการนำเข้าส่งออกกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งนี้ระบบ NSW เริ่มให้บริการโดยกรมศุลกากรมาตั้งแต่ปี 2551 ก่อนที่จะมอบให้ NT ดำเนินการในปี 2563 ตามมติ ครม. ซึ่งโครงสร้างการให้บริการ NSW เดิมที่ให้บริการโดยกรมศุลกากรนั้น ผู้ประกอบการนำเข้าส่งออกเกือบทั้งหมดจะไม่ได้เชื่อมต่อโดยตรงกับระบบ NSW แต่จะเชื่อมต่อผ่านผู้ให้บริการ VAN/VAS (Value Added Network/Value Added Service) หรือ Gateway ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงข้อมูลกับระบบ NSW โดยผู้ให้บริการ VAN/VAS หรือ Gateway มีการคิดค่าบริการเชื่อมโยงข้อมูลกับผู้ประกอบการนำเข้าส่งออกอ้างอิงตามอัตราที่กรมศุลกากรกำหนด อย่างไรก็ตามกรมศุลกากรไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายกับผู้ให้บริการ VAN/VAS หรือ Gateway เนื่องจากกรมศุลกากรได้ขอรับการสนับสนุนด้านงบประมาณจากรัฐบาลในการพัฒนาและให้บริการระบบ NSW ทั้งนี้ต่อมา ครม. ได้มีมติให้ NT เป็นผู้ให้บริการระบบ NSW แทนกรมศุลกากรเพื่อลดภาระด้านงบประมาณของภาครัฐ โดยให้ NT ลงทุนจัดหาระบบ NSW ใหม่ทดแทนระบบเดิมของกรมศุลกากร และให้คิดค่าใช้บริการระบบ NSW เพื่อให้ระบบสามารถดำเนินการและพัฒนาขีดความสามารถได้อย่างต่อเนื่อง

พ.อ.สรรพชัยย์ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า NT ได้พัฒนาระบบ NSW ใหม่ทดแทนระบบเดิมของกรมศุลกากรและเริ่มทดลองให้บริการโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายมาตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2564 โดยระหว่างการทดลองให้บริการนั้น NT ได้เปิดให้ผู้สนใจร่วมให้บริการ NSW กับ NT ซึ่งรวมถึงกลุ่มผู้ให้บริการ VAN/VAS และ Gateway เดิมที่เคยให้บริการอยู่บนระบบ NSW ของกรมศุลกากร สมัครเป็นผู้ให้บริการเชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ (NSP : NSW Service Provider) เพื่อทำหน้าที่เชื่อมโยงข้อมูลระหว่างผู้ประกอบการนำเข้าส่งออกเข้ากับระบบ NSW ใหม่ โดย NT ได้นำเสนออัตราค่าบริการ NSW ต่อคณะอนุกรรมการพัฒนานโยบายและกำกับดูแลระบบ National Single Window เพื่อประกาศใช้ รวมถึงได้หารือกับชมรมข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์และบริการแห่งประเทศไทย ซึ่งประกอบด้วยผู้ให้บริการ VAN/VAS และ Gateway เดิมถึงความเหมาะสมในการคิดอัตราค่าบริการ ซึ่งผู้ให้บริการเกือบทั้งหมดเห็นด้วยกับอัตราค่าบริการดังกล่าวและได้ลงทะเบียนเป็น NSP พร้อมปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านคุณสมบัติและหน้าที่ต่าง ๆ ที่คณะอนุกรรมการพัฒนานโยบายและกำกับดูแลระบบ National Single Window กำหนด ซึ่งปัจจุบันมีผู้ให้บริการ NSP ให้บริการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างผู้ประกอบการนำเข้าส่งออกและระบบ NSW ที่ขึ้นทะเบียนแล้วจำนวน 8 รายได้ ได้แก่ 1) บริษัท ทิฟฟ่า อีดีไอ เซอร์วิสเซส จำกัด 2) บริษัท อี-คัสตอม เซอร์วิส จำกัด 3) บริษัท เค-ซอฟท์แวร์ จำกัด 4) บริษัท คอมพิวเตอร์ ดาต้า ซิสเต็ม จำกัด 5) บริษัท ไทยเทรดเน็ท จำกัด 6) บริษัท อีดีไอ สยาม จำกัด 7) บริษัท ขวัญชัย เทคโนโลยี แอนด์ คอนซัลแตนท์จำกัด 8) บริษัท เทรด สยาม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด โดยหลังจากที่ NT เปิดให้บริการ NSW อย่างเป็นทางการตั้งแต่เดือน ก.พ 2566 นั้น NSP ทุกรายที่ขึ้นทะเบียนแล้วชำระค่าใช้บริการ NSW มาโดยตลอดและไม่ได้มีปัญหากับผู้ประกอบการการนำเข้าส่งออกแต่อย่างใด


บริษัทที่ร้องเรียนเป็นผู้ให้บริการ Gateway เดิมซึ่งให้บริการเชื่อมโยงข้อมูลผู้ประกอบการนำเข้าส่งออกกับระบบ NSW เดิมของกรมศุลกากร ลักษณะคล้ายกับผู้ให้บริการ VAN/VAS หรือ Gateway รายอื่นที่มาขึ้นทะเบียนเป็น NSP บนระบบ NSW ใหม่ อย่างไรก็ตามผู้ร้องเรียนปฏิเสธไม่ลงทะเบียนและปฏิบัติตามข้อกำหนดการเป็นผู้ให้บริการ NSP บนระบบ NSW ใหม่ แต่ยังมีการใช้บริการ NSW ต่อเนื่องมาตั้งแต่ NT เปิดทดลองให้บริการโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่ง NT ได้พยายามเจรจากับผู้ร้องเรียนมาโดยตลอดเพื่อให้ผู้ร้องเรียนขึ้นทะเบียนเป็น NSP และปฏิบัติตามข้อกำหนดเพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกันกับ NSP รายอื่นและไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำในการแข่งขันระหว่าง NSP ด้วยกัน ตามที่มี NSP บางรายแจ้งปัญหาเข้ามา แต่การเจรจาไม่บรรลุผล ผู้ร้องเรียนยังไม่ขึ้นทะเบียนเป็น NSP และไม่ชำระค่าบริการทำให้สูญเสียรายได้ที่จะต้องนำส่งรัฐ NT จึงต้องดำเนินการทางกฎหมาย อย่างไรก็ตามเพื่อไม่ให้กระทบกับผู้ประกอบการนำเข้าส่งออก NT ยังคงรักษาคุณภาพการให้บริการตามมาตรฐานมาโดยตลอด

“NT นำรายได้ที่ได้จากการให้บริการ NSW มาเพื่อรักษามาตรฐานการให้บริการและพัฒนาบริการอย่างต่อเนื่อง โดยนับตั้งแต่ได้รับโอนระบบมาจากกรมศุลกากร เราได้พัฒนาบริการเพิ่มเติมทั้งระบบรายงานเรือและใบขนสินค้าชายฝั่ง (e-Coasting Trade) ระบบนำเข้าส่งออกพืชกระท่อม ระบบใบรับรองสุขอนามัยพืช (e-Phyto) ระบบใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (e-C/O) และอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบ Single Submission เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถยื่นขอใบอนุญาตหน่วยงานรัฐต่าง ๆ ผ่าน NSW ณ จุดเดียวได้ รวมถึงระบบให้บริการใบสั่งปล่อยสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ (e-D/O) ระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างภาคธุรกิจในรูปแบบ B2B ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ นอกจากนี้ NT ยังได้พัฒนาคุณภาพบริการ NSW จนผ่านการตรวจรับรองมาตรฐานสากลทั้งด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ ISO27001 ด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ISO27701 และด้านการบริหารความต่อเนื่องบริการ ISO22301 สร้างความมั่นใจระบบไม่มีความเสี่ยง ซึ่งจะเห็นได้ว่า NT มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาบริการ NSW ให้เป็นแพลตฟอร์มกลางในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่สะดวก ปลอดภัย ตอบโจทย์และเป็นธรรมกับทุกภาคส่วน”. -513-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ว่าฯ สงขลา จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ทุกสัปดาห์

กทม. 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ทำหนังสือด่วน จัดคิวนายอำเภอ เวียนต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ สข 0017.3/17839 เรื่อง ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียน นายอำเภอเมืองสงขลา ด้วยจังหวัดสงขลาได้รับแจ้งว่า นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดเดินทางมาราชการในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจราชการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล และมีกำหนดเดินทางกลับไปปฏิบัติราชการ ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3103 เวลา 08.25-09.50 น. เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จังหวัดสงขลาจึงขอให้ท่านดำเนินการ ดังนี้ 1. เชิญนายอำเภอเมืองสงขลา ร่วมส่งนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ณ ห้องรับรอง ท่าอากาศยานหาดใหญ่ […]

ดราม่า “ไข่เจียวปู 4,000” ถึงหูพาณิชย์

กรุงเทพฯ​ 18 ส.ค.​-“จตุพร” สั่งกรมการค้าภายในตรวจสอบประเด็น​ดราม่า​ “ไข่​เจียวปู” ร้าน​ Michelin Guide สูงถึง​จานละ 4,000 บาท​ จาก​ที่​แจ้งราคาในเมนู​ 1,500​ บาท ย้ำ​ไม่ตรงปกไม่ได้ กรณี “พีชชี่” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง โพสต์เล่าประสบการณ์สั่งไข่เจียวปูร้านดังราคาเมนู 1,500 บาท แต่ถูกเก็บจริง 4,000 บาท กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ ล่าสุด นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จะมอบหมายให้กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้​ยังไม่ได้รับรายละเอียด​ แต่โดยหลักการแล้ว ราคาที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคต้องตรงกับราคาที่ระบุในเมนู หาก “ไม่ตรงปก” จะบั่นทอนความเชื่อมั่นทางการค้า “การค้าขายจะยั่งยืนได้ต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจ หากผู้บริโภครู้สึกว่า​ ราคาไม่ตรงกับที่เห็นในเมนู ย่อมเสียความรู้สึก” นายจตุพรกล่าว เรื่องนี้เริ่มจาก “พีชชี่” โพสต์ผ่าน X เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ระบุว่าไปทานไข่เจียวปู ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับการบรรจุใน Michelin Guide โดยเมนูระบุราคา 1,500 […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

เสียงเรียกแห่งความอร่อย…ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วโบราณเชียงใหม่

เชียงใหม่ 17 ส.ค. – โดดเด่นไม่เหมือนใคร “ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วสูตรโบราณ” ของอาแปะตี๋อ้วน ที่แต่งกายแบบล้านนาโบราณ เดินหาบขายตามตลาดและย่านชุมชนใน จ.เชียงใหม่ มานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยใช้การตีกังสดาล หรือระฆังวงเดือน เรียกลูกค้า สะดุดตาผู้พบเห็น หลายคนติดใจในรสชาติและราคาที่ย่อมเยา จนมีลูกค้ามากมาย .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“มทภ.2” ชี้เขมรไว้ใจไม่ได้-ชายแดนยัง 50-50 หากปะทะพร้อมสู้

วปอ. 19 ส.ค.- “แม่ทัพภาค 2” ลั่นกลางวง วปอ. เหตุชายแดนยัง 50-50 ชี้ ‘เขมร’ ไว้ใจไม่ได้ หากปะทะพร้อมสู้ เตรียมคุย ‘อาร์บีซี’ ปลาย ส.ค.นี้ หวังคุยกันเข้าใจ ยึดผลประโยชน์ชาติ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวภายหลังพิธีมอบความช่วยเหลือทหารที่บาดเจ็บ รวมทั้งเสริมสร้างความมั่นคงของฐานที่มั่นในการปกป้องอธิปไตย จากเหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า รู้สึกชื่นชมและดีใจที่ประเทศชาติเราเป็นอย่างนี้ คนไทยไม่ทิ้งกัน เหตุการณ์ตลอดแนวชายแดนเกือบ 1,000 กิโลเมตร มีหลายเหตุการณ์ ลูกหลานทหารพยายามทำให้ดีที่สุด ทั้งนี้ การสูญเสียพวกเราป้องกันอย่างเข้มงวดทุกระดับชั้น แต่การเข้าตีบางอย่างเราเป็นฝ่ายรุกอาจมีเหตุที่พวกเราบาดเจ็บบ้าง “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยทหารทุกนายที่ได้รับผลกระทบ การปฏิบัติด้านยุทธการครั้งนี้ พระองค์ทรงรับเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ทั้งหมด” แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวอีกว่า ขอขอบคุณสิ่งของที่มอบให้ในวันนี้ จะนำไปใช้กับน้องๆ ที่อยู่หน้าแนวตามวัตถุประสงค์ ที่ทุกท่านได้มอบให้โดยด่วน ซึ่งบางครั้งงบประมาณราชการ กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก รัฐบาล ได้มอบให้เพียงพอ แต่บางรายการนั้นเร่งด่วน รอการจัดหาตามช่วงเวลาไม่ทัน […]

ผู้ว่าฯ สงขลา ตั้งกรรมการสอบปมหนังสือต้อนรับ “เดชอิศม์”

สงขลา 19 ส.ค. – ผู้ว่าฯ สงขลา สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีหนังสือราชการมีลายเซ็นผู้ว่าฯ ลงนามถึงนายอำเภอเมืองสงขลา ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก “เดชอิศม์” ขีดเส้นแล้วเสร็จใน 30 วัน นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ออกคำสั่งจังหวัดสงขลา เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีสื่อโซเชียลมีการเผยแพร่ภาพหนังสือราชการที่มีลายเซ็นผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ลงนามถึงนายอำเภอเมืองสงขลา ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวกนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการเดินทางมาราชการในพื้นที่ จนก่อให้เกิดความเสียหาย มีการตั้งข้อสังเกตวิพากษ์วิจารณ์ไปในทางเสื่อมเสีย ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของจังหวัดสงขลา คณะกรรมการดังกล่าวมีนายวิทยา จันทน์เสนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ประธานกรรมการฯ ให้ตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ก่อนรายงานผล พร้อมเสนอความเห็นต่อผู้สั่งแต่งตั้ง เพื่อพิจารณาสั่งการ และหากปรากฏมีการกระทำความผิดจริงให้ดำเนินการทั้งทางวินัยและทางอาญาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ครม.เคาะแต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กมหาดไทย 25 ตำแหน่ง

ทำเนียบ 19 ส.ค. – ครม.เห็นชอบแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงกระทรวงมหาดไทย 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” อธิบดี พช. นั่งพ่อเมืองปากน้ำ การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (19 ส.ค. 68) กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง ในที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ เช่น ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป ยกเว้นนายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง เป็นต้นไป -สำนักข่าวไทย